xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“หลวงพ่อป้อม” สยบทุกก๊วน “ผู้กองมนัส”แม่บ้านตัวจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - คลื่นลมสงบ นิ่งผิดปกติ

คิวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุด “ประยุทธ์ 2/4” ที่ล่าสุด “ว่าที่รัฐมนตรี” ชักแถวเข้าทำเนียบรัฐบาล ไปเซ็นชื่อกรอกประวัติ-ถ่ายภาพ กันตามธรรมเนียมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงขั้นตอน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

โดย “ว่าที่เสนาบดี” ที่ได้รับแจ้งให้เข้าไปกรอกแบบฟอร์มประวัติก็เป็นไปตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย “เจ๊เหน่ง” ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรคพลังประชารัฐ, “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ “นายหัวดำ” สินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์

ส่วนตำแหน่งแห่งที่คาดว่า “เจ๊เหน่ง ส.เทียนทอง” ส.ส. 5 สมัยแห่ง จ.สระแก้ว จะประเดิมขึ้นชั้นรัฐมนตรีที่เก้าอี้บิ๊กเบิ้ม “เสมา 1” รมว.ศึกษาธิการ ขณะที่ “เสี่ยโอ๋” ทายาทห้างทองใหญ่แห่งเมืองสิงห์บุรี จะฟาด รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

ส่วน “ส.ส.ดำ-สินิตย์” ประเดิมเป็นรัฐมนตรีหนแรกเช่นกัน จะไปดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ทำงานคู่กับ “หัวหน้าอู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

สลับให้ “เสี่ยป้อ” วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล จากพรรคภูมิใจไทย โยกจาก รมช.พาณิชย์ ไปเป็น รมช.คมนาคม ที่เดิมเป็นของ “นายหัววอน” ถาวร เสนเนียม ที่ต้องคดี กปปส. ตามดีลที่ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ไปเจรจาต้าอวยไว้กับ “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย

เป็นที่รู้กันว่า การเข้าตำแหน่งรัฐมนตรีของ “ค่ายสะตอ” นั้นยึดเอามติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับ ส.ส.ของพรรคเป็นสำคัญ ครั้งนี้ก็เช่นกันมีการนัดประชุมเพื่อลงมติเลือกกันเป็นกิจลักษณะ มีการเสนอรายชื่อแคนดิเดตอย่างเปิดกว้าง โดยงวดนี้เป็น “สีนิตย์” ที่เฉือนชนะ นริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง ไปได้อย่างเฉียดฉิว

เป็นภาพตัดที่ขัดแย้งกับที่ “ค่ายหลวงพ่อป้อม” พรรคพลังประชารัฐ ที่เดิมทีเบื้องแรกของ “รัฐบาลประยุทธ์ 2” ยังเป็นไปในลักษณะ “โควตากลุ่ม-ตัวแทนก๊วน” มีการส่งชื่อเข้าประกวดตามจำนวน ส.ส.ที่ถือครอง รวมไปถึงผลงาน และข้อตกลงตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง

หากจำกันได้วันนั้น พรรคใหม่ป้ายแดงที่รวบรวมนักการเมืองมาจากทุกสารทิศ ต่างยื้อแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันอย่างอุตลุด บางจังหวะถึงขั้นบีบ “บิ๊ก 3 ป.” กันจนหน้าเขียว

ที่สุดก็แบ่งสรรกันลงตัว มีทั้งโควตา 4 กุมาร-กปปส.-สามมิตร-เพชรบูรณ์-ชลบุรี-ผู้กองธรรมนัส-โคราช เป็นอาทิ

โดยกันบางส่วนเป็น “โควตาลุง” หรือ “โควตากลาง” ของ “พี่น้อง 3 ป.”อันประกอบด้วย “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - “ลุงป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังจากมีปรับ ครม.ประยุทธ์ 2/2 และ 2/3 ถึงล่าสุดกำลังจะมีประยุทธ์ 2/4

ดูเหมือน “โควตาลุง” จะเริ่ม “กินรวบ” มากขึ้นเรื่อยๆ

โดยเฉพาะเมื่อครั้งปรับ ครม.ประยุทธ์ 2/2 ที่มีปฏิบัติการ “เสร็จนาฆ่าโคถึก” หนแรก โดยเฉดหัว “กลุ่ม 4 กุมาร” ที่เป็นผู้ก่อตั้งปลุกปั้นพรรคพลังประชารัฐออกไป โดยส่วนหนึ่งดึง “คนนอก” เข้ามา และอีกส่วนก็จัดสรรเกลี่ยตำแหน่งให้ภายในพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็ยังเป็น “ตั๋วลุงป้อม” ทั้งรายของ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น - “เจ๊แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว. และ รมช.แรงงาน

