โควิดทำนิวไฮใหม่ ติดเชื้อเพิ่ม 1,767 ราย เสียชีวิตอีก 2 สธ.เผยมีผู้ป่วยอาการหนัก128 ราย มี 28 รายที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แนะมาตรการเวิร์กฟรอมโฮม ช่วยลดการแพร่เชื้อ "เจ้าสัวซีพี" ทุ่ม 200 ล้านเสริมความพร้อม"รพ.สนาม"
เมื่อเวลา 11.33 น. วานนี้ (18เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1,767 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม113 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 42,352 ราย พักรักษาตัวใน รพ. 13,569 ราย รักษาหายแล้ว 28,683 ราย เสียชีวิตสะสม 101ราย
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,767 รายนั้น พบว่ามีผู้ป่วยอาการหนัก128 ราย มี 28 รายที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งอาการรุนแรง มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ จากข้อมูลการระบาดที่เริ่มต้นจากสถานบันเทิง แล้วไปแพร่ต่อให้คนในครอบครัว และแพร่ต่อสู่ที่ทำงาน และกระจายตัวไปทั่วประเทศ โดยข้อมูลวันที่ 4 - 8 เม.ย. ความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อจาก 1 คน ไปสู่คนอื่นๆ อยู่ที่ 2 กว่าๆ แต่หลังมีมาตรการปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ พบว่าอัตราการแพร่ระบาดอยู่ที่ 1.6 ดังนั้น แนวโน้มการระบาดขณะนี้อยู่ในช่วงชะลอ แต่ตัวเลขที่เพิ่มขณะนี้เป็นแรงเฉื่อยของการติดเชื้อก่อนหน้านี้ ฉะนั้นคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์ ตัวเลขจะค่อยๆ ลดลง แต่ช่วงนี้อาจจะมีตัวเลขสูงนิดหน่อย
ที่น่าห่วงคือ ขณะนี้มีแนวโน้มระบาดไปยังโรงเรียน องค์กร สถานประกอบการ ดังนั้นสิ่งที่จะต้องร่วมมือกันคือ มาตรการส่วนบุคคล ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงการออกไปในพื้นที่ชุมชนโดยไม่จำเป็น ประชาชนป้องกันตัวเองอย่างเข้มข้น และตอนนี้เวิร์กฟรอมโฮม เป็นมาตรการสำคัญมาก ซึ่งจุดเสี่ยงคือ การไม่สวมหน้ากากอนามัยโดยเฉพาะการกินข้าว ดังนั้นหากเป็นไปได้ขอให้งดกิจกรรมรวมกลุ่ม งานเลี้ยงสังสรรค์ และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างเพื่อนร่วมงาน
"เจ้าสัวซีพี"ทุ่ม200ล.หนุนรพ.สนาม
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 วันนี้ มีผู้ป่วยจำนวนมาก เริ่มประสบปัญหาเตียงไม่เพียงพอ ปัจจุบันมีผู้ป่วยอยู่ รพ.สนาม 571 ราย ต่อไปจะมีตัวเลขสูงมากขึ้น ก็เป็นหน้าที่ของภาคเอกชนที่ต้องเข้ามาช่วยอีกแรง
"เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้เตรียมงบฯ 200 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเรื่องรพ.สนาม ของโรงพยาบาลต่างๆ เน้นไปที่สิ่งที่เครือฯ ทำได้ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และเสริมอุปกรณ์การแพทย์ที่ขาด บริษัททุกบริษัทในเครือฯจะมาช่วยผนึกกำลังเพื่อช่วยเสริมบุคลากรทางการแพทย์ ที่เสียสละเป็นอย่างมาก โดยเริ่มต้นที่ รพ.จุฬาฯ สภากาชาดไทย และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และต่อยอดไปยังรพ.อื่นๆ อาทิ รพ.พระมงกุฎเกล้า รพงศิริราช รพ.รามาธิบดี รพ.ตำรวจ รพ.ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ เป็นต้น"
นายธนินท์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนไทย และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ดำเนินธุรกิจอยู่บนแผ่นดินไทยมาเป็นเวลา 100 ปี จึงตระหนักดีว่านี่คืออีกสถานการณ์หนึ่งที่สำคัญ จะต้องเข้ามาช่วยเหลือตามสรรพกำลังที่มีอยู่ ในการนี้เห็นว่าการรับมือด้านสาธารณสุขมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จึงร่วมมือกับ รพ.จุฬาฯ สภากาชาดไทย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดรพ.สนาม เพื่อให้การรักษาผู้ป่วย พร้อมกันนี้ จะจัดส่งอาหารครบ 3 มื้อ ให้กับรพ.สนามของ รพ.จุฬาฯ รวมถึง Hospitelอีก 4 แห่ง ในความรับผิดชอบของ รพ.จุฬาฯ และจะให้กลุ่มทรู จัดไวไฟ บริการฟรีใน รพ.สนามของจุฬาฯ ที่จะเปิดใหม่นี้ด้วย
"หากรัฐบาลเปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีน มาฉีดให้กับพนักงาน จะถือว่าเป็นการลดภาระภาครัฐ โดยเอกชนออกค่าใช้จ่ายในการดูแลจัดหาวัคซีนสำหรับพนักงาน ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องคนไทย จะก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย เชื่อมั่นว่า คนไทยและประเทศไทยจะฝ่าวิกฤตโควิด-19 นี้ไปได้อย่างแน่นอน ขอเพียงทุกคนและทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือกันตามกำลังความสามารถ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเราจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ในเร็ววันนี้" นายธนินท์กล่าว
ด้าน ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผอ.รพ.จุฬาฯ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ต้องขอบคุณ นายธนินท์ และบริษัทในเครือซีพี ที่เป็นองค์กรเอกชน ที่มีความตั้งใจดี ในการเข้ามาสนับสนุนดำเนินโครงการทั้งเรื่องรพ.สนาม และ Hospitelให้ประสบความสำเร็จและผ่านวิกฤตไปด้วยกัน
ตจว.ยอดผู้ติดเชื้อยังไม่ลด
ที่จ.เชียงใหม่ สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 196 ราย นับรวมเป็น 2,233 ราย ของการระบาดรอบใหม่แล้ว ทั้งนี้ กลุ่มเสี่ยงที่ได้รับการตรวจไปแล้ว มีทั้งสิ้น 30,113 ราย และยังอยู่ระหว่างการตรวจ รวมทั้งรอผลตรวจอีกจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการทางห้องปฏิบัติการและเน้นย้ำขอความร่วมมือให้กักตัวอยู่ตลอด ระหว่างรอผลตรวจ
ที่ จ.นครราชสีมา นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 28 ราย เป็นผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง กทม.-ปริมณฑล , สัมผัสผู้ป่วยโควิด และเดินทางไปที่เสี่ยงหรือแออัด แบ่งเป็นพื้นที่ อ.ปากช่อง 11 ราย , อ.เมืองฯ 14 ราย , อ.บัวใหญ่ 2 ราย และ อ.ปักธงชัย 1 ราย ยอดสะสมผู้ป่วยรวม 246 ราย ผู้ป่วยกระจายในพื้นที่ 20 อำเภอ ซึ่งอำเภอที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ อ.เมืองฯ 115 ราย รองลงมาเป็นอ.ปากช่อง 85 ราย
ที่จ.อุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผวจ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า จ.อุบลราชธานี มียอดผุ้ป่วยติดเชื้อสะสม 102 คน จึงได้กำหนด 9 มาตรการ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ดังนี้
1.ห้าม ใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียน และสถาบันการศึกษาทุกประเภท / ห้าม จัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกันมากกว่า 50 คน 2.ปิดสถานบันเทิง และสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด 3.รับประทานอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ ไม่เกิน 23.00 น. 4.ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ แต่ห้ามบริโภคในร้าน 5. ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. งดให้บริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก
6. งดจัดกิจกรรมสังสรรค์ งานเลี้ยง งานรื่นเริง 7.ขอความร่วมมือภาคเอกชน ให้ Work from home 8.ขอความร่วมมือ งดเดินทางไปในพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยไม่มีความจำเป็น 9. ขอความร่วมมือปฏิบัติตามาตรการ D-M-H-T-T-A โดยเคร่งครัด ประกอบด้วย เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจเชื้อโควิด-19 ใช้แอปฯไทยชนะ แอปฯหมอชนะ แอปฯฮักอุบล
จ.นนทบุรี พบผู้ป่วยยืนยันโควิด19เพิ่ม 108 ราย สะสมระลอกใหม่ 918 ราย ส่วนมากเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง เพศหญิง 52 ราย เพศชาย 56 ราย โดยผู้ป่วย ภูมิลำเนา อ.เมืองฯ 39 ราย อ.บางบัวทอง 19 ราย อ.บางใหญ่ 18 ราย อ.ปากเกร็ด 16 ราย อ.บางกรวย 11 ราย อ.ไทรน้อย 5 ราย มีอาการ 73 ราย ไม่มีอาการ 35 ราย
นายกฯ มั่นใจฟื้นฟูศก.ได้
