ผู้จัดการรายวัน360- ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 15 ราย ทั้งหมดเป็นผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ เป็นสาวไทยกลับจากทำงานในแหล่งบันเทิงพม่า 3 รายเผย ระบุ 7 บุคลากรทางการแพทย์ ในสถานกักกันโรค ติดเชื้อ บนลูกบิดประตู นายกฯเตรียมประชุมศบค. กำหนดมาตรการเฝ้าระวังช่วงเทศกาลปีใหม่ "วิษณุ"ย้ำต้องไม่ซ้ำรอย "บิ๊กเมาน์เท่น" ปูด พบคนถือบัตรหัวศูนย์จากท่าขี้เหล็กหาทางข้ามฝั่งเข้าไทยอีกเพียบ ขณะที่เชียงรายจ่อประกาศเป็นพื้นที่ไร้โควิด ยืนยันท่องเที่ยวได้
วานนี้ (16 ธ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) แถลงรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า ประเทศไทยตรวจพบผู้ติดโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 15 ราย
เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ทั้งหมด แยกเป็นผู้เดินทางมาจากประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย ฮ่องกง 1 ราย ฮังการี 1 ราย ฝรั่งเศส 1 ราย สหราชอาณาจักร 2 ราย อินเดีย 2 ราย บาห์เรน 1 ราย อเมริกา 1 ราย เมียนมา 3 ราย และบราซิล 1 ราย ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ มีเพียง 1 ราย ที่มีอาการเจ็บคอ ภาพรวมประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 4,261 ราย หายแล้ว 3,977 ราย เสียชีวิต 60 ราย ยังรักษาตัว 224 ราย
ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนควบคุมโรคที่เกี่ยวข้องกับกรณี จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย. – 16 ธ.ค. เวลา 08.00 น. พบผู้ติดเชื้อจำนวน 67 ราย ในจำนวนนี้เป็นการพบเชื้อหลังเข้าอยู่ในสถานที่กักกันในพื้นที่ (Local State Quarantine: LQ) 48 ราย มีเพียง 2 ราย ที่เป็นการติดเชื้อในประเทศ ส่วนที่เหลืออีก 17 ราย เป็นผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติและเดินทางไปใน 7 จังหวัด
ส่วนกรณีที่พบบุคลากรทางการแพทย์ 7 ราย ติดโควิด-19 จากการปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่กักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ASQ) และการใช้ชีวิตประจำวันร่วมกันนั้น กรมควบคุมโรคได้แสดงความเป็นห่วง เพราะจากการไปดูพื้นที่ปรากฏว่า ในสถานกักกันโรคทางเลือกแห่งนั้น มีเชื้อติดอยู่บนลูกบิดประตู ซึ่งเป็นจุดที่มีการสัมผัสกันมาก กลายเป็นความเสี่ยง จึงกำชับว่าในการทำความสะอาดอย่าลืมลูกบิดประตู หรือจุดเสี่ยงที่เป็นจุดสัมผัสร่วมต่างๆ
นายกฯประชุมศบค. เฝ้าระวังช่วงปีใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยว่า วันนี้ (17ธ.ค.) จะมีการประชุมศูนย์บริการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) หรือ ศบค. เพื่อหารือมาตรการ เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยให้กำหนดพื้นที่เป็นโซนๆ ไม่ใช่ให้คนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก แล้วตรวจสอบอะไรไม่ได้ เราต้องขอความร่วมมือ เพราะทุกครั้งที่มีการจัดงานในพื้นที่ใหญ่มีคนเป็นจำนวนเป็นหมื่น มันอันตรายมาก ให้ใช้วิธีซอยย่อยเป็นพื้นที่ ได้หรือไม่ และให้มีระบบตรวจสอบระบบการคัดกรอง ทุกคนต้องลงทะเบียนในโทรศัพท์ ถ้าทุกคนไม่ยอมอะไรสักอย่าง ก็จะแก้ไขไม่ได้ และถ้าเกิดอะไรขึ้นมา จะตามได้หรือไม่ก็ไม่ได้ ก็ต้องให้ความร่วมมือ ตนไม่ได้ไปทำให้คนเสียหาย ถ้าจะให้ปลอดภัยก็ไม่ต้องจัด จะเอากันหรือไม่ ก็ไม่ได้อีก ในเมื่อสถานการณ์เรายังควบคุมได้ซึ่งทั้งหมดไม่ได้ขึ้นอยู่กับตน ขึ้นอยู่กับ ศบค.และตนเป็นคนตัดสินใจ ทั้งนี้ตนได้ให้แนวทางศบค.ไปทุกครั้งว่า จะทำอย่างไร มีมาตรการอย่างไรและมาร่วมประชุมกับตนอีกครั้ง ตนจะทำแบบนี้พร้อมกับมีแนวคิดใหม่ๆ ว่าจะทำแบบนี้หรือแบบไหนดีหรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เอาอะไรดีกับประชาชนถึงจะทำ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ศบค.ในวันนี้ว่า หลังเกิดกรณีคอนเสิร์ต บิ๊กเมาน์เท่น ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา หรือที่ จ.เชียงราย รวมถึงจะมีชาวต่างประเทศเข้ามา ทำให้เราต้องเตรียมตัวรับสถานการณ์ใหม่ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะต้องเข้มขึ้น หรือผ่อนลง
อย่างไรก็ตาม กรณีคอนเสิร์ต บิ๊กเมาน์เท่น ที่เกิดการรวมตัวกันของคนกว่า 5 หมื่นคน หนักกว่ากรณีสนามมวยลุมพินี สิบเท่า หากเกิดขึ้นอีกจะทำอย่างไร ทั้งที่มีการห้ามปรามแล้วก็ยังเกิดขึ้น และต่อไปอาจจะเกิดกรณีเช่นนี้อีกได้ เช่น ในช่วงการเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ที่อาจจะมีประชาชนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากมีมาตรการรองรับ ก็จัดได้ ส่วนการสวดมนต์ข้ามปีตามวัดต่างๆ เป็นการรวมตัวกันเพียง 500-1,000 คน ไม่เป็นอะไร เพราะเว้นระยะห่างได้ และเวลาสวดมนต์ สามารถสวมหน้ากากได้ ไม่เหมือนกับคอนเสิร์ตที่ตะโกน กรี๊ดลั่น เป่าปาก กระชากหน้ากาก ดังนั้น ในการประชุม ศบค.จะมีการหารือเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย เราจะป้องกันอย่างดีที่สุด แต่ไม่ถึงขั้นห้ามปราม
ตร.แจ้งจับสาว1G1ติดโควิดฯ ลอบเข้าเมืองอีก
พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตม.จว.เชียงราย กล่าวว่า เปิดให้คนไทยตกค้างกลับผ่านด่านฯสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เท่านั้น โดยคนไทยที่ยังตกค้างอยู่สามารถแจ้งความประสงค์ขอกลับผ่านเจ้าหน้าที่คณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือทางออนไลน์ ของกระทรวงการต่างประเทศ
ส่วนผู้ลักลอบเข้ามาตามช่องทางอื่น และติดไวรัสโควิด-19 ก็ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ไปแล้ว 11 ราย ในข้อหาไม่ได้เดินทางเข้ามาตามช่องทางตามที่กม.กำหนด ฝ่าฝืนคำสั่งตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด (จ.เชียงราย)
สำหรับหญิงสาวทุกคนที่ถูกแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว ล้วนทำงานในสถานบันเทิง โรงแรม 1G1 จ.ท่าขี้เหล็ก โดยล่าสุดมีรายงานว่าทาง ตม.จว.เชียงราย ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อหญิงสาวที่ จ.พิจิตร เพิ่มเติมอีก 1 ราย รวมเป็นทั้งหมด 12 รายแล้ว
เชียงรายจ่อประกาศเป็นพื้นที่ไร้โควิด ยืนยันท่องเที่ยวได้
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย กล่าวภายหลังการประชุมประชุมร่วมหัวหน้าส่วนราชการและคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย เพื่อกำหนดทิศทางการปฏิบัติงานและวางมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ภายในอีก 1-2 วันนี้ ทางกรมควบคุมโรคก็เตรียมจะประกาศให้ จ.เชียงราย ปลอดภัยจากโควิด-19 แล้ว เนื่องจากตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อภายในนาน 7-14 วัน และในวันที่ 17 ธ.ค.จะมีการปล่อยผู้ถูกกักกันกลับบ้านได้ในลอตใหญ่อีกกว่า 20 คน เนื่องจากตรวจสอบแล้วไม่พบมีการติดเชื้อ ยืนยันว่าเชียงรายมีความปลอดภัยและปลอดเชื้อ สามารถมาท่องเที่ยวได้
พบคนถือบัตรหัวศูนย์ในพม่าจ่อหนีเข้าไทยเพียบ
เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ที่ประจำการ ณ ด่านพรมแดนไทย-เมียนมา สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่า ตั้งแต่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมามีคนไทยตกค้างเดินทางกลับมาเพียง 7 ราย จากจำนวนผู้แจ้งความประสงค์รวม 19 คน เนื่องจากกลุ่มที่เหลือลักลอบหนีเข้าเมืองท่าขี้เหล็ก เจ้าหน้าที่ต้องส่งตัวขึ้นศาลท่าขี้เหล็กเพื่อทำการเปรียบเทียบปรับรายละประมาณ 2,300 บาท ก่อนที่จะส่งข้ามด่านฯ
