“กองปราบปราม” ส่งหมายเรียก “อดีต จนท.สำนักงานทรัพย์สินฯ-นายหน้า” คดีปลอมเอกสาร-รับสินบนเช่าที่ดินชิดลมของ สนง.ทรัพย์สินฯ ให้ถ้อยคำสำนวนที่ 2 ตามหา “ผู้ให้สินบน” นัดวันนี้ (18 ธ.ค.) แต่ยังตามหาตัวทั้ง 2 รายไม่เจอ ส่งชุดสืบฯลงพื้นที่
จากกรณีพนักงานสอบสวนกองปราบปราม (บก.ป.) เตรียมขยายผลการตรวจสอบการทุจริตในการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในสำนวนที่ 2 ในประเด็นของ “ผู้ให้สินบน” แก่อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ซึ่งตามคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ระบุว่า อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ รายนี้รับเงินจาก นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด รวม 3 ครั้ง เป็นเงิน 20 ล้านบาทนั้น
แหล่งข่าวระดับสูงจาก บก.ป. เปิดเผยว่าภายหลัง นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ และ นายสุรกิจ ตั้งวิทูวณิช ตัวกลางผู้ประสานงาน 2 จำเลย ในคดีปลอมเอกสารและรับสินบนในสำนวนแรก พ้นโทษออกมาแล้วตั้ง แต่ต้นเดือนธ.ค.63 นั้น พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. มอบหมายให้ พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน รอง ผบก.ป.และ พ.ต.ท.หญิง บุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ สารวัตรสอบสวน กก.1 บก.ป. เป็นผู้รับผิดชอบดูแลสำนวนคดีดังกล่าว การดำเนินงานขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างทยอยเรียกสอบปากคำพยานบุคคล และผู้ที่เกี่ยวข้องทางคดี
ขณะที่พนักงานสอบสวน บก.ป. ออกหมายเรียกนายประสิทธิ์ และนายสุรกิจ มาให้ปากคำในฐานะพยาน โดยมีกำหนดนัดพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกใน เวลา 09.00 น. ของวันที่ 18 ธ.ค.63 นั้น
แหล่งข่าว ระบุว่า แม้จะมีการส่งหมายเรียกไปตามที่อยู่ของนายประสิทธิ์ และนายสุรกิจ หลายวันแล้วก็ตาม แต่จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวน บก.ป. ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทั้ง 2 ราย แต่อย่างใด อีกทั้งเมื่อส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปบ้านพักของทั้ง 2 รายที่แจ้งไว้ในทะเบียนราษฎร์ ไม่พบทั้ง 2 ราย อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จึงไม่สามารถบอกได้ว่าใน วันที่18 ธ.ค. ทั้ง 2 รายจะให้ความร่วมมือเข้าพบพนักงานสอบสวนตามกำหนดนัดหมายหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 หากยังไม่ยอมมาพบตัวอีก อาจมีการพิจารณาเกี่ยวกับการออกหมายจับ ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ออกแถลงการณ์เป็นเอกสารข่าว ชี้แจงกรณีนี้ 3 หน้ากระดาษ โดยยืนยันความบริสุทธิ์ และตนเองตกเป็นผู้เสียหาย เพิ่งมาทราบทีหลังว่าเป็นเอกสารปลอม ที่ผ่านมาให้ความร่วมมือกับตำรวจสอบสวนเต็มที่ จนจับผู้กระทำผิดได้ ส่วนการจ่ายเงินนั้น เป็นค่านายหน้าที่มีลักษณะเป็นที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นไปตามมาตรฐานสากลวิชาชีพ
จากกรณีพนักงานสอบสวนกองปราบปราม (บก.ป.) เตรียมขยายผลการตรวจสอบการทุจริตในการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในสำนวนที่ 2 ในประเด็นของ “ผู้ให้สินบน” แก่อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ซึ่งตามคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ระบุว่า อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ รายนี้รับเงินจาก นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด รวม 3 ครั้ง เป็นเงิน 20 ล้านบาทนั้น
แหล่งข่าวระดับสูงจาก บก.ป. เปิดเผยว่าภายหลัง นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ และ นายสุรกิจ ตั้งวิทูวณิช ตัวกลางผู้ประสานงาน 2 จำเลย ในคดีปลอมเอกสารและรับสินบนในสำนวนแรก พ้นโทษออกมาแล้วตั้ง แต่ต้นเดือนธ.ค.63 นั้น พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. มอบหมายให้ พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน รอง ผบก.ป.และ พ.ต.ท.หญิง บุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ สารวัตรสอบสวน กก.1 บก.ป. เป็นผู้รับผิดชอบดูแลสำนวนคดีดังกล่าว การดำเนินงานขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างทยอยเรียกสอบปากคำพยานบุคคล และผู้ที่เกี่ยวข้องทางคดี
ขณะที่พนักงานสอบสวน บก.ป. ออกหมายเรียกนายประสิทธิ์ และนายสุรกิจ มาให้ปากคำในฐานะพยาน โดยมีกำหนดนัดพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกใน เวลา 09.00 น. ของวันที่ 18 ธ.ค.63 นั้น
แหล่งข่าว ระบุว่า แม้จะมีการส่งหมายเรียกไปตามที่อยู่ของนายประสิทธิ์ และนายสุรกิจ หลายวันแล้วก็ตาม แต่จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวน บก.ป. ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทั้ง 2 ราย แต่อย่างใด อีกทั้งเมื่อส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปบ้านพักของทั้ง 2 รายที่แจ้งไว้ในทะเบียนราษฎร์ ไม่พบทั้ง 2 ราย อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จึงไม่สามารถบอกได้ว่าใน วันที่18 ธ.ค. ทั้ง 2 รายจะให้ความร่วมมือเข้าพบพนักงานสอบสวนตามกำหนดนัดหมายหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 หากยังไม่ยอมมาพบตัวอีก อาจมีการพิจารณาเกี่ยวกับการออกหมายจับ ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ออกแถลงการณ์เป็นเอกสารข่าว ชี้แจงกรณีนี้ 3 หน้ากระดาษ โดยยืนยันความบริสุทธิ์ และตนเองตกเป็นผู้เสียหาย เพิ่งมาทราบทีหลังว่าเป็นเอกสารปลอม ที่ผ่านมาให้ความร่วมมือกับตำรวจสอบสวนเต็มที่ จนจับผู้กระทำผิดได้ ส่วนการจ่ายเงินนั้น เป็นค่านายหน้าที่มีลักษณะเป็นที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นไปตามมาตรฐานสากลวิชาชีพ