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความมั่นใจว่า มาตรการที่ ศบค. ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ จะสามารถทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงได้โดยเร็ว โดยมาตรการที่สำคัญต่างๆ มีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่18 เม.ย. เป็นต้นไป โดยรัฐบาลตัดสินใจหลีกเลี่ยงที่จะออกมาตรการล็อกดาวน์ หรือ เคอร์ฟิว เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชนมากเกินไป แต่ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในการร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค. กำหนดอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ นายกฯ ยังมีความมั่นใจว่า เศรษฐกิจไทยจะยังสามารถขยายตัวได้ในปี 64 เนื่องจากสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด จะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งภายในปีนี้ไทยจะได้รับวัคซีนโควิดไม่น้อยกว่า 63 ล้านโดส ที่รัฐบาลได้สั่งจองไปแล้ว และที่นายกฯ ได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย10 ล้านโดส สำหรับใช้ในสถานพยาบาลของรัฐ และวัคซีนทางเลือก เพื่อนำมาให้บริการในสถานพยาบาลเอกชน ดังนั้นประชาชนในประเทศไทยจะได้รับการฉีดวัคซีน อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 35 ล้านคน ภายในปีนี้
ทั้งนี้ นายกฯ มีความมั่นใจ เรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดในระลอกนี้ ว่ารัฐบาลสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลยังมีเงินเกือบ 3.8 แสนล้านบาท สำหรับนำมาใช้เยียวยา และฟื้นฟูศก. แยกเป็นเงิน 2.4 แสนล้านบาท จากพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเงินจากงบกลาง ปี 64 ในส่วนของเงินสำรองจ่ายเพื่อการฉุกเฉินและจำเป็นอีก 98,500 ล้านบาท และงบสำหรับบรรเทาโควิด อีก 36,800 ล้านบาท ทั้งนี้รัฐบาลจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นศก. โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และการใช้งบฯ อย่างมีประสิทธิภาพ
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำลังจะตัดสินใจว่าจะเดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน นัดพิเศษ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 เม.ย.นี้หรือไม่ ทั้งนี้ หากนายกฯและคณะตัดสินใจเดินทางไปร่วม ก็จะต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิดก่อน 72 ชม. และเมื่อถึงอินโดนีเชีย จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้ออีกครั้ง ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น อย่างน้อย 5 ชม. ซึ่งขณะนี้ นายกฯ ยังไม่ยืนยันว่า จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ด้วยตนเอง หรือประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนช์
เมื่อเวลา 11.33 น. วานนี้ (18เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1,767 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม113 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 42,352 ราย พักรักษาตัวใน รพ. 13,569 ราย รักษาหายแล้ว 28,683 ราย เสียชีวิตสะสม 101ราย
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,767 รายนั้น พบว่ามีผู้ป่วยอาการหนัก128 ราย มี 28 รายที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งอาการรุนแรง มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ จากข้อมูลการระบาดที่เริ่มต้นจากสถานบันเทิง แล้วไปแพร่ต่อให้คนในครอบครัว และแพร่ต่อสู่ที่ทำงาน และกระจายตัวไปทั่วประเทศ โดยข้อมูลวันที่ 4 - 8 เม.ย. ความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อจาก 1 คน ไปสู่คนอื่นๆ อยู่ที่ 2 กว่าๆ แต่หลังมีมาตรการปิด ผับ บาร์ คาราโอเกะ พบว่าอัตราการแพร่ระบาดอยู่ที่ 1.6 ดังนั้น แนวโน้มการระบาดขณะนี้อยู่ในช่วงชะลอ แต่ตัวเลขที่เพิ่มขณะนี้เป็นแรงเฉื่อยของการติดเชื้อก่อนหน้านี้ ฉะนั้นคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์ ตัวเลขจะค่อยๆ ลดลง แต่ช่วงนี้อาจจะมีตัวเลขสูงนิดหน่อย
ที่น่าห่วงคือ ขณะนี้มีแนวโน้มระบาดไปยังโรงเรียน องค์กร สถานประกอบการ ดังนั้นสิ่งที่จะต้องร่วมมือกันคือ มาตรการส่วนบุคคล ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงการออกไปในพื้นที่ชุมชนโดยไม่จำเป็น ประชาชนป้องกันตัวเองอย่างเข้มข้น และตอนนี้เวิร์กฟรอมโฮม เป็นมาตรการสำคัญมาก ซึ่งจุดเสี่ยงคือ การไม่สวมหน้ากากอนามัยโดยเฉพาะการกินข้าว ดังนั้นหากเป็นไปได้ขอให้งดกิจกรรมรวมกลุ่ม งานเลี้ยงสังสรรค์ และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างเพื่อนร่วมงาน
"เจ้าสัวซีพี"ทุ่ม200ล.หนุนรพ.สนาม
