ผู้จัดการรายวัน 360 - กลุ่มผู้ถือหุ้นบมจ.โอสถสภา ของตระกูล "โอสถานุเคราะห์" ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ "เพชร โอสถานุเคราะห์" ภายใต้กลุ่ม Orizon ขายบิ๊กล็อตกว่า 12.69% คงเหลือ 15.06% รับเงินมูลค่าเกือบ 1.26 หมื่นล้านบาท ขณะที่ "นิติ" ซื้อเพิ่ม 7.16% ส่งผลให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 23.80% ขณะที่บิ๊กล็อตอีกกว่า 381 ล้านหุ้น ยังไม่มีใครรายงานเป็นผู้ซื้อ-ขาย ผู้บริหารย้ำไม่มีผลกระทบต่อการบริหารงานในอนาคต
หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ได้ขอให้บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวการซื้อขายหลักทรัพย์ Big Lot จำนวน 762,718,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.39 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท
นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า ผู้ถือหุ้นของบริษัท 2 ราย ในกลุ่ม Orizon ได้แก่1 Orizon Limited และนายเพชร โอสถานุเคราะห์ ได้ขายหุ้นของบริษัท ที่ถืออยู่โดยรวมจำนวน 381.35 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.69% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท แบ่งเป็นสัดส่วนของ Orizon Limited ขาย 261.06 ล้านหุ้น คิดเป็น8.69% และนายเพชร ขายหุ้นที่ถือออกมาทั้งหมด 120.29 ล้านหุ้น คิดเป็น 4%ของทุนจดทะเบียน
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากนายนิติ โอสถานุเคราะห์ ได้ซื้อหุ้น OSP เพิ่มเติมเป็นจำนวน 215,000,000 หุ้น คิดเป็น 7.16%ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว และมีนักลงทุนรายอื่น ๆ ได้ซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ เป็นจำนวน 166,359,000 หุ้น คิด 5.53%ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ
ภายหลังการซื้อขายหุ้นจำนวนดังกล่าว ทำให้กลุ่ม Orizon ลดสัดส่วนการถือหุ้นจาก 833,695,700 หุ้น หรือ 27.75% เหลือ 425,336,700 หุ้น หรือ 15.06% ขณะที่นายนิติ ถือหุ้นเพิ่มจาก 500,030,000 หุ้น หรือ 16.65% เป็น 715,030,000 หุ้น หรือ 23.80%
โดยกลุ่ม Orizon ได้แจ้งเพิ่มเติมถึงวัตถุประสงค์ของการขายหุ้นครั้งนี้ เนื่องจากมีความสนใจที่จะอุทิศทรัพยากรของตนไปใช้ในโครงการอื่นๆ ซึ่งมุ่งหมายไปที่โครงการด้านศิลปะวัฒนธรรมและการศึกษาให้มากขึ้น เพื่อจะได้ช่วยวางรากฐานของวงการศิลปะ วัฒนธรรม และการศึกษาของประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้า ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการสนับสนุน
ทั้งนี้ จากการคำนวณราคาเฉลี่ยของการซื้อขายที่หุ้นละ 33 บาท จะทำให้กลุ่ม Orizon ได้รับเงินจากการขายหุ้นครั้งนี้ 12,585 ล้านบาท
สำหรับผู้ถือหุ้นกลุ่ม Orizon เป็นกลุ่มบุคคลที่กระทำการร่วมกัน หรือ acting in concert ประกอบด้วยด้วยผู้ถือหุ้น 7 คน ได้แก่ Orizon Limited นายรัตน์ โอสถานุเคราะห์ นายเพชร โอสถานุเคราะห์ นายภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ นายภูรี โอสถานุเคราะห์ นายคฑา โอสถานุเคราะห์ และนายนาฑี โอสถานุเคราะห์
ทั้งนี้จากข้อมูลที่บริษัทฯ ได้รับแจ้งมาทราบว่า ยังไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดมีหน้าที่ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ว่าด้วยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์หรือ Tender Offer แต่อย่างใด และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้าง
คณะกรรมการบริษัท โครงสร้างคณะผู้บริหาร โครงสร้างการจัดการ โครงสร้างและนโยบายการดำเนินธุรกิจของ บริษัทฯ แต่อย่างใด อนึ่ง หากมีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะแจ้งให้ทราบต่อไป
อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่ได้แจ้งจำนวนหุ้นอีก 381 ล้านหุ้น ว่าใครเป็นผู้ขายและใครเป็นผู้ซื้อ
