ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 305 เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 193 ราย แรงงานต่างด้าว 109 “บุรีรัมย์” เจอบ่อนชลบุรีตีไข่แตก “เชียงใหม่” เจอ 4 รายใหม่โยง “วอร์มอัพ” ศบค.เตือนประชาชนต้องมีแอปฯ “หมอชนะ” หากติดโควิดและไม่มี ถือว่าผิด
วานนี้ (7 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศประจำวันว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 305 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 193 ราย เป็นผู้ติดเชื้อค้นหาคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าว 109 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) 3 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 103 ราย
รายงานข่าวจาก จ.บุรีรัมย์ ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์แล้ว 1 ราย เป็นหญิงอายุ 42 ปี ชาว อ.นางรอง มีประวัติเดินทางมาจากพัทยา จ.ชลบุรี มีอาชีพขายอาหารตามสั่งที่ตลาดแห่งหนึ่งในพัทยากลาง และส่งอาหารให้บ่อนแห่งหนึ่งในพัทยา จ.ชลบุรี โดยได้เร่งค้นหาผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำแล้วกว่า 313 คน ถือเป็นรายแรกของจังหวัดในรอบ 280 วัน
ขณะที่ จ.เชียงใหม่ พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 4 ราย ไทม์ไลน์เกี่ยวข้องกับร้าน “วอร์มอัพ” สถานบันเทิงชื่อดังที่พบผู้ป่วยหญิงสาวอายุ 25 ปี เข้าไปใช้บริการเที่ยวเคานต์ดาวน์ปีใหม่ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 64
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างแถลงสถานการณ์ประจำวัน นพ.ทวีศิลป์ ได้ชี้แจงถึง สาระสำคัญของข้อกำหนดออกตามความใน มาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 17) ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 6 ม.ค.64 โดยเน้นย้ำว่าประชาชน้องมีแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือเพื่อติดตามตัว เดิมเราใช้"ไทยชนะ" อยู่ แต่หลังจากนี้ ต้องมีการติดตั้งแอปพลิเคชั่น "หมอชนะ" ด้วย โดยให้ประชาชนติดตั้งแอพพลิเคชั่น "หมอชนะ" ควบคู่การใช้แอปพลิเคชั่น "ไทยชนะ" โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ในเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็น"พื้นที่ควบคุมสูงสุด"
"มีการพูดคุยในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กว่า ต่อไปนี้หากพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด ไม่มีการติดตั้งแอปพลิเคชั่นหมอชนะ ก็จะถือว่าละเมิดกฎหมายตามข้อกำหนดนี้ นี่คือสิ่งที่จะค่อยๆเข้มข้นขึ้น เพราะมีหลายครั้งไม่สามารถติดตามไทม์ไลน์ ของผู้ป่วยออกมาได้ ฉะนั้นหมอชนะ จะเป็นคำตอบของการระบาดในระลอกนี้" โฆษก ศบค. กล่าว
ภายหลังการแถลงข่าว ส่งผลเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง กรณีนภาครัฐบังคับให้ประชาชนต้องติดตั้งแอปฯเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 และกรณีที่ผู้ช้โทรศัพท์ไม่รองรับกับแอปฯดังกล่าว
เป็นเหตุให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ต้องโพสต์ข้อความชี้แจงว่า การไม่โหลดแอปฯหมอชนะ ไม่มีความผิดแต่อย่างใด คำสั่งดังกล่าวมีเจตนาจะดำเนินคดีกับผู้ปกปิดข้อมูลในการสอบสวนโรคเท่านั้น
ต่อมา นพ.ทวีศิลป์ ชี้แจงถึงเรื่องนี้ ระหว่างการประชุมทำความเข้าใจระหว่างศบค.กับองค์กรสื่อ และสื่อมวลชนทุกสำนักว่า เจตนาที่แท้จริง เป็นการขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ใช้แอปฯหากไม่สะดวกสามารถจดบันทึกด้วยตัวเองได้ เรื่องดังกล่าวเป็นการอ่านตามเอกสาร และต้องการให้ประชาชนร่วมมือเท่านั้น
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนผ่านรายการ PM PODCAST ที่ออกอากาศในรูปแบบรายการวิทยุออนไลน์ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า ถึงมาตรการเยียวยาช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ว่า การแชร์เรื่องรัฐบาลจะแจกเงิน 4 พันบาท ยังไม่มีการประกาศออกไป ถือว่าเป็นข่าวไม่จริง ทุกคนอาจจะอยากได้ หวังดี ทำนองนี้ แต่ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลต้องใช้เงินอย่างระมัดระวัง แต่เราน่าจะมีงบประมาณที่เพียงพอ ทั้งงบรายจ่ายที่เตรียมไว้ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งงบเงินกู้ งบที่ใช้สำหรับผู้ได้รับผลกระทบยังเพียงพออยู่ ขณะนี้กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (สภาพัฒน์) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดูในภาพรวมอยู่ ขอให้รอสักนิด