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 วันนี้ มีผู้ป่วยจำนวนมาก เริ่มประสบปัญหาเตียงไม่เพียงพอ ปัจจุบันมีผู้ป่วยอยู่ รพ.สนาม 571 ราย ต่อไปจะมีตัวเลขสูงมากขึ้น ก็เป็นหน้าที่ของภาคเอกชนที่ต้องเข้ามาช่วยอีกแรง
"เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้เตรียมงบฯ 200 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเรื่องรพ.สนาม ของโรงพยาบาลต่างๆ เน้นไปที่สิ่งที่เครือฯ ทำได้ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และเสริมอุปกรณ์การแพทย์ที่ขาด บริษัททุกบริษัทในเครือฯจะมาช่วยผนึกกำลังเพื่อช่วยเสริมบุคลากรทางการแพทย์ ที่เสียสละเป็นอย่างมาก โดยเริ่มต้นที่ รพ.จุฬาฯ สภากาชาดไทย และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และต่อยอดไปยังรพ.อื่นๆ อาทิ รพ.พระมงกุฎเกล้า รพงศิริราช รพ.รามาธิบดี รพ.ตำรวจ รพ.ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ เป็นต้น"
นายธนินท์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนไทย และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ดำเนินธุรกิจอยู่บนแผ่นดินไทยมาเป็นเวลา 100 ปี จึงตระหนักดีว่านี่คืออีกสถานการณ์หนึ่งที่สำคัญ จะต้องเข้ามาช่วยเหลือตามสรรพกำลังที่มีอยู่ ในการนี้เห็นว่าการรับมือด้านสาธารณสุขมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จึงร่วมมือกับ รพ.จุฬาฯ สภากาชาดไทย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดรพ.สนาม เพื่อให้การรักษาผู้ป่วย พร้อมกันนี้ จะจัดส่งอาหารครบ 3 มื้อ ให้กับรพ.สนามของ รพ.จุฬาฯ รวมถึง Hospitelอีก 4 แห่ง ในความรับผิดชอบของ รพ.จุฬาฯ และจะให้กลุ่มทรู จัดไวไฟ บริการฟรีใน รพ.สนามของจุฬาฯ ที่จะเปิดใหม่นี้ด้วย
"หากรัฐบาลเปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีน มาฉีดให้กับพนักงาน จะถือว่าเป็นการลดภาระภาครัฐ โดยเอกชนออกค่าใช้จ่ายในการดูแลจัดหาวัคซีนสำหรับพนักงาน ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องคนไทย จะก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย เชื่อมั่นว่า คนไทยและประเทศไทยจะฝ่าวิกฤตโควิด-19 นี้ไปได้อย่างแน่นอน ขอเพียงทุกคนและทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือกันตามกำลังความสามารถ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเราจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ในเร็ววันนี้" นายธนินท์กล่าว
ด้าน ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผอ.รพ.จุฬาฯ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ต้องขอบคุณ นายธนินท์ และบริษัทในเครือซีพี ที่เป็นองค์กรเอกชน ที่มีความตั้งใจดี ในการเข้ามาสนับสนุนดำเนินโครงการทั้งเรื่องรพ.สนาม และ Hospitelให้ประสบความสำเร็จและผ่านวิกฤตไปด้วยกัน
ตจว.ยอดผู้ติดเชื้อยังไม่ลด
ที่จ.เชียงใหม่ สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 196 ราย นับรวมเป็น 2,233 ราย ของการระบาดรอบใหม่แล้ว ทั้งนี้ กลุ่มเสี่ยงที่ได้รับการตรวจไปแล้ว มีทั้งสิ้น 30,113 ราย และยังอยู่ระหว่างการตรวจ รวมทั้งรอผลตรวจอีกจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการทางห้องปฏิบัติการและเน้นย้ำขอความร่วมมือให้กักตัวอยู่ตลอด ระหว่างรอผลตรวจ
ที่ จ.นครราชสีมา นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 28 ราย เป็นผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง กทม.-ปริมณฑล , สัมผัสผู้ป่วยโควิด และเดินทางไปที่เสี่ยงหรือแออัด แบ่งเป็นพื้นที่ อ.ปากช่อง 11 ราย , อ.เมืองฯ 14 ราย , อ.บัวใหญ่ 2 ราย และ อ.ปักธงชัย 1 ราย ยอดสะสมผู้ป่วยรวม 246 ราย ผู้ป่วยกระจายในพื้นที่ 20 อำเภอ ซึ่งอำเภอที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ อ.เมืองฯ 115 ราย รองลงมาเป็นอ.ปากช่อง 85 ราย
ที่จ.อุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผวจ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า จ.อุบลราชธานี มียอดผุ้ป่วยติดเชื้อสะสม 102 คน จึงได้กำหนด 9 มาตรการ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ดังนี้
