มติ “ฝ่ายค้าน” ไม่แก้ญัตติไม่ไว้วางใจประเด็นสถาบันฯ ชี้ไม่ขัด รธน.-ไม่ผิดข้อบังคับ โยนประธานคุมการประชุม เชื่อ ส.ส.ไม่พูดมิบังควร ย้ำต้องอภิปราย 5 วัน ด้าน “กมธ.แก้ รธน.” มีมติให้มี ส.ส.ร. 200 คนมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
จากกรณีที่ คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เรียกร้องให้พรรคร่วมฝ่ายค้านแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ซึ่งมีข้อความกล่าวหานายกรัฐมนตรีว่า เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกล่าวหาว่ารัฐบาลทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน ซึ่งถือเป็นข้อกล่าวหาที่มีความละเอียดอ่อน นั้น
วานนี้ (28 ม.ค.) ได้มีการประชุมร่วมกันของวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมด้วย โดยนายชวนได้ยืนยันว่า ญัตติดังกล่าวยังไม่บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม สภาฯ ฝ่ายค้านสามารถนำกลับไปแก้ไขให้เป็นที่ยอมรับได้ จากนั้น นายสมพงษ์ ระบุว่า จะนำญัตติดังกล่าวกลับไปหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้ง
ต่อมา ที่ห้องผู้นำฝ่ายค้านฯ นายสมพงษ์ เปิดเผยภายหลังร่วมหารือกับตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน 6 พรรคว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านหารือกันแล้วมีมติว่า ญัตติที่เสนอไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ครบถ้วนเรียบร้อย ไม่มีสิ่งใดต้องแก้ไข ถูกต้องตามกระบวนการ ดังนั้นจะไม่มีการแก้ไขแม้แต่คำใดคำหนึ่ง ส่วนเรื่องการอภิปรายนั้น มั่นใจว่า ส.ส.ทุกคน เข้าใจการพูดเกี่ยวกับสถาบัน ทุกคนระวังอยู่แล้ว อีกทั้งประธานในที่ประชุมคอยดูแลกำกับอยู่
ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวเสริมว่า การระบุว่า ญัตตินี้จะละเมิดสถาบันฯ เป็นหน้าที่ของประธานที่ประชุมจะพิจารณา ถ้าพูดผิดข้อบังคับ ประธานก็ให้ผู้อภิปรายถอนคำพูดได้ ฝ่ายค้านคุยกันแล้วยืนยันว่า ไม่มีสิ่งใดผิดทั้งกฎหมายและข้อบังคับการประชุม หรือล่วงละเมิดสถาบันฯ เมื่อญัตติไม่ผิดรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ เป็นหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องบรรจุญัตติภายใน 7 วัน แล้วแจ้งให้รัฐบาลทราบต่อไป
ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวย้ำถึงกรอบเวลาในการอภิปรายฯว่า ฝ่ายค้านยังยืนยันว่า ต้องอภิปรายอย่างน้อย 5 วัน บวกวันลงมติอีก 1 วัน เป็น 6 วัน การที่ฝ่ายรัฐบาลยืนยันจะให้อภิปรายแค่ 4 วันเท่านั้นคงไม่พอ และยังไม่ได้เป็นข้อตกลงกัน
วันเดียวกัน นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. ในฐานะโฆษก กมธ. พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. … เปิดเผยถึงความคืบหน้าการทำงานของคณะกมธ.ฯ ว่า ที่ประชุมได้ดำเนินการลงมติร่าง มาตรา 256 โดยผลการลงมติในประเด็นสำคัญ เช่น การได้มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) กมธ.ได้ลงมติเห็นควรให้มี ส.ส.ร. จำนวน 200 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนทั่วประเทศ และเห็นด้วยกับการใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง ดังนั้น แต่ละจังหวัดจะมีสัดส่วน ส.ส.ร.ที่แตกต่างกันตามจำนวนประชากรผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
“มติดังกล่าวยังไม่ใช่ข้อยุติ กมธ.จะพิจารณารายละเอียดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 4 ก.พ.นี้ จากนั้นจะเป็นขั้นตอนการแปรญัตติ ซึ่งที่ประชุมมีมติให้เชิญผู้แปรญัตติ จำนวน 109 คน มาชี้แจงประกอบคำแปรญัตติ ในวันที่ 5 ก.พ.นี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของ กมธ. ท้ายที่สุดการแก้ไขจะเป็นอย่างไร ต้องรอที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 24 –25 ก.พ.นี้” นายดิเรกฤทธิ์ ระบุ