วานนี้ (7 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศประจำวันว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 305 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 193 ราย เป็นผู้ติดเชื้อค้นหาคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มแรงงานต่างด้าว 109 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) 3 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 103 ราย
รายงานข่าวจาก จ.บุรีรัมย์ ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์แล้ว 1 ราย เป็นหญิงอายุ 42 ปี ชาว อ.นางรอง มีประวัติเดินทางมาจากพัทยา จ.ชลบุรี มีอาชีพขายอาหารตามสั่งที่ตลาดแห่งหนึ่งในพัทยากลาง และส่งอาหารให้บ่อนแห่งหนึ่งในพัทยา จ.ชลบุรี โดยได้เร่งค้นหาผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำแล้วกว่า 313 คน ถือเป็นรายแรกของจังหวัดในรอบ 280 วัน
ขณะที่ จ.เชียงใหม่ พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 4 ราย ไทม์ไลน์เกี่ยวข้องกับร้าน “วอร์มอัพ” สถานบันเทิงชื่อดังที่พบผู้ป่วยหญิงสาวอายุ 25 ปี เข้าไปใช้บริการเที่ยวเคานต์ดาวน์ปีใหม่ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 64
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างแถลงสถานการณ์ประจำวัน นพ.ทวีศิลป์ ได้ชี้แจงถึง สาระสำคัญของข้อกำหนดออกตามความใน มาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 17) ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 6 ม.ค.64 โดยเน้นย้ำว่าประชาชน้องมีแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือเพื่อติดตามตัว เดิมเราใช้"ไทยชนะ" อยู่ แต่หลังจากนี้ ต้องมีการติดตั้งแอปพลิเคชั่น "หมอชนะ" ด้วย โดยให้ประชาชนติดตั้งแอพพลิเคชั่น "หมอชนะ" ควบคู่การใช้แอปพลิเคชั่น "ไทยชนะ" โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ในเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็น"พื้นที่ควบคุมสูงสุด"
"มีการพูดคุยในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กว่า ต่อไปนี้หากพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด ไม่มีการติดตั้งแอปพลิเคชั่นหมอชนะ ก็จะถือว่าละเมิดกฎหมายตามข้อกำหนดนี้ นี่คือสิ่งที่จะค่อยๆเข้มข้นขึ้น เพราะมีหลายครั้งไม่สามารถติดตามไทม์ไลน์ ของผู้ป่วยออกมาได้ ฉะนั้นหมอชนะ จะเป็นคำตอบของการระบาดในระลอกนี้" โฆษก ศบค. กล่าว
ภายหลังการแถลงข่าว ส่งผลเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง กรณีนภาครัฐบังคับให้ประชาชนต้องติดตั้งแอปฯเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 และกรณีที่ผู้ช้โทรศัพท์ไม่รองรับกับแอปฯดังกล่าว
เป็นเหตุให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ต้องโพสต์ข้อความชี้แจงว่า การไม่โหลดแอปฯหมอชนะ ไม่มีความผิดแต่อย่างใด คำสั่งดังกล่าวมีเจตนาจะดำเนินคดีกับผู้ปกปิดข้อมูลในการสอบสวนโรคเท่านั้น
ต่อมา นพ.ทวีศิลป์ ชี้แจงถึงเรื่องนี้ ระหว่างการประชุมทำความเข้าใจระหว่างศบค.กับองค์กรสื่อ และสื่อมวลชนทุกสำนักว่า เจตนาที่แท้จริง เป็นการขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ใช้แอปฯหากไม่สะดวกสามารถจดบันทึกด้วยตัวเองได้ เรื่องดังกล่าวเป็นการอ่านตามเอกสาร และต้องการให้ประชาชนร่วมมือเท่านั้น
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนผ่านรายการ PM PODCAST ที่ออกอากาศในรูปแบบรายการวิทยุออนไลน์ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า ถึงมาตรการเยียวยาช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ว่า การแชร์เรื่องรัฐบาลจะแจกเงิน 4 พันบาท ยังไม่มีการประกาศออกไป ถือว่าเป็นข่าวไม่จริง ทุกคนอาจจะอยากได้ หวังดี ทำนองนี้ แต่ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลต้องใช้เงินอย่างระมัดระวัง แต่เราน่าจะมีงบประมาณที่เพียงพอ ทั้งงบรายจ่ายที่เตรียมไว้ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งงบเงินกู้ งบที่ใช้สำหรับผู้ได้รับผลกระทบยังเพียงพออยู่ ขณะนี้กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (สภาพัฒน์) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดูในภาพรวมอยู่ ขอให้รอสักนิด