กระทั่ง “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกฯ ที่แม้พะยี่ห้อ “สามมิตร” แต่วันนั้นก็ได้ตำแหน่งในฐานะ “แม่บ้าน” เลขาธิการพรรค ที่มี “ลุงป้อม” เป็นหัวหน้า

โดยที่ พล.อ.ประวิตร ก็พูดชัดตลอดว่า ทุกเก้าอี้เป็นโควตาพรรค ไม่มีโควตากลุ่ม

แจ่มแจ้งขึ้นมาอีกเมื่อ “คู่หู กปปส.” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เก้าอี้หลุดกลางอากาศจากคดีชุมนุมใหญ่ กปปส. ที่เป็น “นั่งร้าน” ให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจเมื่อ พ.ค.2557

ร่างยังไม่ทันเย็น-ศพยังไม่ทันเน่า “เสี่ยตั้น-เสี่ยบี” ยังไม่พ้นคุก “ลุงป้อม” ประกาศเปรี้ยงๆ 2 เก้าอี้เป็น “โควตาพรรค” ไม่มี “โควตา กปปส.-โควตา กทม.”

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

 อนุชา นาคาศัย
เรียกว่า “กินหลายต่อ ล่อหลายเด้ง” ได้โอกาสหมุนเวียนเก้าอี้ให้ “ลูกหาบ” ก๊วนอื่นขึ้นตำแหน่งบ้างตามคอนเซปต์ “ลุกเสียม้า”
แถมคนที่เข้าเสียบตำแหน่งแทน “ตั้น-บี” รายหนึ่ง “หนูเหน่ง ส.เทียนทอง” หลาน “ป๋าเหนาะ” เสนาะ เทียนทอง นักการเมืองรุ่นลายคราม ก็มิได้ตีตั๋ว “ครูน้อง” นราพร จันทร์โอชา ภริยานายกฯ อย่างที่เข้าใจกันในตอนแรก

แต่ที่จู่ๆ ลงมาแลนดิ้งที่เก้าอี้ “เสมา 1” รมว.ศึกษาธิการ เพราะถือ “ตั๋ววีวีไอพี” ของซุ้มป่ารอยต่อฯ ที่มีความสนิทชิดเชื้อกับ “ตระกูลเทียนทอง” สมัยคุมกำลัง “บูรพาพยัคฆ์” อยู่โซนปราจีนบุรี-สระแก้ว นู่น

ไม่ต่างจาก “เสี่ยโอ๋-ชัยวุฒิ” ที่เป็นคนพลังประชารัฐยุคบุกเบิก เข้ามาด้วยคำเชื้อเชิญจาก “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ก่อนจะผนึกกับ “เสี่ยตั้น-เสี่ยบี” ที่คุ้นเคยกันแต่เก่าก่อนผ่านหวานใจ “ซ้อไนซ์” กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กทม. ที่เป็นอดีต ส.ก.ประชาธิปัตย์ ซึ่ง “เสี่ยตั้น-เสี่ยบี” ดึงมาลง ส.ส.ที่พรรคพลังประชารัฐ

หลังเลือกตั้ง “เสี่ยโอ๋-ชัยวุฒิ” มีบทบาทสำคัญในสภาผู้แทนราษฎร เป็นเลขาวิปรัฐบาล ทำงานคู่กับ “เฮียยักษ์” วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิป ก่อนที่จะมีการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ที่ “บิ๊กป้อม” เป็นประธาน ก็ดึง “เสี่ยโอ๋” มาช่วยงานยุทธศาสตร์ ยิ่งมักคุ้นรู้มือกันเป็นอย่างดี ที่สุด “ชัยวุฒิ” ก็กลายเป็นสายตรงป่ารอยต่อฯ ไปอีกคน

จึงชัดเจนว่า 2 เก้าอี้ใหญ่ที่ว่างลง “เด็กลุงป้อม” ไปเต็มเติมทั้งสิ้น

สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นรายการ “โชว์พาวเวอร์” ให้เห็นว่า อำนาจต่อรองของกลุ่มก๊วนในพรรคตกอยู่ภายใต้ “อดีตบิ๊กท็อปบูต” ทั้งหมด

สะท้อนผ่านคิวกระแสข่าว “กลุ่ม กทม.” ในพรรคพลังประชารัฐ ส่งสัญญาณออกมากระตุก “ผู้ใหญ่” ใคร่ครวญการเสนอชื่อ ครม.ประยุทธ์ 2/4 ในส่วนของพรรค ด้วย “ก๊วนนครบาล” มองว่า 8 แสนเสียงของชาวกรุง พวกกับ 12 ที่นั่ง ส.ส. ยังควรมีส่วนร่วมใน ครม.บ้าง

ยกทฤษฎี “สองนคราประชาธิปไตย” หรือ “คนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาล คนกรุงล้มรัฐบาล” ขึ้นมาขู่
เทียบให้เห็นภาพจังหวัดภูธร อาทิ ชลบุรี มี 3 แสนแต้ม มีตั้ง 2 รัฐมนตรี ทั้ง “เสี่ยติ๊ก” อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, เพชรบูรณ์ 2 แสนแต้ม ก็มี “เสี่ยมะขามหวาน” สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง, พะเยา 1.2 แสนแต้ม มี “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ

หรือเมืองสิงห์ จ.สิงหบุรี ได้มาไม่ถึง 5 หมื่นแต้ม กำลังจะมี 1 รัฐมนตรีว่าการ

ความถึงหู “ลุงป้อม” ไม่เพียงยักไหล่ใส่ พร้อมสั่งการ 2 ส.ส.กทม.ออกมาแก้ข่าว สยบ “คลื่นใต้น้ำ” ทันควัน จากนั้นไม่เอามาฟื้นฝอยให้รกสมอง

มิพักต้องพูดถึง “กลุ่ม 3 รัฐมนตรีช่วย” หรือ “แก๊ง 3 ช.” ประกอบด้วย “ธรรมนัส-นฤมล-สันติ” รู้กันว่า เป็นกลุ่มที่อิทธิฤทธิ์ไม่เบา ปรับ ครม.งวดนี้ต่างคนต่างจ้องอัปเกรดขึ้นชั้น “ว่าการ” กันทั้งแผง แต่กลับนิ่งสงบเป็น “เด็กดี” ไม่งอแงอย่างที่คาด

แสดงให้เห็นอาคมเข้มขลังของ “หลวงพ่อป้อม” ที่สะกดจนอยู่หมัดทั้งหมด

เหตุที่กล่อม “แก๊ง 3 ช.” อยู่หมัด ก็ด้วย “รู้กัน” ว่า มีงานใหญ่รออยู่ ในการสอย “เฮียแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกฯ ให้ร่วงจากเก้าอี้ “แม่บ้าน” เลขาธิการพรรค

3 ช.ยอมถูก “แช่แข็ง” แลกกับ “เสี่ยแฮงค์” ที่ไม่ได้ขยับเก้าอี้ วางงานล่วงหน้าเขี่ยตกกระป๋องไม่ยาก ในการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐประจำปีเร็วๆ นี้ ที่มีวาระตั้งกรรมการบริหารแทน “เสี่ยตั้น-เสี่ยบี” โดยมีวาระพ่วงในชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ปรับโครงการสร้างพรรค”

แต่จริงๆ แค่เปลี่ยนตัว “เลขาธิการพรรค” นั่นแหละ

ถอดรหัสง่ายๆ พอถาม “บิ๊กป้อม” เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างพรรค เปลี่ยนเลขาธิการพรรค ความจริงควรเคลียร์คัทว่า “ไม่มี” เพราะเพิ่งปรับโครงสร้างกันยังไม่ถึงปี คราวเฉดหัว “4 กุมาร” ออกนี่เอง

แต่ “ลุงป้อม” กลับท่องคาถาประจำตัว “ไม่รู้” ตอบแบบนี้แปลว่า “ไม่ปฏิเสธ”

ว่ากันว่าจะผลักดัน “เฮียสันติ พร้อมมาก” ที่เป็นแคนดิเดตเลขาฯ หนก่อน เป็นเลขาธิการพรรคแทน ตามแรงผลักดันของ “ก๊วน 3 ช.” ที่แพ็กกันแน่น

ว่ากันตามเนื้อผ้า ที่ผ่านมาบทบาทของ “เลขาฯแฮงค์” ดูเงียบเชียบผิดกับเลขาธิการพรรคใหญ่ทั่วไปจริงๆ แต่จะโทษเจ้าตัวก็คงไม่แฟร์เท่าไร ด้วยถูกอิทธิพล “กลุ่ม 3 ช.” กลบเสียมิดด้าม โดยดึงงานที่ควรจะเป็นของเลขาฯ พรรคไปจนหมดมือ

อีกทั้ง “ผู้กองธรรมนัส” ที่ว่ากันว่าเป็น “แม่บ้านตัวจริงเสียงจริง” ตามประสาคนใจใหญ่กว่าตับ ผู้เป็น “มาสเตอร์มายด์” ของกลุ่ม 3 ช. โดดเด่นทั้งงานบุ๊น-บู๊ ทั้งบนดิน-ใต้ดิน เข้าตา “บิ๊กป้อม” แบบหาตัวจับยาก

มือทำงานที่เคยใช้ข้างกายอย่าง “เสี่ยแฮงค์” “กลุ่มสามมิตร” ของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สมศักดิ์ เทพสุทิน อุ้มชูกันมา ก็เลยดูด้อยกว่าไปโดยปริยาย

ถ้ารูปการณ์เป็นเช่นนนี้ “เสี่ยแฮงค์” หลุดเก้าอี้เลขาฯ จริง ก็น่าหวาดเสียวถึงเก้าอี้รัฐมนตรีรอบหน้า.



กำลังโหลดความคิดเห็น