ผู้จัดการรายวัน360- ศบค.พบติดโควิด-19 พุ่ง 250 ราย ชลบุรีพุ่งพรวด 108 ราย สมุทรสาครแนวโน้มลดลง หวั่นปีใหม่กลายเป็นเคานต์อัป หากไม่ป้องกัน ซัดพวกผีพนันไร้วุฒิภาวะ ทำติดเชื้อเพิ่ม “นายกฯตู่" บินด่วนดูปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในเมืองพัทยา ยันไม่ล็อกดาวน์ "สั่งเด็ดหัวขบวนการบ่อนพนัน" ด้าน มท.1 กำชับผู้ว่าฯ เข้มตามแนวชายแดน ไม่ให้มีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว พร้อมกวดขันบ่อนการพนันในพื้นที่ ไม่ต้องสนหน้าอินทร์หน้าพรหม เตรียมพร้อมเปิดรพ.สนามแต่ละจังหวัด หากโควิดระบาดเพิ่ม อย.เปิดช่องพิเศษขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิดทุกรายการ ช่วยคนไทยฉีดเร็ว-ปลอดภัย ด้าน ตม.เพิ่มความเข้มงวด สกัดลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ
วานนี้ (30 ธ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.)แถลงว่า ประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 250 ราย ในจำนวนนี้อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 8 ราย ผู้เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ได้อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 1 ราย ติดเชื้อในประเทศ 241 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 6,690 ราย หายป่วยสะสม 4,212 ราย อยู่ระหว่างรักษา 2,417 ราย เสียชีวิตสะสมคงที่ 61 ราย
ขณะนี้มีจังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 48 จังหวัด เกินครึ่งหนึ่งของประเทศแล้ว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกรณี จ.สมุทรสาคร 9 ราย ซึ่งเริ่มลดลงแล้ว ขณะที่ผู้มีประวัติเชื่อมโยงกรณี จ.ระยอง มี 3 ราย แต่ยังมีกลุ่มที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอีก 198 ราย ที่น่าสังเกตคือ ในจำนวนนี้ พบในพื้นที่จ.ชลบุรี 108 ราย และยังมีกลุ่มที่มีประวัติเที่ยวสถานบันเทิง มีอาชีพเสี่ยง 29 ราย ส่วนสถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 82,322,167 ราย เสียชีวิตสะสม1,796,292 ราย
ตัวเลขวันนี้ ทำให้ตนหวั่นใจว่ามันจะเดินไปทางไหน สิ่งที่เราไม่อยากจะเห็นภาพคือ การล็อกดาวน์รอบ2 รอบ3 ซึ่งไม่อยากให้เกิด วันนี้ตัวเลขสามหลัก และตัวเลขนำหน้าคือเลขสอง พรุ่งนี้จะเป็นเท่าไร ถ้าสถานการณ์ที่เราควบคุมกันไม่ได้ คุยกันไม่ได้ แทนที่จะเป็นเคาต์ดาวน์ปีใหม่ อาจจะเป็นเคาต์อัพ ซึ่งเป็นคำของ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีตรมว.สาธารณสุข เคาต์ดาวน์ เพื่อนับถอยหลังฉลองปีใหม่ แต่บรรยากาศแบบนี้ถ้าทุกคนไม่เว้นระยะห่าง ไม่สวมหน้ากาก ยืนเกาะกลุ่ม ในมือมีแอลกกอฮอล์ก็ขาดสติในช่วงเวลาตอนนั้น หลังจากนั้นเราจะต้อง เคาต์อัพ นับจำนวนเพิ่มขึ้นแน่นอนกับคนที่ติดเชื้อโควิด-19 เราไม่อยากจะเห็นภาพนั้น
ศบค.กังวลใจในเรื่องนี้ จึงจะมีการออกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่งอาจจะเป็นผู้ว่าฯ โดยจะให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. เพื่อห้ามมั่วสุมในลักษณะที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือ การกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรค ณ ที่ใดๆ ทั่วราชอาณาจักร ห้ามการชุมนุมหรือทำกิจกรรมแออัดเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและพื้นที่ควบคุม เว้นแต่กิจกรรมภายในครอบครัว ในเคหะสถานของตัวเอง หรือกิจกรรมของทางราชการ ส่วนการชุมนุมหรือการทำกิจกรรมในพื้นที่เฝ้าระวังสูงและพื้นที่เฝ้าระวังต้องขออนุญาตต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัด เว้นแต่การทำกิจกรรมภายในครอบครัว
