"บัญญัติ" เผย"ชวน"ทำงานหนัก ดันกก.สมานฉันท์สร้างปรองดองในสังคม หลังเล็งเห็นม็อบรอบนี้ต่อสู้รูปแบบใหม่ รุนแรง น่ากลัว หวังทำได้บางส่วน ดีกว่าไม่ทำ จับตาเลือกตั้งท้องถิ่นรุนแรงยิ่งขึ้น หลังนักการเมืองได้ข้อสรุปใช้วิธีการนอกกติกาแล้ว
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง คณะกรรมการสมานฉันท์ว่า ขณะนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กำลังใช้ความพยายามอยู่ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย มีบางฝ่ายยังไม่พร้อมที่จะเข้าร่วมด้วย และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตั้งไปก็ไม่ได้ประโยชน์ แม้ในอดีตไม่เคยได้ผลก็จริง แต่ต้องเข้าใจว่า ความขัดแย้งทางการเมืองที่อยู่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ มีความขัดแย้งรุนแรงกว่าทุกครั้ง ทั้งในแง่การต่อสู้ รูปแบบทางความคิด มีการแสดงออกที่ใครก็คาดไม่ถึง และขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยนายชวน คงตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน จึงพยายามทำอะไรสักอย่างให้ได้ แต่ตั้งกรรมการฯ ขึ้นมาแล้วไม่ใช่ความปรองดองจะเกิดทันที แต่ทำได้บ้างบางส่วน ดีกว่าไม่ได้ทำ ตรงนี้สำคัญ
จากประสบการณ์ของตนพูดเสมอว่า กฎเกณฑ์ หรือกฎหมาย ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของนักการเมืองได้ แม้แต่รัฐธรรมนูญ แต่กระแสสังคมต่างหากที่จะควบคุมได้มาโดยตลอด ถ้าทุกฝ่ายมีหน้าที่เกี่ยวข้อง และตระหนักเรื่องความขัดแย้งว่า วันนี้มันน่ากลัว ช่วยกันลดได้บางส่วนก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย หากสังคมเข้าใจสถานการณ์นี้ และแสดงออกชัดเจน ตนคิดว่า นักการเมืองก็คงพร้อมที่จะปฏิบัติตาม บางครั้งเขาไม่ร่วมเพราะไม่แน่ใจว่าซื้อเวลาหรือเปล่า ผู้มีอำนาจรัฐ กลุ่มผลประโยชน์ใหญ่ๆ ของประเทศ ถ้าตระหนักและช่วยลดอำนาจ ความได้เปรียบที่มีลงมาบ้าง ความร่วมมือก็น่าจะเกิดขึ้น
เรื่องนี้ที่สามารถทำได้คือ แสดงความจริงใจ และมีผลต่อการสมานฉันท์ด้วยคือ ยอมแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็น 2 ใน 12 ข้อ นโยบายเร่งด่วนอยู่แล้ว ต้องแสดงออกมาเลยว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ อุณหภูมิการเมืองลดลงได้แน่นอน หันหน้าเข้าหากัน แก้ไขรธน. อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสมานฉันท์ก็ได้
นายบัญญัติ ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในปีนี้ ว่าที่ผ่านมาเพิ่งจะมีการเลือก นายกฯอบจ. และสมาชิกอบจ. ต่อไปน่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับเทศบาล และ อบต. และสุดท้ายคือ พัทยา กทม. อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะมีประเด็นร้อนเกิดขึ้นแน่ เพราะการเลือกตั้งนายกอบจ. ที่ผ่านมา ก็ร้อนไม่ใช่น้อย บ้านใหญ่สู้กันถึงพริกถึงขิง มีการพูดว่า มีการใช้เงินหลายที่ หลายแห่ง ต้องรอดูว่าจะมีการร้องเรียนที่ไหนบ้าง
ทั้งนี้ เหตุที่ตนเข้าใจว่าจะมีความร้อนมากกว่านี้ เพราะหลังการเลือกตั้งมักจะมีการสรุปบทเรียน คือวิธีการไหนได้ผล โดยเฉพาะวิธีนอกแบบที่อันตราย ก็จะมีการใช้กันมากขึ้น หากกกต.ไม่ได้เตรียมการรองรับ ก็น่าเป็นห่วง เพราะจะมีปรากฎการณ์ กู้หน้า กู้ศักดิ์ศรี เอาคืนทางการเมืองเกิดขึ้น หลายจังหวัดจะยังเป็นคู่ต่อสู้เดิมๆ ที่จะถึงขั้นรุนแรง หาก กกต.และฝ่ายบ้านเมืองตระหนักในปัญหานี้ ก็ต้องปรับปรุงระบบ หลักเกณฑ์ต่างๆ ให้ดี เพราะที่ผ่านมาไม่มีการเตรียมการเรื่องนี้เท่าไร