อย่างไรก็ตาม นอกจากผู้มีสัญชาติไทยจะพากันเดินทางกลับมาแล้ว ยังมีผู้ที่ถือบัตรประจำตัวประชาชนไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบัตรหัวศูนย์ บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ฯลฯ ซึ่งออกโดยฝ่ายปกครองของราชการไทย ก็พยายามหาทางข้ามฝั่งเข้าไทยอีกจำนวนมากด้วย
วานนี้ (16 ธ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) แถลงรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า ประเทศไทยตรวจพบผู้ติดโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 15 ราย
เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ทั้งหมด แยกเป็นผู้เดินทางมาจากประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย ฮ่องกง 1 ราย ฮังการี 1 ราย ฝรั่งเศส 1 ราย สหราชอาณาจักร 2 ราย อินเดีย 2 ราย บาห์เรน 1 ราย อเมริกา 1 ราย เมียนมา 3 ราย และบราซิล 1 ราย ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ มีเพียง 1 ราย ที่มีอาการเจ็บคอ ภาพรวมประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 4,261 ราย หายแล้ว 3,977 ราย เสียชีวิต 60 ราย ยังรักษาตัว 224 ราย
ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนควบคุมโรคที่เกี่ยวข้องกับกรณี จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย. – 16 ธ.ค. เวลา 08.00 น. พบผู้ติดเชื้อจำนวน 67 ราย ในจำนวนนี้เป็นการพบเชื้อหลังเข้าอยู่ในสถานที่กักกันในพื้นที่ (Local State Quarantine: LQ) 48 ราย มีเพียง 2 ราย ที่เป็นการติดเชื้อในประเทศ ส่วนที่เหลืออีก 17 ราย เป็นผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติและเดินทางไปใน 7 จังหวัด
ส่วนกรณีที่พบบุคลากรทางการแพทย์ 7 ราย ติดโควิด-19 จากการปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่กักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ASQ) และการใช้ชีวิตประจำวันร่วมกันนั้น กรมควบคุมโรคได้แสดงความเป็นห่วง เพราะจากการไปดูพื้นที่ปรากฏว่า ในสถานกักกันโรคทางเลือกแห่งนั้น มีเชื้อติดอยู่บนลูกบิดประตู ซึ่งเป็นจุดที่มีการสัมผัสกันมาก กลายเป็นความเสี่ยง จึงกำชับว่าในการทำความสะอาดอย่าลืมลูกบิดประตู หรือจุดเสี่ยงที่เป็นจุดสัมผัสร่วมต่างๆ
นายกฯประชุมศบค. เฝ้าระวังช่วงปีใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยว่า วันนี้ (17ธ.ค.) จะมีการประชุมศูนย์บริการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) หรือ ศบค. เพื่อหารือมาตรการ เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยให้กำหนดพื้นที่เป็นโซนๆ ไม่ใช่ให้คนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก แล้วตรวจสอบอะไรไม่ได้ เราต้องขอความร่วมมือ เพราะทุกครั้งที่มีการจัดงานในพื้นที่ใหญ่มีคนเป็นจำนวนเป็นหมื่น มันอันตรายมาก ให้ใช้วิธีซอยย่อยเป็นพื้นที่ ได้หรือไม่ และให้มีระบบตรวจสอบระบบการคัดกรอง ทุกคนต้องลงทะเบียนในโทรศัพท์ ถ้าทุกคนไม่ยอมอะไรสักอย่าง ก็จะแก้ไขไม่ได้ และถ้าเกิดอะไรขึ้นมา จะตามได้หรือไม่ก็ไม่ได้ ก็ต้องให้ความร่วมมือ ตนไม่ได้ไปทำให้คนเสียหาย ถ้าจะให้ปลอดภัยก็ไม่ต้องจัด จะเอากันหรือไม่ ก็ไม่ได้อีก ในเมื่อสถานการณ์เรายังควบคุมได้ซึ่งทั้งหมดไม่ได้ขึ้นอยู่กับตน ขึ้นอยู่กับ ศบค.และตนเป็นคนตัดสินใจ ทั้งนี้ตนได้ให้แนวทางศบค.ไปทุกครั้งว่า จะทำอย่างไร มีมาตรการอย่างไรและมาร่วมประชุมกับตนอีกครั้ง ตนจะทำแบบนี้พร้อมกับมีแนวคิดใหม่ๆ ว่าจะทำแบบนี้หรือแบบไหนดีหรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เอาอะไรดีกับประชาชนถึงจะทำ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ศบค.ในวันนี้ว่า หลังเกิดกรณีคอนเสิร์ต บิ๊กเมาน์เท่น ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา หรือที่ จ.เชียงราย รวมถึงจะมีชาวต่างประเทศเข้ามา ทำให้เราต้องเตรียมตัวรับสถานการณ์ใหม่ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะต้องเข้มขึ้น หรือผ่อนลง