สำหรับผู้ที่เดินทางออกจากจังหวัดที่มีการติดเชื้อจำนวนมาก จะต้องมีการกักตัวหรือไม่นั้น เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับจังหวัดปลายทางที่จะไปว่า เขามีประกาศ และข้อกำหนดอย่างไรบ้าง หากกำหนดว่ามาพื้นที่ใดแล้วต้องกักตัวก็ต้องปฏิบัติตามนั้น ขอให้รอประกาศที่ชัดเจน จากจังหวัดนั้นๆ รวมถึงหากเดินทางไปจังหวัดต่างๆ แล้วจะกลับจังหวัดต้นทางต้องดูด้วยว่าทางจังหวัดต้นทางมีการเปลี่ยนแปลงประกาศและข้อกำหนดอะไรหรือไม่ ซึ่งก็ต้องปฏิบัติตามเช่นกัน แต่ดีที่สุดคือ อยู่กับบ้าน งดการเดินทาง
กรณีประชาชนที่จองตั๋วเครื่องบิน ตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น พอขอเลื่อน กลับได้รับคำตอบว่ายังไม่มีประกาศห้ามเดินทาง ศบค.จะให้การช่วยเหลืออย่างไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อได้รับการร้องทุกข์ เลขาฯ สมช.ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการศบค. ได้ประสานสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือเยียวยาคนที่ทำตามคำแนะนำของศบค. และจากการพูดคุยกับ 6 สายการบิน ที่ประกอบด้วย ไทยสมายล์ นกแอร์ แอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ ไทยเวียตเจ็ท และไลอ้อน แอร์ ได้ให้ความร่วมมือ โดยมีเงื่อนไข 3 ข้อ คือ สามารถเปลี่ยนเที่ยวบินได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินได้ หรือเก็บวงเงินในรูปแบบเครดิตเพื่อใช้ในการเดินทางครั้งหน้า ซึ่งแต่ละสายการบิน มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ขอให้ประชาชนไปติดตามรายละเอียด และรีบประสานกับสายการบินนั้นๆ
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ในการประชุมของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทุกคนบอกว่า ทุกอย่างต้องรีบบอกประชาชนโดยเร็ว ไม่มีการปกปิด ซึ่งตนสบายใจ ที่ได้สะท้อนภาพความเป็นจริง และไม่ได้รับคำสั่งให้ปิดบังอะไร อย่างไรก็ตาม ความไม่สบายใจเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อนั้น ไม่ใช่ความไม่สบายใจทางการแพทย์อย่างเดียว แต่ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ต้องร่วมมือกัน ตอนนี้เราทราบว่าแหล่งของการแพร่เชื้อ มีทั้งสถานบันเทิงในตอนกลางคืนที่มีความใกล้ชิด และไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ หรือสถานที่ลักลอบเล่นการพนัน กลุ่มคนเหล่านี้ก็ยังไม่ได้มีวุฒิภาวะเพียงพอในการรับผิดชอบตัวเอง ภาพเหล่านี้สะท้อนออกมาว่ามีคนติดเชื้อมากขึ้น
"คนสูงอายุ คนที่ยังเล่นอยู่ ทั้งที่จากเดิมเป็นคนที่ระมัดระวังตัวเองมาก กลับกลายเป็นว่ามีตัวเลขสูงขึ้น เพราะฉะนั้นการสะท้อนภาพเช่นนี้ทำให้อึดอัดใจมาก อยากผ่องถ่ายความไม่สบายใจนี้ให้ประชาชนต้องรับร่วมกัน วันนี้คือ 30 ธ.ค. เป็นช่วงที่ควรเคาต์ดาวน์ แบบมีความสุข แต่กลับกลายเป็นเคาต์อัพ จะกลายเป็น 300 หรือ 400 ในวัดถัดไปหรือไม่ หรือจะเป็นพันเป็นหมื่น อย่างที่เราตกใจกลัว ความทุกข์ด้านนี้จะอยู่ที่ภาครัฐ เอกชน หรือประชาชนคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยกัน อีกไม่กี่นาทีที่จะหยุดงาน ขอให้อยู่ในทุกวินาทีที่ต้องระวังตัว มีสติในการร่วมมือกัน การดูแลสุขอนามัยส่วนตัวง่ายที่สุดคือ การใส่หน้ากาก และถ้าไม่จำเป็นต้องเดินทางก็อย่าเดินทาง" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นายกฯ ยันไม่ล็อกดาวน์ประเทศแน่นอน
เช้าวานนี้ (30 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เดินทางเข้าปฎิบัติหน้าที่ ที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยเปิดโอกาสให้ รัฐมนตรี ข้าราชการ เข้าอวยพรปีใหม่ อาทิ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสกลธี ภัทธิยกุล รองผู้ว่าฯกทม. พล.อ.ชูชาติ บัวขาว รองปลัดกระทรวงกลาโหม
โอกาสนี้ นายกฯได้มอบของที่ระลึกให้กับบุคคลต่างๆที่มาอวยพรปีใหม่
ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมคณะเดินทางไปยัง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อตรวจเยี่ยม สถานการที่กักกันตัวของรัฐ และรับฟังบรรยายสรุปการรับมือและการป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ที่โรงแรมแกรนด์เบลล่า
โดยเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากกองพันบินที่ 9 มายังท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา นำหัวหน้าส่วนราชการที่ให้การต้อนรับ ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมให้การต้อนรับพร้อมชูป้ายให้กำลังใจซึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวทักทายประชาชนพร้อมแสดงสัญลักษณ์ด้วยการ ชู 2 นิ้ว
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว่า การเดินทางลงพื้นที่เมืองพัทยาในครั้งนี้ มีห่วงใยประชาชนและขอให้ร่วมกันฝ่าฟันวิกฤติไปให้ได้ โดยเมืองพัทยา ถือเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวของไทยซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงพบว่าได้รับผลกระ ทบจากการแพร่ระบาดฯอย่างหนักจนมีสถิติผู้ติดเชื้อสูงขึ้นต่อเนื่องและย่อมส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
“ ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องชื่นชมการทำงานของ จ.ชลบุรี และชาวพัทยาที่มีส่วนร่วมในการควบคุมและติดตามแก้ไขสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามในอนาคตจะต้องแก้ไขปัญหาเรื่องของการคอร์รัปชั่น การรับส่วยและสินบนต่างๆ ด้วยการคัดกรองข้าราชการที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต เข้ามาทำงานและจะต้องไม่ปล่อยให้มีสถานที่ “อโคจร” เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของบ่อนพนันที่ต้องจัดการให้สิ้นซากเพราะถือเป็นต้นตอสำคัญของปัญหาที่ลุกลามในวันนี้”
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่าจะไม่มีการล็อกดาวน์ประเทศอย่างแน่นอน ส่วนแต่ละพื้นที่จะ ให้อำนาจผู้ว่าราชการเป็นผู้พิจารณา
สำหรับเรื่องวัคซีนป้องกันนั้นรัฐบาลได้ประสานงานไปยังประเทศอังกฤษในการสั่งจองปแล้วกว่า 20 ล้านโดส ซึ่งคาดว่าจะได้รับและนำมาใช้ได้ช่วงกลางปีหน้า และจะเน้นไปที่ คนชรา เด็ก และผู้ป่วยก่อน
มท.1 กำชับผู้ว่าฯ เข้มแนวชายแดนสกัดแรงงานเถื่อน
ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมชี้แจงมาตรการรับมือและป้องกัน โควิด- 19 พร้อมกำชับมาตรการป้องกันการพนันในพื้นที่ การป้องกันยาเสพติด การบริการแรงงานจัดการแรงงานต่างด้าว และการขับเคลื่อนแนวทางป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผ่านระบบวิดีทัศน์ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ
พล.อ.อนุพงษ์ ได้กำชับผู้ว่าฯ จังหวัดตามแนวชายแดน ในการกวดขันแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศ จนมาสู่การติดเชื้อโควิด -19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ส่วนเรื่องบ่อนการพนัน ที่นำมาสู่การเป็นซูเปอร์ สเปรดเดอร์ โดยตรงนั้น ขอกำชับให้ผู้ว่าฯประสานหน่วยงานปกครอง และ ตำรวจในพื้นที่ กวดขันจับกุมบ่อนการพนัน โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งสิ้น เพื่อป้องกันการระบาดของโรค และการพนันในพื้นที่ รวมถึงให้ผู้ว่าฯ พิจารณาการจัดกิจกรรมช่วงปีใหม่ สิ่งไหนหลีกเลี่ยงได้ ก็ให้เลี่ยง แม้มีมาตรการป้องกันโควิด-19 ก็ตาม รวมถึงพิจารณาการเปิด เปิด สถานประกอบการ สถานบันเทิงต่างๆ เพื่อลดการระบาดเชื้อด้วย
รมว.มหาดไทย ยังให้ผู้ว่าฯ เน้นทำความเข้าใจกับประชาชน ในการป้องกัน โควิด-19 ในพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยทุกพื้นที่ต้องเน้นการป้องกันตามมาตรการสาธารณสุข เว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย เข้าแอปพลิเคชั่น ไทยชนะ ขณะเดียวกันให้ใช้ทุกกลไกลทางสังคม รณรงค์ เร่งทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ หากมีการออกมาคัดค้านการจัดตั้งรพ.สนาม เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจถึงเหตุผลที่จำเป็น ในการรักษาพยาบาล เพื่อไม่ให้มีการระบาดเพิ่มเติม และให้แต่ละจังหวัดเตรียมการให้พร้อมในการตั้งรพ.สนามไว้ หากเกิดการะบาดในพื้นที่
