“การบินไทย” เลื่อนยื่นแผนฟื้นฟู 1เดือน เผยเจรจาเจ้าหนี้ยังไม่ยุติ ขยับยื่นศาล 2 ก.พ.64 ตั้งเป้าศาลอนุมัติแผน เม.ย.-พ.ค.64 พร้อมวางแผนบินไตรมาส1/64 ไปยัง 10 เมือง ดันปี 68 รายได้ฟื้น 1.25 แสนล้าน "ชาญศิลป์" เผยต้องดิ้นทุกทางหารายได้
วานนี้ (24 ธ.ค.) นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ.การบินไทย) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าหนี้ ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งมีการจัดกลุ่มเจ้าหนี้ และการกำหนดเงื่อนไขในการชำระหนี้ของเจ้าหนี้ ทั้งลดหนี้ ยืดหนี้ ส่วนผู้ถือหุ้น อาจจะเป็นการลดทุน ซึ่งอยู่ในกระบวนการเจรจาให้มีความสมบูรณ์เพื่อนำไปประกอบการจัดทำแผนฟื้นฟู ซึ่งคาดว่าจะสรุปและยื่นแผนฟื้นฟูฯ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ใน วันที่ 2 ก.พ.64 โดยในสัปดาห์หน้า บริษัทฯจะ ยื่นศาลเพื่อขอขยายเวลาออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมกำหนดจะยื่นแผนฯ วันที่ 2 ม.ค.64 และคาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือน ในการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนฟื้นฟู ในช่วงกลาง หรือปลายเดือน มี.ค. 64 และศาลล้มละลายกลางประชุมเพื่อรับแผนใน เม.ย.-พ.ค. 64 จากนั้นจะเข้าสู่การปฏิบัติตามแผนฟื้นฟู ซึ่งตามกฎหมาย มีระยะเวลาในการดำเนินการตามแผน 5 ปี และขยายได้ไม่เกิน 2 ครั้งๆละ 1 ปี หรือรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 7 ปี
“ในระหว่างทำแผนฟื้นฟู บริษัทได้ทำแผนด้านธุรกิจอื่นๆควบคู่ไปด้วย ทั้งแผนการบิน ปรับโครงสร้างองค์กร และพยายามหารายได้จากธุรกิจอื่นในช่วงที่ไม่สามารถทำการบินได้ตามปกติ ก็พยายามดิ้นรนทุกวิถีทาง ซึ่งการประมาณการรายได้ต่างๆ ทำค่อนข้างยาก เนื่องจากมีปัจจัยโควิด-19 ระลอกใหม่ และเชื่อว่าบริษัท จะสามารถปรับตัวได้ และคาดว่าในไตรมาส 3-4/ 64 วัคซีนจะเข้ามา ซึ่งบริษัทฯ พร้อมทำหน้าที่ในการขนส่งวัคซีน” นายชาญศิลป์ ระบุ
นายชาญศิลป์ ยังได้กล่าวถึงบริษัทในเครือ เช่น ไทยสมายล์, บริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสต์เอเชีย จำกัด, บริษัท ครัวการบินภูเก็ต จำกัด, บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด และบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ด้วยว่า จะมีหน่วยแผนกลยุทธ์องค์กร พิจารณาการดำเนินธุรกิจ ว่าจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในรูปแบบอย่างไร หรือจะมีการร่วมมือกันอย่างไร ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์
ด้าน นายนนท์ กลินทะ รักษาการ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์การบิน กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้า ในปี 68 จะลดค่าใช้จ่ายลง 35% คาดว่ารายได้จะฟื้นขึ้นมาที่ประมาณ 1.25 แสนล้าน แต่ยังต่ำกว่าช่วงปี 62 ประมาณ 29% ขณะที่จะมีการปรับลดฝูงบินอย่างต่อเนื่องเหลือสูงสุด 75 ลำ หรือลดฝูงบินลงจากปัจจุบัน 26% และจะทำการบินประมาณ 75-80 เมือง โดยคาดว่ามีกำไร 140%
“สำหรับแผนการบินในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.64 การบินไทย จะทำการบินไปยัง 10 เมืองหลัก 18 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ได้แก่ ลอนดอน, แฟรงก์เฟิร์ต, โคเปนเฮเกน, โตเกียว, โอซากะ, โซล, ฮ่องกง, ไทเป, มะนิลา และซิดนีย์” นายนนท์ กล่าว
ขณะที่ นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่หน่วยธุรกิจบริการการบิน กล่าวว่า ในช่วงโควิด การบินหยุดชะงักบ้าง แต่หน่วยธุรกิจ ทั้ง บริการลูกค้าภาคพื้น, บริษัทอุปกรณ์ภาคพื้น ฝ่ายครัวการบิน ฝ่ายการพาณิชย์และไปรษณีย์ภัณฑ์ ยังคงช่วยขับเคลื่อน โดยการขนส่งสินค้า (คาร์โก้) ที่เคยมีรายได้ประมาณ 30% ของรายได้ผู้โดยสารในปี 63 ขนส่งปริมาณ 160,000 ตัน หรือเฉลี่ย 6,000 ตัน ต่อเดือน เป็นไปตามระวางขนส่งที่จำกัด โดยทำการบินคาร์โก้ไปยัง 17 เมือง ซึ่งรายได้รวมของหน่วยธุรกิจช่วงม.ค.-มี.ค. 63 ก่อนโควิด มีจำนวน 8,675 ล้านบาท คาดช่วง เม.ย.-ธ.ค.63 ที่ 5,204 ล้านบาทรวมทั้งปี จำนวน 13,879 ล้านบาท
ส่วน นายเชิดพันธ์ โชติคุณ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่าง กล่าวว่า เป้าหมายบริษัท จะลดต้นทุน 30% ดังนั้น ฝ่ายช่างต้องลดลง 30% ซึ่งจะมีการปรับโครงสร้าง ปรับกระบวนการทำงานให้กระชับ และนำจุดแข็งมาสร้างรายได้ เช่น ศูนย์ซ่อม MRO และทำสัญญาด้านซ่อมบำรุงประมาณ 30% กรณีใช้อะไหล่ของผู้ผลิต ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา
วานนี้ (24 ธ.ค.) นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ.การบินไทย) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าหนี้ ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งมีการจัดกลุ่มเจ้าหนี้ และการกำหนดเงื่อนไขในการชำระหนี้ของเจ้าหนี้ ทั้งลดหนี้ ยืดหนี้ ส่วนผู้ถือหุ้น อาจจะเป็นการลดทุน ซึ่งอยู่ในกระบวนการเจรจาให้มีความสมบูรณ์เพื่อนำไปประกอบการจัดทำแผนฟื้นฟู ซึ่งคาดว่าจะสรุปและยื่นแผนฟื้นฟูฯ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ใน วันที่ 2 ก.พ.64 โดยในสัปดาห์หน้า บริษัทฯจะ ยื่นศาลเพื่อขอขยายเวลาออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมกำหนดจะยื่นแผนฯ วันที่ 2 ม.ค.64 และคาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือน ในการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนฟื้นฟู ในช่วงกลาง หรือปลายเดือน มี.ค. 64 และศาลล้มละลายกลางประชุมเพื่อรับแผนใน เม.ย.-พ.ค. 64 จากนั้นจะเข้าสู่การปฏิบัติตามแผนฟื้นฟู ซึ่งตามกฎหมาย มีระยะเวลาในการดำเนินการตามแผน 5 ปี และขยายได้ไม่เกิน 2 ครั้งๆละ 1 ปี หรือรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 7 ปี