จากกรณีที่ คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เรียกร้องให้พรรคร่วมฝ่ายค้านแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ซึ่งมีข้อความกล่าวหานายกรัฐมนตรีว่า เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกล่าวหาว่ารัฐบาลทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน ซึ่งถือเป็นข้อกล่าวหาที่มีความละเอียดอ่อน นั้น
วานนี้ (28 ม.ค.) ได้มีการประชุมร่วมกันของวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมด้วย โดยนายชวนได้ยืนยันว่า ญัตติดังกล่าวยังไม่บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม สภาฯ ฝ่ายค้านสามารถนำกลับไปแก้ไขให้เป็นที่ยอมรับได้ จากนั้น นายสมพงษ์ ระบุว่า จะนำญัตติดังกล่าวกลับไปหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้ง
ต่อมา ที่ห้องผู้นำฝ่ายค้านฯ นายสมพงษ์ เปิดเผยภายหลังร่วมหารือกับตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน 6 พรรคว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านหารือกันแล้วมีมติว่า ญัตติที่เสนอไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ครบถ้วนเรียบร้อย ไม่มีสิ่งใดต้องแก้ไข ถูกต้องตามกระบวนการ ดังนั้นจะไม่มีการแก้ไขแม้แต่คำใดคำหนึ่ง ส่วนเรื่องการอภิปรายนั้น มั่นใจว่า ส.ส.ทุกคน เข้าใจการพูดเกี่ยวกับสถาบัน ทุกคนระวังอยู่แล้ว อีกทั้งประธานในที่ประชุมคอยดูแลกำกับอยู่
ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวเสริมว่า การระบุว่า ญัตตินี้จะละเมิดสถาบันฯ เป็นหน้าที่ของประธานที่ประชุมจะพิจารณา ถ้าพูดผิดข้อบังคับ ประธานก็ให้ผู้อภิปรายถอนคำพูดได้ ฝ่ายค้านคุยกันแล้วยืนยันว่า ไม่มีสิ่งใดผิดทั้งกฎหมายและข้อบังคับการประชุม หรือล่วงละเมิดสถาบันฯ เมื่อญัตติไม่ผิดรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ เป็นหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องบรรจุญัตติภายใน 7 วัน แล้วแจ้งให้รัฐบาลทราบต่อไป
ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวย้ำถึงกรอบเวลาในการอภิปรายฯว่า ฝ่ายค้านยังยืนยันว่า ต้องอภิปรายอย่างน้อย 5 วัน บวกวันลงมติอีก 1 วัน เป็น 6 วัน การที่ฝ่ายรัฐบาลยืนยันจะให้อภิปรายแค่ 4 วันเท่านั้นคงไม่พอ และยังไม่ได้เป็นข้อตกลงกัน
วันเดียวกัน นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. ในฐานะโฆษก กมธ. พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. … เปิดเผยถึงความคืบหน้าการทำงานของคณะกมธ.ฯ ว่า ที่ประชุมได้ดำเนินการลงมติร่าง มาตรา 256 โดยผลการลงมติในประเด็นสำคัญ เช่น การได้มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) กมธ.ได้ลงมติเห็นควรให้มี ส.ส.ร. จำนวน 200 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนทั่วประเทศ และเห็นด้วยกับการใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง ดังนั้น แต่ละจังหวัดจะมีสัดส่วน ส.ส.ร.ที่แตกต่างกันตามจำนวนประชากรผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
“มติดังกล่าวยังไม่ใช่ข้อยุติ กมธ.จะพิจารณารายละเอียดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 4 ก.พ.นี้ จากนั้นจะเป็นขั้นตอนการแปรญัตติ ซึ่งที่ประชุมมีมติให้เชิญผู้แปรญัตติ จำนวน 109 คน มาชี้แจงประกอบคำแปรญัตติ ในวันที่ 5 ก.พ.นี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของ กมธ. ท้ายที่สุดการแก้ไขจะเป็นอย่างไร ต้องรอที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 24 –25 ก.พ.นี้” นายดิเรกฤทธิ์ ระบุ
