xs
xsm
sm
md
lg

หายนะรออยู่ไม่ไกล...

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



การระบาดของโควิด-19 ในบ้านเรารอบนี้ถือว่าหนักหนาสาหัส เป็นครั้งแรกที่องค์กรภาคเอกชนต้องออกมาหาทางช่วยตัวเอง ด้วยการเสนอมาตรการต่างๆ ต่อรัฐบาล 3 ลุง ซึ่งถูกมองว่าขาดประสิทธิภาพในการจัดการปัญหายามวิกฤตร้ายแรง

คงหมดความไว้เนื้อเชื่อใจ เพราะการระบาดรอบใหม่ก็เนื่องจากความปล่อยปละละเลยภาครัฐ ซึ่งมีปัญหาการแสวงหาผลประโยชน์ในกลุ่มนักการเมืองและข้าราชการ โดยรัฐบาลก็ขาดความสามารถในการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด

ไม่เคยจดจำบทเรียนอันเจ็บปวด 2 ครั้งก่อนหน้านี้ และทุกครั้งเป็นเพราะการทุจริตในอำนาจหน้าที่ในกลุ่มข้าราชการซึ่งเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพล กลุ่มผลประโยชน์นอกกฎหมาย และยังมีกลุ่มไฮโซ วีไอพี ซึ่งทำตัวเป็นผู้มีบารมีเหนือรัฐ 3 ลุง

และเห็นชัดเจนว่าทุกครั้งที่เกิดความผิดพลาด รัฐบาล 3 ลุงไม่กล้าแตะต้องผู้มีอิทธิพล สะท้อนให้เห็นความล้มเหลวด้านนิติรัฐ นิติธรรม กระบวนการยุติธรรม

ไม่น่าแปลกใจ เพราะคนแวดล้อม 3 ลุงล้วนเป็นกลุ่มทุรชนการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ มีเครือข่ายอำนาจใกล้ชิดรัฐบาล ทำอะไรก็หยิกเล็บเจ็บเนื้อ ทำให้รัฐบาล 3 ลุงบ้อท่า ไร้ความสามารถจัดการต้นตอของปัญหาส่งผลกระทบทั้งแผ่นดิน

ระบอบ 3 ลุงได้เป็นปัญหาของชาติ และยังไม่รู้สำนึก ถึงรู้ก็ไม่ยอมรับผิดชอบความผิดพลาด ยังคงรักษาลีลา วาทกรรมน้ำเน่าซ้ำซาก อ้างว่าจะสู้ต่อไปโดยไม่เหน็ดเหนื่อย ทั้งๆ ที่มีเสียงเรียกร้องให้กลุ่ม 3 ลุงลาออกไปได้แล้ว อยู่ไปก็ไร้ค่า

ภาคเอกชนมากระทุ้งเรื่องมาตรการต่างๆ รวมกับการขอหาวัคซีนมาฉีดให้พนักงานเอง ไม่ต้องพึ่งพางบรัฐ ซึ่งดูจากพฤติกรรมแฝงเร้นในการจัดหาวัคซีน การไม่จัดงบประมาณให้เพียงพอสำหรับแพทย์รับศึกหนักครั้งนี้ เป็นความล้มเหลว

เสียงโอดครวญจากโรงพยาบาลขนาดใหญ่ของรัฐ ขอบริจาคทรัพย์ อุปกรณ์การแพทย์จากประชาชน ถูกมองว่าเป็นทั้งคำประณาม และคำประจานความล้มเหลวของภาคการเมือง รัฐบาล ซึ่งไม่มีคำอธิบายว่าจะหวงงบประมาณไว้ทำไม

แต่ก็เข้าใจไม่ยาก ทุกวันนี้ผู้นำคณะ 3 ลุงพร่ำแต่คำพูดถึงมาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจ ไทยชนะ เราชนะ และอะไรร้อยแปด ทั้งนี้เพื่อรักษาความนิยม ไม่อยากให้ชาวบ้านแช่งด่า ต้องแจกเงินผ่านมาตรการให้ชาวบ้านพอใจ

ห่วงสภาวะเศรษฐกิจโดยไม่ลืมหูลืมตา ใช้สมองคิดว่าถ้าทุ่มเททรัพยากรทุกด้านจัดการปัญหาโควิด-19 ให้อยู่หมัดเสียก่อน ระบบเศรษฐกิจก็จะฟื้นเองเมื่อประชาชนและภาคเศรษฐกิจลดความกังวลเรื่องการระบาดติดเชื้อ

จากจำนวนคนติดเชื้อ คนตายเพิ่มขึ้น หัวหน้ารัฐบาลยังไม่สำนึกถึงภาวะฉุกเฉิน ยังทำหน้าที่เหมือนเป็นข้าราชการ เสาร์-อาทิตย์ ถือเป็นวันหยุดพักผ่อน ขณะที่บุคลากรการแพทย์ยังทำงานแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อน

