ผู้จัดการรายวัน360- "ไพบูลย์"มีเสียวศาลรธน.รับวินิจฉัยสถานะส.ส. ปมเป็น ส.ส.พปชร. หลังยุบพรรคประชาชนปฏิรูป ขณะที่"เทพไท" ระทึก ศาลรธน.นัดชี้ชะตา 27 ม.ค. 64 หลุด ส.ส.หรือไม่ จากกรณีต้องคำพิพากษาจำคุก-ถูกเพิกถอนสิทธิ 10 ปี เหตุร่วมทุจริตเลือกตั้งนายกอบจ. เมืองคอน ปี 57
วานนี้ ( 23 ธ.ค.) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของส.ส. 60 คน ขอให้วินิจฉัยตามรธน.มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพส.ส.ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดลงตามรธน. มาตรา 101(10) ประกอบ มาตรา 90 และ มาตรา 91 วรรคหนึ่ง ( 5) หรือไม่ จากกรณีนายไพบูลย์ เป็นหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป และเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคดังกล่าว แล้วไปสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังจากพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 91 วรรคหนึ่ง ( 7) โดยที่นายไพบูลย์ ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปอยู่ จนกว่าการชำระบัญชีจะแล้วเสร็จ และไม่ได้เป็นผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ยื่นต่อกกต. ก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง ไว้พิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้อง และเอกสารประกอบคำร้อง เป็นไปตาม มาตรา 82 วรรคหนึ่ง ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรธน. 2561 มาตรา 7 (5) โดยให้ นายไพบูลย์ ผู้ถูกกล่าวหา ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากลับมายังศาลรธน.ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
อย่างไรก็ตาม ศาลฯไม่ได้มีคำสั่งให้นายไพบูลย์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.โดยให้เหตุผลว่าข้อเท็จจริงตามคำร้อง ยังไม่ปรากฏเหตุอันควรสงสัยที่จะต้องมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.
วันเดียวกันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในคดีที่ กกต.ขอให้ศาลฯ วินิจฉัยตามรธน.มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายเทพไท เสนพงศ์ สิ้นสุดลงตามรธน.มาตรา 101( 6) ประกอบ มาตรา 98 (4) มาตรา 96(2) หรือไม่ จากเหตุศาล จ.นครศรีธรรมราช มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา เนื่องจากร่วมกระทำผิดทุจริตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี 57 โดยเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน และกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือลงมติ ในวันพุธที่ 27 ม.ค. 64 เวลา 09.30 น. และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังเวลา15.00 น.
วานนี้ ( 23 ธ.ค.) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของส.ส. 60 คน ขอให้วินิจฉัยตามรธน.มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพส.ส.ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดลงตามรธน. มาตรา 101(10) ประกอบ มาตรา 90 และ มาตรา 91 วรรคหนึ่ง ( 5) หรือไม่ จากกรณีนายไพบูลย์ เป็นหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป และเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคดังกล่าว แล้วไปสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังจากพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 91 วรรคหนึ่ง ( 7) โดยที่นายไพบูลย์ ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปอยู่ จนกว่าการชำระบัญชีจะแล้วเสร็จ และไม่ได้เป็นผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ยื่นต่อกกต. ก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง ไว้พิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้อง และเอกสารประกอบคำร้อง เป็นไปตาม มาตรา 82 วรรคหนึ่ง ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรธน. 2561 มาตรา 7 (5) โดยให้ นายไพบูลย์ ผู้ถูกกล่าวหา ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากลับมายังศาลรธน.ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
อย่างไรก็ตาม ศาลฯไม่ได้มีคำสั่งให้นายไพบูลย์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.โดยให้เหตุผลว่าข้อเท็จจริงตามคำร้อง ยังไม่ปรากฏเหตุอันควรสงสัยที่จะต้องมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.
วันเดียวกันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในคดีที่ กกต.ขอให้ศาลฯ วินิจฉัยตามรธน.มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายเทพไท เสนพงศ์ สิ้นสุดลงตามรธน.มาตรา 101( 6) ประกอบ มาตรา 98 (4) มาตรา 96(2) หรือไม่ จากเหตุศาล จ.นครศรีธรรมราช มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา เนื่องจากร่วมกระทำผิดทุจริตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี 57 โดยเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน และกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือลงมติ ในวันพุธที่ 27 ม.ค. 64 เวลา 09.30 น. และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังเวลา15.00 น.