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างคณะกรรมการบริษัท โครงสร้างการจัดการ และนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด บริษัทฯ ยังคงดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อขยายธุรกิจให้แข็งแกร่งและมั่นคงในประเทศไทยและในภูมิภาค สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ได้ขอให้บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวการซื้อขายหลักทรัพย์ Big Lot จำนวน 762,718,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.39 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท
นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า ผู้ถือหุ้นของบริษัท 2 ราย ในกลุ่ม Orizon ได้แก่1 Orizon Limited และนายเพชร โอสถานุเคราะห์ ได้ขายหุ้นของบริษัท ที่ถืออยู่โดยรวมจำนวน 381.35 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.69% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท แบ่งเป็นสัดส่วนของ Orizon Limited ขาย 261.06 ล้านหุ้น คิดเป็น8.69% และนายเพชร ขายหุ้นที่ถือออกมาทั้งหมด 120.29 ล้านหุ้น คิดเป็น 4%ของทุนจดทะเบียน
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากนายนิติ โอสถานุเคราะห์ ได้ซื้อหุ้น OSP เพิ่มเติมเป็นจำนวน 215,000,000 หุ้น คิดเป็น 7.16%ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว และมีนักลงทุนรายอื่น ๆ ได้ซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ เป็นจำนวน 166,359,000 หุ้น คิด 5.53%ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ
ภายหลังการซื้อขายหุ้นจำนวนดังกล่าว ทำให้กลุ่ม Orizon ลดสัดส่วนการถือหุ้นจาก 833,695,700 หุ้น หรือ 27.75% เหลือ 425,336,700 หุ้น หรือ 15.06% ขณะที่นายนิติ ถือหุ้นเพิ่มจาก 500,030,000 หุ้น หรือ 16.65% เป็น 715,030,000 หุ้น หรือ 23.80%
โดยกลุ่ม Orizon ได้แจ้งเพิ่มเติมถึงวัตถุประสงค์ของการขายหุ้นครั้งนี้ เนื่องจากมีความสนใจที่จะอุทิศทรัพยากรของตนไปใช้ในโครงการอื่นๆ ซึ่งมุ่งหมายไปที่โครงการด้านศิลปะวัฒนธรรมและการศึกษาให้มากขึ้น เพื่อจะได้ช่วยวางรากฐานของวงการศิลปะ วัฒนธรรม และการศึกษาของประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้า ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการสนับสนุน
ทั้งนี้ จากการคำนวณราคาเฉลี่ยของการซื้อขายที่หุ้นละ 33 บาท จะทำให้กลุ่ม Orizon ได้รับเงินจากการขายหุ้นครั้งนี้ 12,585 ล้านบาท
สำหรับผู้ถือหุ้นกลุ่ม Orizon เป็นกลุ่มบุคคลที่กระทำการร่วมกัน หรือ acting in concert ประกอบด้วยด้วยผู้ถือหุ้น 7 คน ได้แก่ Orizon Limited นายรัตน์ โอสถานุเคราะห์ นายเพชร โอสถานุเคราะห์ นายภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ นายภูรี โอสถานุเคราะห์ นายคฑา โอสถานุเคราะห์ และนายนาฑี โอสถานุเคราะห์
ทั้งนี้จากข้อมูลที่บริษัทฯ ได้รับแจ้งมาทราบว่า ยังไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดมีหน้าที่ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ว่าด้วยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์หรือ Tender Offer แต่อย่างใด และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้าง
คณะกรรมการบริษัท โครงสร้างคณะผู้บริหาร โครงสร้างการจัดการ โครงสร้างและนโยบายการดำเนินธุรกิจของ บริษัทฯ แต่อย่างใด อนึ่ง หากมีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะแจ้งให้ทราบต่อไป
อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่ได้แจ้งจำนวนหุ้นอีก 381 ล้านหุ้น ว่าใครเป็นผู้ขายและใครเป็นผู้ซื้อ
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างคณะกรรมการบริษัท โครงสร้างการจัดการ และนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด บริษัทฯ ยังคงดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อขยายธุรกิจให้แข็งแกร่งและมั่นคงในประเทศไทยและในภูมิภาค สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป