ส.ส.พปชร. ลั่นทำตามกฎหมาย ไม่หวั่นถูกยื่นศาลสอบคุณสมบัติปมยุบพรรค ซบ พปชร. เทียบลักษณะเดียวกันกับยุบ อนค.ไปก้าวไกล
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของ ส.ส.จำนวน 60 คน ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่นั้น ว่า ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะตั้งแต่ต้นได้ดำเนินการตรวจสอบตามข้อกฎหมาย รวมถึงต้องผ่านขั้นตอนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างละเอียดครบถ้วน รวมถึงดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 91(7) ซึ่งมีวรรคท้ายเขียนไว้ เพื่อเป็นประโยชน์คุ้มครองสมาชิกที่เป็น ส.ส. ที่สิ้นสภาพพรรค ให้เป็นการยุบพรรค
“เมื่อยุบพรรคก็ไปเข้ารัฐธรรมนูญ มาตรา 101(10) ตามที่ผู้ร้องยื่น เช่นเดียวกับพรรคอนาคตใหม่ถูกสั่งยุบ แล้วตั้งพรรคก้าวไกลตรงนี้เป็นลักษณะเดียวกัน เพราะถ้าไม่สมัครสมาชิกพรรคอื่นภายใน 60 วัน ก็สิ้นสุดสมาชิกภาพ ซึ่งขอยืนยันว่า การไปสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นเรื่องถูกต้อง โดยต้องยื่นเรื่องผ่าน กกต. แล้วก็ทำหนังสือรับรองส่งไปให้สภา ซึ่งสภาก็ประกาศเป็นสมาชิกเรียบร้อย ดังนั้น ถือว่าครบถ้วนตามกระบวนการข้อกฎหมาย” นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับความแตกต่างระหว่างศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “ยุบพรรค” กับการ “ยุบพรรคตัวเอง” ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญปี 50 จะต้องไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค แม้จะเลิกก็ต้องยุบและย้ายได้ แต่รัฐธรรมนูญปี 60 ไม่ต้องไปศาล เพราะกฎหมายได้เติมวรรคท้ายเอาไว้ ซึ่งตรงนี้เป็นไปตามข้อกฎหมายและทั้งหมดก็อยู่ที่ศาลพิจารณาตามข้อกฎหมาย ส่วนตัวไม่มีปัญหาอะไร