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง คณะกรรมการสมานฉันท์ว่า ขณะนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กำลังใช้ความพยายามอยู่ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย มีบางฝ่ายยังไม่พร้อมที่จะเข้าร่วมด้วย และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตั้งไปก็ไม่ได้ประโยชน์ แม้ในอดีตไม่เคยได้ผลก็จริง แต่ต้องเข้าใจว่า ความขัดแย้งทางการเมืองที่อยู่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ มีความขัดแย้งรุนแรงกว่าทุกครั้ง ทั้งในแง่การต่อสู้ รูปแบบทางความคิด มีการแสดงออกที่ใครก็คาดไม่ถึง และขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยนายชวน คงตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน จึงพยายามทำอะไรสักอย่างให้ได้ แต่ตั้งกรรมการฯ ขึ้นมาแล้วไม่ใช่ความปรองดองจะเกิดทันที แต่ทำได้บ้างบางส่วน ดีกว่าไม่ได้ทำ ตรงนี้สำคัญ
จากประสบการณ์ของตนพูดเสมอว่า กฎเกณฑ์ หรือกฎหมาย ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของนักการเมืองได้ แม้แต่รัฐธรรมนูญ แต่กระแสสังคมต่างหากที่จะควบคุมได้มาโดยตลอด ถ้าทุกฝ่ายมีหน้าที่เกี่ยวข้อง และตระหนักเรื่องความขัดแย้งว่า วันนี้มันน่ากลัว ช่วยกันลดได้บางส่วนก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย หากสังคมเข้าใจสถานการณ์นี้ และแสดงออกชัดเจน ตนคิดว่า นักการเมืองก็คงพร้อมที่จะปฏิบัติตาม บางครั้งเขาไม่ร่วมเพราะไม่แน่ใจว่าซื้อเวลาหรือเปล่า ผู้มีอำนาจรัฐ กลุ่มผลประโยชน์ใหญ่ๆ ของประเทศ ถ้าตระหนักและช่วยลดอำนาจ ความได้เปรียบที่มีลงมาบ้าง ความร่วมมือก็น่าจะเกิดขึ้น
เรื่องนี้ที่สามารถทำได้คือ แสดงความจริงใจ และมีผลต่อการสมานฉันท์ด้วยคือ ยอมแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็น 2 ใน 12 ข้อ นโยบายเร่งด่วนอยู่แล้ว ต้องแสดงออกมาเลยว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ อุณหภูมิการเมืองลดลงได้แน่นอน หันหน้าเข้าหากัน แก้ไขรธน. อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสมานฉันท์ก็ได้
นายบัญญัติ ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในปีนี้ ว่าที่ผ่านมาเพิ่งจะมีการเลือก นายกฯอบจ. และสมาชิกอบจ. ต่อไปน่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับเทศบาล และ อบต. และสุดท้ายคือ พัทยา กทม. อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะมีประเด็นร้อนเกิดขึ้นแน่ เพราะการเลือกตั้งนายกอบจ. ที่ผ่านมา ก็ร้อนไม่ใช่น้อย บ้านใหญ่สู้กันถึงพริกถึงขิง มีการพูดว่า มีการใช้เงินหลายที่ หลายแห่ง ต้องรอดูว่าจะมีการร้องเรียนที่ไหนบ้าง
ทั้งนี้ เหตุที่ตนเข้าใจว่าจะมีความร้อนมากกว่านี้ เพราะหลังการเลือกตั้งมักจะมีการสรุปบทเรียน คือวิธีการไหนได้ผล โดยเฉพาะวิธีนอกแบบที่อันตราย ก็จะมีการใช้กันมากขึ้น หากกกต.ไม่ได้เตรียมการรองรับ ก็น่าเป็นห่วง เพราะจะมีปรากฎการณ์ กู้หน้า กู้ศักดิ์ศรี เอาคืนทางการเมืองเกิดขึ้น หลายจังหวัดจะยังเป็นคู่ต่อสู้เดิมๆ ที่จะถึงขั้นรุนแรง หาก กกต.และฝ่ายบ้านเมืองตระหนักในปัญหานี้ ก็ต้องปรับปรุงระบบ หลักเกณฑ์ต่างๆ ให้ดี เพราะที่ผ่านมาไม่มีการเตรียมการเรื่องนี้เท่าไร