1.ห้าม ใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียน และสถาบันการศึกษาทุกประเภท / ห้าม จัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกันมากกว่า 50 คน 2.ปิดสถานบันเทิง และสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด 3.รับประทานอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ ไม่เกิน 23.00 น. 4.ขายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ แต่ห้ามบริโภคในร้าน 5. ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. งดให้บริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก
6. งดจัดกิจกรรมสังสรรค์ งานเลี้ยง งานรื่นเริง 7.ขอความร่วมมือภาคเอกชน ให้ Work from home 8.ขอความร่วมมือ งดเดินทางไปในพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยไม่มีความจำเป็น 9. ขอความร่วมมือปฏิบัติตามาตรการ D-M-H-T-T-A โดยเคร่งครัด ประกอบด้วย เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจเชื้อโควิด-19 ใช้แอปฯไทยชนะ แอปฯหมอชนะ แอปฯฮักอุบล
จ.นนทบุรี พบผู้ป่วยยืนยันโควิด19เพิ่ม 108 ราย สะสมระลอกใหม่ 918 ราย ส่วนมากเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง เพศหญิง 52 ราย เพศชาย 56 ราย โดยผู้ป่วย ภูมิลำเนา อ.เมืองฯ 39 ราย อ.บางบัวทอง 19 ราย อ.บางใหญ่ 18 ราย อ.ปากเกร็ด 16 ราย อ.บางกรวย 11 ราย อ.ไทรน้อย 5 ราย มีอาการ 73 ราย ไม่มีอาการ 35 ราย
นายกฯ มั่นใจฟื้นฟูศก.ได้
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความมั่นใจว่า มาตรการที่ ศบค. ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ จะสามารถทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงได้โดยเร็ว โดยมาตรการที่สำคัญต่างๆ มีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่18 เม.ย. เป็นต้นไป โดยรัฐบาลตัดสินใจหลีกเลี่ยงที่จะออกมาตรการล็อกดาวน์ หรือ เคอร์ฟิว เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชนมากเกินไป แต่ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในการร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค. กำหนดอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ นายกฯ ยังมีความมั่นใจว่า เศรษฐกิจไทยจะยังสามารถขยายตัวได้ในปี 64 เนื่องจากสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด จะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งภายในปีนี้ไทยจะได้รับวัคซีนโควิดไม่น้อยกว่า 63 ล้านโดส ที่รัฐบาลได้สั่งจองไปแล้ว และที่นายกฯ ได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย10 ล้านโดส สำหรับใช้ในสถานพยาบาลของรัฐ และวัคซีนทางเลือก เพื่อนำมาให้บริการในสถานพยาบาลเอกชน ดังนั้นประชาชนในประเทศไทยจะได้รับการฉีดวัคซีน อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 35 ล้านคน ภายในปีนี้
ทั้งนี้ นายกฯ มีความมั่นใจ เรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดในระลอกนี้ ว่ารัฐบาลสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลยังมีเงินเกือบ 3.8 แสนล้านบาท สำหรับนำมาใช้เยียวยา และฟื้นฟูศก. แยกเป็นเงิน 2.4 แสนล้านบาท จากพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเงินจากงบกลาง ปี 64 ในส่วนของเงินสำรองจ่ายเพื่อการฉุกเฉินและจำเป็นอีก 98,500 ล้านบาท และงบสำหรับบรรเทาโควิด อีก 36,800 ล้านบาท ทั้งนี้รัฐบาลจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นศก. โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และการใช้งบฯ อย่างมีประสิทธิภาพ
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำลังจะตัดสินใจว่าจะเดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน นัดพิเศษ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 เม.ย.นี้หรือไม่ ทั้งนี้ หากนายกฯและคณะตัดสินใจเดินทางไปร่วม ก็จะต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิดก่อน 72 ชม. และเมื่อถึงอินโดนีเชีย จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้ออีกครั้ง ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น อย่างน้อย 5 ชม. ซึ่งขณะนี้ นายกฯ ยังไม่ยืนยันว่า จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ด้วยตนเอง หรือประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนช์