“ในระหว่างทำแผนฟื้นฟู บริษัทได้ทำแผนด้านธุรกิจอื่นๆควบคู่ไปด้วย ทั้งแผนการบิน ปรับโครงสร้างองค์กร และพยายามหารายได้จากธุรกิจอื่นในช่วงที่ไม่สามารถทำการบินได้ตามปกติ ก็พยายามดิ้นรนทุกวิถีทาง ซึ่งการประมาณการรายได้ต่างๆ ทำค่อนข้างยาก เนื่องจากมีปัจจัยโควิด-19 ระลอกใหม่ และเชื่อว่าบริษัท จะสามารถปรับตัวได้ และคาดว่าในไตรมาส 3-4/ 64 วัคซีนจะเข้ามา ซึ่งบริษัทฯ พร้อมทำหน้าที่ในการขนส่งวัคซีน” นายชาญศิลป์ ระบุ
นายชาญศิลป์ ยังได้กล่าวถึงบริษัทในเครือ เช่น ไทยสมายล์, บริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสต์เอเชีย จำกัด, บริษัท ครัวการบินภูเก็ต จำกัด, บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด และบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ด้วยว่า จะมีหน่วยแผนกลยุทธ์องค์กร พิจารณาการดำเนินธุรกิจ ว่าจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในรูปแบบอย่างไร หรือจะมีการร่วมมือกันอย่างไร ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์
ด้าน นายนนท์ กลินทะ รักษาการ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์การบิน กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้า ในปี 68 จะลดค่าใช้จ่ายลง 35% คาดว่ารายได้จะฟื้นขึ้นมาที่ประมาณ 1.25 แสนล้าน แต่ยังต่ำกว่าช่วงปี 62 ประมาณ 29% ขณะที่จะมีการปรับลดฝูงบินอย่างต่อเนื่องเหลือสูงสุด 75 ลำ หรือลดฝูงบินลงจากปัจจุบัน 26% และจะทำการบินประมาณ 75-80 เมือง โดยคาดว่ามีกำไร 140%
“สำหรับแผนการบินในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.64 การบินไทย จะทำการบินไปยัง 10 เมืองหลัก 18 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ได้แก่ ลอนดอน, แฟรงก์เฟิร์ต, โคเปนเฮเกน, โตเกียว, โอซากะ, โซล, ฮ่องกง, ไทเป, มะนิลา และซิดนีย์” นายนนท์ กล่าว
ขณะที่ นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่หน่วยธุรกิจบริการการบิน กล่าวว่า ในช่วงโควิด การบินหยุดชะงักบ้าง แต่หน่วยธุรกิจ ทั้ง บริการลูกค้าภาคพื้น, บริษัทอุปกรณ์ภาคพื้น ฝ่ายครัวการบิน ฝ่ายการพาณิชย์และไปรษณีย์ภัณฑ์ ยังคงช่วยขับเคลื่อน โดยการขนส่งสินค้า (คาร์โก้) ที่เคยมีรายได้ประมาณ 30% ของรายได้ผู้โดยสารในปี 63 ขนส่งปริมาณ 160,000 ตัน หรือเฉลี่ย 6,000 ตัน ต่อเดือน เป็นไปตามระวางขนส่งที่จำกัด โดยทำการบินคาร์โก้ไปยัง 17 เมือง ซึ่งรายได้รวมของหน่วยธุรกิจช่วงม.ค.-มี.ค. 63 ก่อนโควิด มีจำนวน 8,675 ล้านบาท คาดช่วง เม.ย.-ธ.ค.63 ที่ 5,204 ล้านบาทรวมทั้งปี จำนวน 13,879 ล้านบาท
ส่วน นายเชิดพันธ์ โชติคุณ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่าง กล่าวว่า เป้าหมายบริษัท จะลดต้นทุน 30% ดังนั้น ฝ่ายช่างต้องลดลง 30% ซึ่งจะมีการปรับโครงสร้าง ปรับกระบวนการทำงานให้กระชับ และนำจุดแข็งมาสร้างรายได้ เช่น ศูนย์ซ่อม MRO และทำสัญญาด้านซ่อมบำรุงประมาณ 30% กรณีใช้อะไหล่ของผู้ผลิต ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา