จรวดต้นแบบ “Starship SN8” ของบริษัท สเปซเอ็กซ์ เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงระหว่างพยายามกลับมาลงจอดที่ฐานยิงในเมืองโบคาชิคา รัฐเทกซัส เมื่อวันพุธ (9 ธ.ค.) “อีลอน มัสก์” ยังโวประสบความสำเร็จ
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการทดลองจรวดสตาร์ชิป ซึ่งมีความสูงเทียบเท่าตึก 16 ชั้น เป็นยานขนส่งต้นแบบขนาดใหญ่ที่ถูกพัฒนาขึ้น โดยบริษัท สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) บริษัทด้านอวกาศเอกชนที่มหาเศรษฐี “อีลอน มัสก์” เป็นซีอีโอ โดยมีเป้าหมายในการขนส่งมนุษย์และสิ่งของน้ำหนัก 100 ตันขึ้นไปปฏิบัติภารกิจสำรวจดวงจันทร์ และดาวอังคารในอนาคต
อย่างไรก็ตามได้จรวดเกิดอุบัติเหตุระเบิดขณะกำลังพยายามลงจอดที่สถานีทดลองของทางบริษัทที่เมืองโบคา ชิก้า รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
โดยสเปซเอ็กซ์ได้นำเครื่องยนต์แรปเตอร์รุ่นใหม่ 3 ตัวมาใช้กับจรวดแบบนำวิถีด้วยตัวเอง (self-guided) รุ่นนี้เป็นครั้งแรก และกำหนดเป้าหมายให้จรวดพุ่งทะยานขึ้นไปถึงระดับความสูง 41,000 ฟุต ซึ่งยังไม่มีคำยืนยันจากบริษัทว่าทำได้สำเร็จตามที่คาดหวังหรือไม่
ขณะเกิดเหตุทีมทดสอบได้พยายามบังคับยานสตาร์ชิปให้กลับมาลงจอดที่ฐานยิง แต่ปรากฏว่าจรวดกระแทกพื้นอย่างแรงจนระเบิดไฟลุกท่วม
หลังเกิดเหตุ มัสก์โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์อธิบายว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการที่ความดันของถังเชื้อเพลิงอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ความเร็วขณะลงจอดเร็วขึ้น และเกิดการระเบิด อย่างไรก็ตาม มัสก์ยืนยันว่าทางสเปซเอ็กซ์ได้ข้อมูลที่เพียงพอแล้ว พร้อมระบุด้วยว่า การทดลอง “ประสบความสำเร็จ”
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เดิมทีสเปซเอ็กซ์ได้เตรียมยิงทดสอบจรวดสตาร์ชิปครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. แต่เครื่องยนต์แรปเตอร์เกิดขัดข้อง จึงทำให้การทดสอบถูกระงับโดยอัตโนมัติเพียง 1 วินาที ก่อนที่จรวดจะพุ่งออกจากฐานยิง
สำหรับโครงการสตาร์ชิปของสเปซเอ็กซ์นั้น องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ได้สนับสนุนงบประมาณ 135 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งยังสนับสนุนโครงการพัฒนายานขนส่งอวกาศคู่แข่งจากค่ายบลูออริจินของ “เจฟฟ์ เบซอส” เจ้าพ่อแอมะซอน และไดเนติกส์ (Dynetics) ด้วย
ทั้ง 3 บริษัทต่างมุ่งหวังที่จะคว้าสัญญาสร้างยานสำรวจดวงจันทร์ให้แก่โครงการอาร์ทีมิส (Artemis) ของนาซา ซึ่งตั้งเป้าส่งมนุษย์ขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์อีกครั้งภายใน 1 ทศวรรษ
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการทดลองจรวดสตาร์ชิป ซึ่งมีความสูงเทียบเท่าตึก 16 ชั้น เป็นยานขนส่งต้นแบบขนาดใหญ่ที่ถูกพัฒนาขึ้น โดยบริษัท สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) บริษัทด้านอวกาศเอกชนที่มหาเศรษฐี “อีลอน มัสก์” เป็นซีอีโอ โดยมีเป้าหมายในการขนส่งมนุษย์และสิ่งของน้ำหนัก 100 ตันขึ้นไปปฏิบัติภารกิจสำรวจดวงจันทร์ และดาวอังคารในอนาคต
อย่างไรก็ตามได้จรวดเกิดอุบัติเหตุระเบิดขณะกำลังพยายามลงจอดที่สถานีทดลองของทางบริษัทที่เมืองโบคา ชิก้า รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
โดยสเปซเอ็กซ์ได้นำเครื่องยนต์แรปเตอร์รุ่นใหม่ 3 ตัวมาใช้กับจรวดแบบนำวิถีด้วยตัวเอง (self-guided) รุ่นนี้เป็นครั้งแรก และกำหนดเป้าหมายให้จรวดพุ่งทะยานขึ้นไปถึงระดับความสูง 41,000 ฟุต ซึ่งยังไม่มีคำยืนยันจากบริษัทว่าทำได้สำเร็จตามที่คาดหวังหรือไม่
ขณะเกิดเหตุทีมทดสอบได้พยายามบังคับยานสตาร์ชิปให้กลับมาลงจอดที่ฐานยิง แต่ปรากฏว่าจรวดกระแทกพื้นอย่างแรงจนระเบิดไฟลุกท่วม
หลังเกิดเหตุ มัสก์โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์อธิบายว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการที่ความดันของถังเชื้อเพลิงอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ความเร็วขณะลงจอดเร็วขึ้น และเกิดการระเบิด อย่างไรก็ตาม มัสก์ยืนยันว่าทางสเปซเอ็กซ์ได้ข้อมูลที่เพียงพอแล้ว พร้อมระบุด้วยว่า การทดลอง “ประสบความสำเร็จ”
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เดิมทีสเปซเอ็กซ์ได้เตรียมยิงทดสอบจรวดสตาร์ชิปครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. แต่เครื่องยนต์แรปเตอร์เกิดขัดข้อง จึงทำให้การทดสอบถูกระงับโดยอัตโนมัติเพียง 1 วินาที ก่อนที่จรวดจะพุ่งออกจากฐานยิง
สำหรับโครงการสตาร์ชิปของสเปซเอ็กซ์นั้น องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ได้สนับสนุนงบประมาณ 135 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งยังสนับสนุนโครงการพัฒนายานขนส่งอวกาศคู่แข่งจากค่ายบลูออริจินของ “เจฟฟ์ เบซอส” เจ้าพ่อแอมะซอน และไดเนติกส์ (Dynetics) ด้วย
ทั้ง 3 บริษัทต่างมุ่งหวังที่จะคว้าสัญญาสร้างยานสำรวจดวงจันทร์ให้แก่โครงการอาร์ทีมิส (Artemis) ของนาซา ซึ่งตั้งเป้าส่งมนุษย์ขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์อีกครั้งภายใน 1 ทศวรรษ