สมุทรสาครป่วยเพิ่ม 28 ราย-ยอดสะสม 1,634 ราย
รายงานข่าวจากสมุทรสาคร แจ้งว่า พบตัวเลขผู้ติดเชื้อ ใหม่ 28 ราย แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก การค้นหาเชิงรุก 8 ราย เป็นคนไทย 2 ราย ต่างด้าว 6 ราย และส่วนที่ 2 พบผู้ติดในโรงพยาบาล 20 ราย เป็นคนไทย 17 ราย ต่างด้าว 3 ราย ทำให้ยอดสะสมรวม 1,634 ราย
อย.เปิดช่องพิเศษขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิดทุกรายการ
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19 ยืนยันพร้อมอำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนวัคซีนทุกรายการ ทั้งวัคซีนที่พัฒนาจากต่างประเทศและวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทย ทุกเทคโนโลยีแพลตฟอร์มให้สามารถขึ้นทะเบียนด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล
“อย.ได้เปิดช่องทางพิเศษสำหรับขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าวัคซีนที่ผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย. จะมีความปลอดภัย มีคุณภาพ มีประสิทธิผลป้องกันโรค และเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค อย. ได้เตรียมมาตรการเฝ้าระวังและประเมินผลความปลอดภัยของวัคซีนอย่างรอบด้านด้วย” นพ.ไพศาล กล่าว
ตม.เข้มงวดสกัดการลักลอบนำเข้าแรงงานเถื่อน
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดสืบสวนหาข่าว เพื่อร่วมปฎิบัติการในจุดสกัด 215 จุด ทั่วประเทศ ตม.จึงได้จัดกำลัง รวม 53 ชุดปฎิบัติการ 688 นายออกปฎิบัติการอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี 2563 มีการจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่หลบหนีเข้าเมืองเฉพาะชาวเมียนมามีจำนวนมากถึง 29,597 คน จากที่จับกุมได้มากกว่า 60,000 คน แต่ในระยะนี้ ตม.จะเข้มงวดในกรณีการขนแรงงาน การนำพา ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้นให้มีการข้ามแดน โดยผิดกฎหมาย เพื่อเข้าพื้นที่ชั้นใน
ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มเติมว่า กรณีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในพื้นที่ชั้นในเป็นเวลานานแล้ว จะมีการชะลอผ่อนผัน แต่จะไปเข้มงวดตามแนวชายแดนซึ่งมีระยะทางมากกว่า 5,000 กิโลเมตร โดยเฉพาะทางตะวันตกที่ติดกับประเทศเมียนมา เช่นชายแดนจังหวัดระนอง ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ เป็นต้น โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้มีการดำเนินคดีไม่ละเว้น หากพยานหลักฐานถึงใครโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐให้ ดำเนินการตรงไปตรงมา ขณะที่หากเป็นนายทุนถ้าผิดเข้าข่ายค้ามนุษย์ ก็จะดำเนินการใช้กฎหมาย ปปง. เข้ายึดทรัพย์ด้วย
ขยะตกค้างพท.สีแดง-สีส้มเสี่ยงกระจายโรค
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์โฆษก ประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้สั่งการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ และ กระทรวงมหาดไทยโดย กทม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประสานการทำงานร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่เสี่ยง ให้บริหารจัดการ และการควบคุมกำจัดขยะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (พื้นที่สีแดง) และ พื้นที่ควบคุม (พื้นที่สีส้ม) ไม่ให้เกิดการตกค้างของขยะ โดยเฉพาะขยะติดเชื้อในพื้นที่ดังกล่าว ที่อาจเป็นปัญหาของการกระจายโรค หากไม่ได้รับการควบคุม
ทั้งนี้ขอให้ฝ่ายปกครองในทุกพื้นที่ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และขอความร่วมมือ ให้ความสำคัญในการคัดแยกขยะ เพื่อลดปริมาณขยะและ ง่ายต่อการบริหารจัดการร่วมกัน ในภาวะของการแพร่ระบาดที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะขอให้ทำความเข้าใจ และให้ความรู้กับกลุ่มเสี่ยงที่บริหารจัดการขยะในพื้นที่สีแดง และสีส้ม ถึงมาตรการป้องกันตนเองควบคู่กันไปด้วย
วานนี้ (30 ธ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.)แถลงว่า ประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 250 ราย ในจำนวนนี้อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 8 ราย ผู้เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ได้อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 1 ราย ติดเชื้อในประเทศ 241 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 6,690 ราย หายป่วยสะสม 4,212 ราย อยู่ระหว่างรักษา 2,417 ราย เสียชีวิตสะสมคงที่ 61 ราย
ขณะนี้มีจังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 48 จังหวัด เกินครึ่งหนึ่งของประเทศแล้ว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกรณี จ.สมุทรสาคร 9 ราย ซึ่งเริ่มลดลงแล้ว ขณะที่ผู้มีประวัติเชื่อมโยงกรณี จ.ระยอง มี 3 ราย แต่ยังมีกลุ่มที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอีก 198 ราย ที่น่าสังเกตคือ ในจำนวนนี้ พบในพื้นที่จ.ชลบุรี 108 ราย และยังมีกลุ่มที่มีประวัติเที่ยวสถานบันเทิง มีอาชีพเสี่ยง 29 ราย ส่วนสถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 82,322,167 ราย เสียชีวิตสะสม1,796,292 ราย
ตัวเลขวันนี้ ทำให้ตนหวั่นใจว่ามันจะเดินไปทางไหน สิ่งที่เราไม่อยากจะเห็นภาพคือ การล็อกดาวน์รอบ2 รอบ3 ซึ่งไม่อยากให้เกิด วันนี้ตัวเลขสามหลัก และตัวเลขนำหน้าคือเลขสอง พรุ่งนี้จะเป็นเท่าไร ถ้าสถานการณ์ที่เราควบคุมกันไม่ได้ คุยกันไม่ได้ แทนที่จะเป็นเคาต์ดาวน์ปีใหม่ อาจจะเป็นเคาต์อัพ ซึ่งเป็นคำของ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีตรมว.สาธารณสุข เคาต์ดาวน์ เพื่อนับถอยหลังฉลองปีใหม่ แต่บรรยากาศแบบนี้ถ้าทุกคนไม่เว้นระยะห่าง ไม่สวมหน้ากาก ยืนเกาะกลุ่ม ในมือมีแอลกกอฮอล์ก็ขาดสติในช่วงเวลาตอนนั้น หลังจากนั้นเราจะต้อง เคาต์อัพ นับจำนวนเพิ่มขึ้นแน่นอนกับคนที่ติดเชื้อโควิด-19 เราไม่อยากจะเห็นภาพนั้น
ศบค.กังวลใจในเรื่องนี้ จึงจะมีการออกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่งอาจจะเป็นผู้ว่าฯ โดยจะให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. เพื่อห้ามมั่วสุมในลักษณะที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือ การกลั่นแกล้งเพื่อแพร่เชื้อโรค ณ ที่ใดๆ ทั่วราชอาณาจักร ห้ามการชุมนุมหรือทำกิจกรรมแออัดเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและพื้นที่ควบคุม เว้นแต่กิจกรรมภายในครอบครัว ในเคหะสถานของตัวเอง หรือกิจกรรมของทางราชการ ส่วนการชุมนุมหรือการทำกิจกรรมในพื้นที่เฝ้าระวังสูงและพื้นที่เฝ้าระวังต้องขออนุญาตต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัด เว้นแต่การทำกิจกรรมภายในครอบครัว
สำหรับผู้ที่เดินทางออกจากจังหวัดที่มีการติดเชื้อจำนวนมาก จะต้องมีการกักตัวหรือไม่นั้น เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับจังหวัดปลายทางที่จะไปว่า เขามีประกาศ และข้อกำหนดอย่างไรบ้าง หากกำหนดว่ามาพื้นที่ใดแล้วต้องกักตัวก็ต้องปฏิบัติตามนั้น ขอให้รอประกาศที่ชัดเจน จากจังหวัดนั้นๆ รวมถึงหากเดินทางไปจังหวัดต่างๆ แล้วจะกลับจังหวัดต้นทางต้องดูด้วยว่าทางจังหวัดต้นทางมีการเปลี่ยนแปลงประกาศและข้อกำหนดอะไรหรือไม่ ซึ่งก็ต้องปฏิบัติตามเช่นกัน แต่ดีที่สุดคือ อยู่กับบ้าน งดการเดินทาง
กรณีประชาชนที่จองตั๋วเครื่องบิน ตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น พอขอเลื่อน กลับได้รับคำตอบว่ายังไม่มีประกาศห้ามเดินทาง ศบค.จะให้การช่วยเหลืออย่างไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อได้รับการร้องทุกข์ เลขาฯ สมช.ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการศบค. ได้ประสานสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือเยียวยาคนที่ทำตามคำแนะนำของศบค. และจากการพูดคุยกับ 6 สายการบิน ที่ประกอบด้วย ไทยสมายล์ นกแอร์ แอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ ไทยเวียตเจ็ท และไลอ้อน แอร์ ได้ให้ความร่วมมือ โดยมีเงื่อนไข 3 ข้อ คือ สามารถเปลี่ยนเที่ยวบินได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินได้ หรือเก็บวงเงินในรูปแบบเครดิตเพื่อใช้ในการเดินทางครั้งหน้า ซึ่งแต่ละสายการบิน มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ขอให้ประชาชนไปติดตามรายละเอียด และรีบประสานกับสายการบินนั้นๆ
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ในการประชุมของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทุกคนบอกว่า ทุกอย่างต้องรีบบอกประชาชนโดยเร็ว ไม่มีการปกปิด ซึ่งตนสบายใจ ที่ได้สะท้อนภาพความเป็นจริง และไม่ได้รับคำสั่งให้ปิดบังอะไร อย่างไรก็ตาม ความไม่สบายใจเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อนั้น ไม่ใช่ความไม่สบายใจทางการแพทย์อย่างเดียว แต่ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ต้องร่วมมือกัน ตอนนี้เราทราบว่าแหล่งของการแพร่เชื้อ มีทั้งสถานบันเทิงในตอนกลางคืนที่มีความใกล้ชิด และไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ หรือสถานที่ลักลอบเล่นการพนัน กลุ่มคนเหล่านี้ก็ยังไม่ได้มีวุฒิภาวะเพียงพอในการรับผิดชอบตัวเอง ภาพเหล่านี้สะท้อนออกมาว่ามีคนติดเชื้อมากขึ้น
"คนสูงอายุ คนที่ยังเล่นอยู่ ทั้งที่จากเดิมเป็นคนที่ระมัดระวังตัวเองมาก กลับกลายเป็นว่ามีตัวเลขสูงขึ้น เพราะฉะนั้นการสะท้อนภาพเช่นนี้ทำให้อึดอัดใจมาก อยากผ่องถ่ายความไม่สบายใจนี้ให้ประชาชนต้องรับร่วมกัน วันนี้คือ 30 ธ.ค. เป็นช่วงที่ควรเคาต์ดาวน์ แบบมีความสุข แต่กลับกลายเป็นเคาต์อัพ จะกลายเป็น 300 หรือ 400 ในวัดถัดไปหรือไม่ หรือจะเป็นพันเป็นหมื่น อย่างที่เราตกใจกลัว ความทุกข์ด้านนี้จะอยู่ที่ภาครัฐ เอกชน หรือประชาชนคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยกัน อีกไม่กี่นาทีที่จะหยุดงาน ขอให้อยู่ในทุกวินาทีที่ต้องระวังตัว มีสติในการร่วมมือกัน การดูแลสุขอนามัยส่วนตัวง่ายที่สุดคือ การใส่หน้ากาก และถ้าไม่จำเป็นต้องเดินทางก็อย่าเดินทาง" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นายกฯ ยันไม่ล็อกดาวน์ประเทศแน่นอน
เช้าวานนี้ (30 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เดินทางเข้าปฎิบัติหน้าที่ ที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยเปิดโอกาสให้ รัฐมนตรี ข้าราชการ เข้าอวยพรปีใหม่ อาทิ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสกลธี ภัทธิยกุล รองผู้ว่าฯกทม. พล.อ.ชูชาติ บัวขาว รองปลัดกระทรวงกลาโหม
โอกาสนี้ นายกฯได้มอบของที่ระลึกให้กับบุคคลต่างๆที่มาอวยพรปีใหม่
ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมคณะเดินทางไปยัง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อตรวจเยี่ยม สถานการที่กักกันตัวของรัฐ และรับฟังบรรยายสรุปการรับมือและการป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ที่โรงแรมแกรนด์เบลล่า
โดยเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากกองพันบินที่ 9 มายังท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา นำหัวหน้าส่วนราชการที่ให้การต้อนรับ ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมให้การต้อนรับพร้อมชูป้ายให้กำลังใจซึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวทักทายประชาชนพร้อมแสดงสัญลักษณ์ด้วยการ ชู 2 นิ้ว