อ้างเรื่องจะประชุมกับภาคเอกชน เพิ่งรู้ว่าจะพบกันวันที่ 28 โน่น ทั้งๆ ที่ภาคเอกชนแทบร้อนเป็นไฟ แต่ต้องมาทนกับระบบลุงผู้นำที่ไม่รู้หนาวรู้ร้อน โรงพยาบาลโวยวายจนเต็มกลั้น ก็ไม่พูดสักแอะว่าจะจัดงบให้รวดเร็วได้อย่างไร

นั่นเป็นเพราะความขาดแคลนทุกอย่าง หัวหน้ารัฐบาลพยายามแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปแต่ละวันด้วยการเร่งซื้อวัคซีน หลังจากทำดูเบาเพราะเสียงชมขององค์การอนามัยโลกว่าจัดการได้ดี แต่สุดท้ายก็ “ดีแตก” เพราะความห่วยแตกของระบบรัฐ

อ้างอยู่นั่นแหละว่ามีงบเพียงพอสำหรับ “เยียวยาเศรษฐกิจ และประชาชน” ผ่านมาตรการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอีกครกใหญ่ ไม่พูดเรื่องเงินให้แพทย์

หวงก้างทุกระดับ ตั้งแต่เรื่องจัดหาวัคซีน และงบสนับสนุนฝ่ายแพทย์!

มาตรการล็อกดาวน์รัฐบาลยังไม่กล้าประกาศเอง เพราะกลัวชาวบ้านด่า ทำเป็นมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดการเอง ทั้งในกรุงเทพฯ ผู้นำรัฐบาลทำขยักขย่อน กะปริบกะปรอย ใจไม่ถึง เมื่อไม่ไหวก็ให้ผู้ว่าฯ กทม. ประกาศมาตรการเข้ม

มีผู้นำรัฐบาลยุคนี้ ก็เหมือนไม่มี เพราะมีก็ไม่ได้เรื่อง อยู่มานาน 7 ปีมีแต่คนยากจนลง หนี้สินพอกพูนเพราะเก่งแต่กู้เงินมาแจก ขาดความรู้ความสามารถในการบริหาร เชื่อมั่นว่าคนยังเอาอยู่ ด้วยวาทกรรม “ไม่เอาประยุทธ์แล้วจะเอาใคร”

มีเสียงตอบสวนแล้วว่า “ใครก็ได้ ดีกว่าประยุทธ์ทั้งนั้น” แม้จะเป็นเสียงประชด แต่ก็มีแววแห่งความจริง เพราะช่วงนี้เริ่มมีเสียงค่อนแคะว่า “แย่กว่ายุคทักษิณ”

ทุกวันนี้พวกเสนาบดีไร้ผลงานยังเจื้อยแจ้ว พร่ำแต่จะเปิดประเทศตามมติเดิม ตัวเองไม่ต้องรับภาระหนักเหมือนแพทย์ ก็ยังทำตัวเป็นปัญหา เอาเรื่องวุ่นมาสุมหัวแพทย์ หลายประเทศปิดกั้นห้ามคนเข้าเพื่อลดการระบาด แต่ 3 ลุงยังเพิกเฉย

ทำตัวเป็นรัฐบาลพระเวชสันดร เอาประเทศเป็นม้าอารี เปิดให้คนติดเชื้อเข้ามาจากต่างประเทศเพิ่มภาระให้แพทย์ ทั้งๆ ที่เตียงและอย่างอื่นขาดแคลน ทำตัวเป็นคนหน้าใหญ่ แต่ในสภาวะปัจจุบัน เป็นเหมือน “เตี้ยอุ้มค่อม” ไม่รู้สถานะตัวเอง

วันก่อนมี “นักศึกษา อายุตั้งแต่ 20 กว่าจนถึง 60 กว่า รวม 8 คนติดเชื้อมาจากอินเดีย ก็ยังให้เข้ามา ทั้งๆ ที่เป็นความเสี่ยงว่าจะติดเชื้ออินเดียจนระบาดหนัก เหมือนเชื้ออังกฤษ ที่กำลังจะทำให้ระบบต่างๆ ล้มเหลวเพราะทนแบกรับไม่ไหว

กลุ่มแพทย์ได้เขียนหนังสือประจานความล้มเหลวของรัฐบาลและภาคการเมือง แต่ยังไม่มีใครเสนอหน้าออกมาชี้แจงเหตุผลว่าจะปรับปรุงให้ดีอย่างไร

ถึงเวลาต้องสำนึก ยอมรับความล้มเหลว ทำตัวเป็นคนหน้าบางได้แล้ว!


กำลังโหลดความคิดเห็น