อย่างไรก็ตาม กรณีคอนเสิร์ต บิ๊กเมาน์เท่น ที่เกิดการรวมตัวกันของคนกว่า 5 หมื่นคน หนักกว่ากรณีสนามมวยลุมพินี สิบเท่า หากเกิดขึ้นอีกจะทำอย่างไร ทั้งที่มีการห้ามปรามแล้วก็ยังเกิดขึ้น และต่อไปอาจจะเกิดกรณีเช่นนี้อีกได้ เช่น ในช่วงการเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ที่อาจจะมีประชาชนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากมีมาตรการรองรับ ก็จัดได้ ส่วนการสวดมนต์ข้ามปีตามวัดต่างๆ เป็นการรวมตัวกันเพียง 500-1,000 คน ไม่เป็นอะไร เพราะเว้นระยะห่างได้ และเวลาสวดมนต์ สามารถสวมหน้ากากได้ ไม่เหมือนกับคอนเสิร์ตที่ตะโกน กรี๊ดลั่น เป่าปาก กระชากหน้ากาก ดังนั้น ในการประชุม ศบค.จะมีการหารือเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย เราจะป้องกันอย่างดีที่สุด แต่ไม่ถึงขั้นห้ามปราม
ตร.แจ้งจับสาว1G1ติดโควิดฯ ลอบเข้าเมืองอีก
พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตม.จว.เชียงราย กล่าวว่า เปิดให้คนไทยตกค้างกลับผ่านด่านฯสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เท่านั้น โดยคนไทยที่ยังตกค้างอยู่สามารถแจ้งความประสงค์ขอกลับผ่านเจ้าหน้าที่คณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือทางออนไลน์ ของกระทรวงการต่างประเทศ
ส่วนผู้ลักลอบเข้ามาตามช่องทางอื่น และติดไวรัสโควิด-19 ก็ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ไปแล้ว 11 ราย ในข้อหาไม่ได้เดินทางเข้ามาตามช่องทางตามที่กม.กำหนด ฝ่าฝืนคำสั่งตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด (จ.เชียงราย)
สำหรับหญิงสาวทุกคนที่ถูกแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว ล้วนทำงานในสถานบันเทิง โรงแรม 1G1 จ.ท่าขี้เหล็ก โดยล่าสุดมีรายงานว่าทาง ตม.จว.เชียงราย ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อหญิงสาวที่ จ.พิจิตร เพิ่มเติมอีก 1 ราย รวมเป็นทั้งหมด 12 รายแล้ว
เชียงรายจ่อประกาศเป็นพื้นที่ไร้โควิด ยืนยันท่องเที่ยวได้
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย กล่าวภายหลังการประชุมประชุมร่วมหัวหน้าส่วนราชการและคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย เพื่อกำหนดทิศทางการปฏิบัติงานและวางมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ภายในอีก 1-2 วันนี้ ทางกรมควบคุมโรคก็เตรียมจะประกาศให้ จ.เชียงราย ปลอดภัยจากโควิด-19 แล้ว เนื่องจากตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อภายในนาน 7-14 วัน และในวันที่ 17 ธ.ค.จะมีการปล่อยผู้ถูกกักกันกลับบ้านได้ในลอตใหญ่อีกกว่า 20 คน เนื่องจากตรวจสอบแล้วไม่พบมีการติดเชื้อ ยืนยันว่าเชียงรายมีความปลอดภัยและปลอดเชื้อ สามารถมาท่องเที่ยวได้
พบคนถือบัตรหัวศูนย์ในพม่าจ่อหนีเข้าไทยเพียบ
เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ที่ประจำการ ณ ด่านพรมแดนไทย-เมียนมา สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่า ตั้งแต่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมามีคนไทยตกค้างเดินทางกลับมาเพียง 7 ราย จากจำนวนผู้แจ้งความประสงค์รวม 19 คน เนื่องจากกลุ่มที่เหลือลักลอบหนีเข้าเมืองท่าขี้เหล็ก เจ้าหน้าที่ต้องส่งตัวขึ้นศาลท่าขี้เหล็กเพื่อทำการเปรียบเทียบปรับรายละประมาณ 2,300 บาท ก่อนที่จะส่งข้ามด่านฯ
อย่างไรก็ตาม นอกจากผู้มีสัญชาติไทยจะพากันเดินทางกลับมาแล้ว ยังมีผู้ที่ถือบัตรประจำตัวประชาชนไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบัตรหัวศูนย์ บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ฯลฯ ซึ่งออกโดยฝ่ายปกครองของราชการไทย ก็พยายามหาทางข้ามฝั่งเข้าไทยอีกจำนวนมากด้วย