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว่า การเดินทางลงพื้นที่เมืองพัทยาในครั้งนี้ มีห่วงใยประชาชนและขอให้ร่วมกันฝ่าฟันวิกฤติไปให้ได้ โดยเมืองพัทยา ถือเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวของไทยซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงพบว่าได้รับผลกระ ทบจากการแพร่ระบาดฯอย่างหนักจนมีสถิติผู้ติดเชื้อสูงขึ้นต่อเนื่องและย่อมส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
“ ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องชื่นชมการทำงานของ จ.ชลบุรี และชาวพัทยาที่มีส่วนร่วมในการควบคุมและติดตามแก้ไขสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามในอนาคตจะต้องแก้ไขปัญหาเรื่องของการคอร์รัปชั่น การรับส่วยและสินบนต่างๆ ด้วยการคัดกรองข้าราชการที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต เข้ามาทำงานและจะต้องไม่ปล่อยให้มีสถานที่ “อโคจร” เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของบ่อนพนันที่ต้องจัดการให้สิ้นซากเพราะถือเป็นต้นตอสำคัญของปัญหาที่ลุกลามในวันนี้”
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่าจะไม่มีการล็อกดาวน์ประเทศอย่างแน่นอน ส่วนแต่ละพื้นที่จะ ให้อำนาจผู้ว่าราชการเป็นผู้พิจารณา
สำหรับเรื่องวัคซีนป้องกันนั้นรัฐบาลได้ประสานงานไปยังประเทศอังกฤษในการสั่งจองปแล้วกว่า 20 ล้านโดส ซึ่งคาดว่าจะได้รับและนำมาใช้ได้ช่วงกลางปีหน้า และจะเน้นไปที่ คนชรา เด็ก และผู้ป่วยก่อน
มท.1 กำชับผู้ว่าฯ เข้มแนวชายแดนสกัดแรงงานเถื่อน
ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมชี้แจงมาตรการรับมือและป้องกัน โควิด- 19 พร้อมกำชับมาตรการป้องกันการพนันในพื้นที่ การป้องกันยาเสพติด การบริการแรงงานจัดการแรงงานต่างด้าว และการขับเคลื่อนแนวทางป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผ่านระบบวิดีทัศน์ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ
พล.อ.อนุพงษ์ ได้กำชับผู้ว่าฯ จังหวัดตามแนวชายแดน ในการกวดขันแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศ จนมาสู่การติดเชื้อโควิด -19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ส่วนเรื่องบ่อนการพนัน ที่นำมาสู่การเป็นซูเปอร์ สเปรดเดอร์ โดยตรงนั้น ขอกำชับให้ผู้ว่าฯประสานหน่วยงานปกครอง และ ตำรวจในพื้นที่ กวดขันจับกุมบ่อนการพนัน โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งสิ้น เพื่อป้องกันการระบาดของโรค และการพนันในพื้นที่ รวมถึงให้ผู้ว่าฯ พิจารณาการจัดกิจกรรมช่วงปีใหม่ สิ่งไหนหลีกเลี่ยงได้ ก็ให้เลี่ยง แม้มีมาตรการป้องกันโควิด-19 ก็ตาม รวมถึงพิจารณาการเปิด เปิด สถานประกอบการ สถานบันเทิงต่างๆ เพื่อลดการระบาดเชื้อด้วย
รมว.มหาดไทย ยังให้ผู้ว่าฯ เน้นทำความเข้าใจกับประชาชน ในการป้องกัน โควิด-19 ในพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยทุกพื้นที่ต้องเน้นการป้องกันตามมาตรการสาธารณสุข เว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย เข้าแอปพลิเคชั่น ไทยชนะ ขณะเดียวกันให้ใช้ทุกกลไกลทางสังคม รณรงค์ เร่งทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ หากมีการออกมาคัดค้านการจัดตั้งรพ.สนาม เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจถึงเหตุผลที่จำเป็น ในการรักษาพยาบาล เพื่อไม่ให้มีการระบาดเพิ่มเติม และให้แต่ละจังหวัดเตรียมการให้พร้อมในการตั้งรพ.สนามไว้ หากเกิดการะบาดในพื้นที่
สมุทรสาครป่วยเพิ่ม 28 ราย-ยอดสะสม 1,634 ราย
รายงานข่าวจากสมุทรสาคร แจ้งว่า พบตัวเลขผู้ติดเชื้อ ใหม่ 28 ราย แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก การค้นหาเชิงรุก 8 ราย เป็นคนไทย 2 ราย ต่างด้าว 6 ราย และส่วนที่ 2 พบผู้ติดในโรงพยาบาล 20 ราย เป็นคนไทย 17 ราย ต่างด้าว 3 ราย ทำให้ยอดสะสมรวม 1,634 ราย
อย.เปิดช่องพิเศษขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิดทุกรายการ
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19 ยืนยันพร้อมอำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนวัคซีนทุกรายการ ทั้งวัคซีนที่พัฒนาจากต่างประเทศและวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทย ทุกเทคโนโลยีแพลตฟอร์มให้สามารถขึ้นทะเบียนด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล
“อย.ได้เปิดช่องทางพิเศษสำหรับขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าวัคซีนที่ผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย. จะมีความปลอดภัย มีคุณภาพ มีประสิทธิผลป้องกันโรค และเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค อย. ได้เตรียมมาตรการเฝ้าระวังและประเมินผลความปลอดภัยของวัคซีนอย่างรอบด้านด้วย” นพ.ไพศาล กล่าว
ตม.เข้มงวดสกัดการลักลอบนำเข้าแรงงานเถื่อน
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดสืบสวนหาข่าว เพื่อร่วมปฎิบัติการในจุดสกัด 215 จุด ทั่วประเทศ ตม.จึงได้จัดกำลัง รวม 53 ชุดปฎิบัติการ 688 นายออกปฎิบัติการอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี 2563 มีการจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่หลบหนีเข้าเมืองเฉพาะชาวเมียนมามีจำนวนมากถึง 29,597 คน จากที่จับกุมได้มากกว่า 60,000 คน แต่ในระยะนี้ ตม.จะเข้มงวดในกรณีการขนแรงงาน การนำพา ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้นให้มีการข้ามแดน โดยผิดกฎหมาย เพื่อเข้าพื้นที่ชั้นใน
ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มเติมว่า กรณีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในพื้นที่ชั้นในเป็นเวลานานแล้ว จะมีการชะลอผ่อนผัน แต่จะไปเข้มงวดตามแนวชายแดนซึ่งมีระยะทางมากกว่า 5,000 กิโลเมตร โดยเฉพาะทางตะวันตกที่ติดกับประเทศเมียนมา เช่นชายแดนจังหวัดระนอง ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ เป็นต้น โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้มีการดำเนินคดีไม่ละเว้น หากพยานหลักฐานถึงใครโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐให้ ดำเนินการตรงไปตรงมา ขณะที่หากเป็นนายทุนถ้าผิดเข้าข่ายค้ามนุษย์ ก็จะดำเนินการใช้กฎหมาย ปปง. เข้ายึดทรัพย์ด้วย
ขยะตกค้างพท.สีแดง-สีส้มเสี่ยงกระจายโรค
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์โฆษก ประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้สั่งการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ และ กระทรวงมหาดไทยโดย กทม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประสานการทำงานร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่เสี่ยง ให้บริหารจัดการ และการควบคุมกำจัดขยะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (พื้นที่สีแดง) และ พื้นที่ควบคุม (พื้นที่สีส้ม) ไม่ให้เกิดการตกค้างของขยะ โดยเฉพาะขยะติดเชื้อในพื้นที่ดังกล่าว ที่อาจเป็นปัญหาของการกระจายโรค หากไม่ได้รับการควบคุม
ทั้งนี้ขอให้ฝ่ายปกครองในทุกพื้นที่ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และขอความร่วมมือ ให้ความสำคัญในการคัดแยกขยะ เพื่อลดปริมาณขยะและ ง่ายต่อการบริหารจัดการร่วมกัน ในภาวะของการแพร่ระบาดที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะขอให้ทำความเข้าใจ และให้ความรู้กับกลุ่มเสี่ยงที่บริหารจัดการขยะในพื้นที่สีแดง และสีส้ม ถึงมาตรการป้องกันตนเองควบคู่กันไปด้วย