ผู้จัดการรายวัน360-“บิ๊กตู่”นำคณะลงใต้ ให้กำลังใจชาวนครศรีธรรมราชที่ถูกน้ำท่วม เผยนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงทรงพระราชทานถุงยังชีพมาช่วยเหลือ พร้อมรับสั่งว่าหากไม่เพียงพอ ก็พร้อมมอบให้อีก ย้ำเป็นคนไทยต้องรัก 3 สถาบันหลักของชาติ โชว์หวาน ป้อนอาหาร “เทพไท” ขอให้ช่วยกันในสภาฯ ด้าน ปภ.สรุปน้ำท่วมใต้ 11 จังหวัด ประชาชนเดือนร้อนกว่า 5 แสนครัวเรือน เสียชีวิต 24 ราย ล่าสุดยังเหลือท่วมอีกแค่ 5 จังหวัด
วานนี้ (7 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ ลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจสถานการณ์ และเยี่ยมเยียนประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม โดยมีนายไกรศร วิศิษฎร์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางด้วยรถรถยนต์ทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เลขทะเบียน 1 นข 2940 กรุงเทพมหานคร โดยระหว่างทางนายกฯ ได้หยุดรถทักทายและสอบถามประชาชนผู้ประสบอุทกภัยบริเวณข้างทาง ก่อนจะเดินทางถึงศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประชาชนมาร่วมต้อนรับ โดยนายกฯ ได้ตรวจเยี่ยมโรงครัวพระราชทาน ก่อนร่วมปรุงอาหาร เพื่อแจกจ่ายประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลมาเยี่ยมให้กำลังใจ และที่มาช้า เพราะต้องการข้อมูลจากข้างล่างว่ามีปัญหาตรงไหน โดยต้องแก้เชิงระบบ เชิงโครงสร้าง เท่าที่ทราบมีผู้ได้รับผลกระทบเยอะมาก มีผู้เสียชีวิต รัฐบาลขอแสดงความเสียใจกับทุกคน ยืนยันรัฐบาลจะดูแลให้ได้มากที่สุด
สำหรับการช่วยเหลือระยะแรก จะมีการแจกถุงยังชีพ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานถุงยังชีพจำนวน 10,000 ถุง และยังทรงรับสั่งว่าหากไม่เพียงพอ ก็พร้อมมอบให้อีก นี่คือสถาบันพระมหากษัตริย์ พระองค์ท่านทรงทำหลายอย่าง และทรงพระราชทานความช่วยเหลือ ดังนั้น ทุกอย่างต้องแก้เป็นระยะๆ ต่อไปรัฐบาลก็ทบทวนโครงการที่ลงมายัง จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง ตนอยากขออย่างเดียวขอประชาชนช่วยมีส่วนร่วมในการทำประชาพิจารณ์ เพราะเจอปัญหาหลายพื้นที่ที่ยังมีปัญหาอยู่ เพราะไม่ผ่านประชาพิจารณ์ ตนให้นโยบายไปแล้วขอให้ทุกคนช่วยกัน ไม่เช่นนั้นแก้ไม่ได้ ทำอย่างไรให้สอดประสาน เกิดการบูรณาการ เรื่องถนนขวางทางน้ำ ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมมาดู ทั้งหมดต้องทำเป็นระบบ ประชาชนต้องให้ความร่วมมือด้วย
“สิ่งสำคัญที่สุด ประเทศชาติของเราอยู่ด้วย 1.ชาติ 2.ศาสนา 3.สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทุกพระองค์ ทรงทำงานมาตลอด 800 ปี และสืบทอดปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย พระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณคนไทยต้องสำนึกตรงนี้”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ทั้งนี้ ระหว่างพูด มีประชาชนถามเลขทะเบียนรถนายกฯ เพื่อนำไปตีตัวเลข นายกฯ จึงกล่าวแซวว่า ตนไม่สนับสนุน แต่ไม่ขัดข้อง แต่ขอให้พอเพียง
ในช่วงท้าย นายกฯ ได้กล่าวให้กำลังใจทุกคน พร้อมนำประชาชน ตะโกนว่า “สู้ไม่สู้ เหนื่อยไม่เหนื่อย รักไหม ไม่รักฉันไม่เป็นไร ฉันรักเธอ ไม่ได้มาหาเสียง ใครไม่รักผม ไม่เป็นไร ผมยิ่งต้องรักท่าน เราเกลียดชังกันไม่ได้ เพราะเป็นคนไทย คนไทย ต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเคารพกฎหมายเท่านั้นเองรัฐบาลจะได้ทำงานได้” ขณะที่ประชาชนก็พากันตะโกน “รักนายกฯ” นายกฯ จึงกล่าวว่า ไปไม่ได้แล้ว รักจังฮู้
ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ผู้ประสบอุทกภัย และยังได้ทักทายนายเทพไท และ ส.ส.ในพื้นที่อย่างเป็นกันเอง โดยนายกฯ ได้หยอกล้อนายเทพไทว่าตนเองใช้ยาสีฟันเทพไทย เลยพูดจาดีขึ้น ก่อนที่นายเทพไท กล่าวตอบว่า ครับ น่ารักขึ้น ต้องพูดหวาน ก่อนจะหัวเราะอย่างชอบใจ
นอกจากนี้ ในระหว่างทำอาหารแจกผู้ประสบอุทกภัย นายกฯ กล่าวแซวนายเทพไท ว่า ขอให้ช่วยกันในสภาฯ เพราะอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกัน ก่อนที่นายกฯ จะป้อนอาหารให้นายเทพไท ชิม โดยช่วงนี้นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวแซวขึ้นมาว่า “อยู่ในสภาฯ อย่าว่านายกฯ เยอะ”
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัยในพื้นที่ภาคใต้ 11 จังหวัด 101 อำเภอ 560 ตำบล 4,130 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 555,194 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 24 ราย โดยยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสงขลา ซึ่งระดับน้ำเริ่มลดลงทุกจังหวัดแล้ว ซึ่ง ปภ.จะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้านต่อไป
วานนี้ (7 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ ลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจสถานการณ์ และเยี่ยมเยียนประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม โดยมีนายไกรศร วิศิษฎร์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางด้วยรถรถยนต์ทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เลขทะเบียน 1 นข 2940 กรุงเทพมหานคร โดยระหว่างทางนายกฯ ได้หยุดรถทักทายและสอบถามประชาชนผู้ประสบอุทกภัยบริเวณข้างทาง ก่อนจะเดินทางถึงศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประชาชนมาร่วมต้อนรับ โดยนายกฯ ได้ตรวจเยี่ยมโรงครัวพระราชทาน ก่อนร่วมปรุงอาหาร เพื่อแจกจ่ายประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลมาเยี่ยมให้กำลังใจ และที่มาช้า เพราะต้องการข้อมูลจากข้างล่างว่ามีปัญหาตรงไหน โดยต้องแก้เชิงระบบ เชิงโครงสร้าง เท่าที่ทราบมีผู้ได้รับผลกระทบเยอะมาก มีผู้เสียชีวิต รัฐบาลขอแสดงความเสียใจกับทุกคน ยืนยันรัฐบาลจะดูแลให้ได้มากที่สุด
สำหรับการช่วยเหลือระยะแรก จะมีการแจกถุงยังชีพ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานถุงยังชีพจำนวน 10,000 ถุง และยังทรงรับสั่งว่าหากไม่เพียงพอ ก็พร้อมมอบให้อีก นี่คือสถาบันพระมหากษัตริย์ พระองค์ท่านทรงทำหลายอย่าง และทรงพระราชทานความช่วยเหลือ ดังนั้น ทุกอย่างต้องแก้เป็นระยะๆ ต่อไปรัฐบาลก็ทบทวนโครงการที่ลงมายัง จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง ตนอยากขออย่างเดียวขอประชาชนช่วยมีส่วนร่วมในการทำประชาพิจารณ์ เพราะเจอปัญหาหลายพื้นที่ที่ยังมีปัญหาอยู่ เพราะไม่ผ่านประชาพิจารณ์ ตนให้นโยบายไปแล้วขอให้ทุกคนช่วยกัน ไม่เช่นนั้นแก้ไม่ได้ ทำอย่างไรให้สอดประสาน เกิดการบูรณาการ เรื่องถนนขวางทางน้ำ ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมมาดู ทั้งหมดต้องทำเป็นระบบ ประชาชนต้องให้ความร่วมมือด้วย
“สิ่งสำคัญที่สุด ประเทศชาติของเราอยู่ด้วย 1.ชาติ 2.ศาสนา 3.สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทุกพระองค์ ทรงทำงานมาตลอด 800 ปี และสืบทอดปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย พระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณคนไทยต้องสำนึกตรงนี้”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ทั้งนี้ ระหว่างพูด มีประชาชนถามเลขทะเบียนรถนายกฯ เพื่อนำไปตีตัวเลข นายกฯ จึงกล่าวแซวว่า ตนไม่สนับสนุน แต่ไม่ขัดข้อง แต่ขอให้พอเพียง
ในช่วงท้าย นายกฯ ได้กล่าวให้กำลังใจทุกคน พร้อมนำประชาชน ตะโกนว่า “สู้ไม่สู้ เหนื่อยไม่เหนื่อย รักไหม ไม่รักฉันไม่เป็นไร ฉันรักเธอ ไม่ได้มาหาเสียง ใครไม่รักผม ไม่เป็นไร ผมยิ่งต้องรักท่าน เราเกลียดชังกันไม่ได้ เพราะเป็นคนไทย คนไทย ต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเคารพกฎหมายเท่านั้นเองรัฐบาลจะได้ทำงานได้” ขณะที่ประชาชนก็พากันตะโกน “รักนายกฯ” นายกฯ จึงกล่าวว่า ไปไม่ได้แล้ว รักจังฮู้
ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ผู้ประสบอุทกภัย และยังได้ทักทายนายเทพไท และ ส.ส.ในพื้นที่อย่างเป็นกันเอง โดยนายกฯ ได้หยอกล้อนายเทพไทว่าตนเองใช้ยาสีฟันเทพไทย เลยพูดจาดีขึ้น ก่อนที่นายเทพไท กล่าวตอบว่า ครับ น่ารักขึ้น ต้องพูดหวาน ก่อนจะหัวเราะอย่างชอบใจ
นอกจากนี้ ในระหว่างทำอาหารแจกผู้ประสบอุทกภัย นายกฯ กล่าวแซวนายเทพไท ว่า ขอให้ช่วยกันในสภาฯ เพราะอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกัน ก่อนที่นายกฯ จะป้อนอาหารให้นายเทพไท ชิม โดยช่วงนี้นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวแซวขึ้นมาว่า “อยู่ในสภาฯ อย่าว่านายกฯ เยอะ”
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัยในพื้นที่ภาคใต้ 11 จังหวัด 101 อำเภอ 560 ตำบล 4,130 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 555,194 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 24 ราย โดยยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสงขลา ซึ่งระดับน้ำเริ่มลดลงทุกจังหวัดแล้ว ซึ่ง ปภ.จะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้านต่อไป