ม็อบคณะราษฎร บุกกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หลังเจ้าหน้าที่ขนตู้คอนเทนเนอร์ ขึงลวดหนามสกัด ที่ราบ 1 "กวิ้น" ประกาศชัยชนะเมื่อนำทัพเป็ดเหลืองถึงหน้าราบ 11 ลั่นทวงคืนทหารของชาติ "อานนท์" ย้ำกองกำลังติดอาวุธ ต้องขึ้นตรงรัฐบาล
หลังกลุ่มราษฎร และแนวร่วมฯ ประกาศนัดหมายจัดการชุมนุม "ปลดอาวุธศักดินาไทย" ที่กรมทหารราบที่ 1 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.วันที่ 29 พ.ย. ทำให้เจ้าหน้าที่ ต้องนำตู้คอนเทนเนอร์ มาวางกั้นถนนวิภาวดีรังสิต ช่องทางคู่ขนาน บริเวณก่อนถึงทางเข้ากรมทหารราบที่ 1 กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ฯ รวมทั้งขึงลวดหนามแบบหีบเพลง เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่
ต่อมาทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้แจ้งเปลี่ยนสถานที่ จากกรมทหารราบที่ 1 เป็น กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ โดยนัดรวมพล บริเวณสถานีรถไฟฟ้าวัดพระศรีมหาธาตุ เวลา 15.00 น. ก่อนจะเดินขบวนไปที่ กรมทหารราบที่ 11
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร กล่าวว่า ที่ต้องย้ายจากกรมทหารราบที่ 1 มาที่กรมทหารราบที่ 11 เพราะรัฐมีการนำตู้คอนเทนเนอร์ และลวดหนามมาขัดขวาง เราจึงต้องเปลี่ยนมาชุมนุม ที่กรมทหารราบที่ 11 แทน เพราะสื่อได้เหมือนกัน เนื่องจากทั้งกรมทหารราบที่ 1 และกรมทหารราบที่ 11 ถูกโอนย้ายเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ ซึ่งวันนี้เรามาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่สถาบันฯ มีกองกำลังทหาร
"การรักษาความปลอดภัยสถาบันฯ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้ว อีกทั้งกรมทหารราบที่ 1 และกรมทหารราบที่ 11 มีส่วนในการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง รวมทั้งมีส่วนในการทำปฏิวัติ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เราจะเคลื่อนไปปักหลักปราศรัยหน้ากรมทหารราบที่ 11" นายพริษฐ์ กล่าว
ต่อมา ทีมการ์ด นำโดยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ ได้เริ่มเข้าเคลียร์พื้นที่ เพื่อใช้เป็นเวทีปราศัยของแกนนำ ใช้คีมตัดลวดหนามออก และช่วยกันเข็นซากรถบัส 3 คัน ที่เจ้าหน้าที่นำมาจอดขวางปิดประตูทางเข้า-ออก โดยไม่มีการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
ขณะที่บรรดาแกนนำ ก็ได้เตรียมเคลื่อนขบวนมาที่บริเวณกรมทหารราบที่ 11 โดย นายพริษฐ์ ได้หันหน้าไปทางวัดพระศรีฯ เป็นตัวแทน จุดธูปกราบไหว้อัฐิของแกนนำคณะราษฎร อาทิ พระยาพหลพลพยุหเสนา นายปรีดี พนมยงค์ และภริยา เป็นต้น ซึ่งอยู่ภายในวัดพระศรีฯ เพื่อขอพร
"ขอให้วิญญาณทุกดวงทั้ง จอมพล.ป.พิบูสงคราม นายปรีดี และทหารที่ถูกสังหารทุ่งบางเขน คนเดือนตุลา พฤษภาทมิฬ 35 และวีรชนคนเสื้อแดงปี 53 มาที่นี่ เพื่อเป็นสิริมงคลในการโค่นล้มศักดินา โดยขอให้ช่วยคุ้มครองพวกเรา ให้พวกเราทำการสำเร็จ"
ทั้งนี้ เมื่อม็อบเคลื่อนขบวนถึง หน้าราบ 11 ประจันหน้ากับฝ่ายทหาร ทางแกนนำได้ประกาศให้นำเป็ดยางล้อมรถไว้เพื่อป้องกันเหตุ จากตร.ควบคุมฝูงชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายพริษฐ์ นำผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 ได้ขึ้นกล่าวปราศรัย และประกาศชัยชนะที่ได้บุกมาถึงหน้ากรมทหารราบที่ 11 โดยระบุว่า การที่มาวันนี้ ประชาชนต้องการมาทวงคืนทหารของชาติ พร้อมประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น "กรมทหารราบที่ 11 รักษาประชาธิปไตยในมวลมหาราษฎร"
ขณะที่ นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ได้ปราศรัยถึงการ"ปลดอาวุธศักดินา"ว่า พวกเราจะต่อสู้โดยไม่ใช้อาวุธ แต่เราจะค่อยๆ เปิดแผลศักดินา เปิดแผลตรงไหนขยี้ตรงนั้น แล้วจะเรียกสื่อมาถ่ายทอดสดแผลนั้นด้วย ซึ่งวันนี้เป็นอีกแผลที่ใหญ่มาก เพราะปกติกองกำลังที่ติดอาวุธได้ ต้องขึ้นตรงกับรัฐบาลเท่านั้น นอกจากนี้วันนี้มีการแบ่งข้าราชการเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายตำรวจ ทหารธรรมดา กับคอแดง ซึ่งฝ่ายหลังจะกร่างกว่าเพื่อน
"เร็วๆนี้ เราจะเปิดแผลเรื่อยๆ ให้เห็น พรุ่งนี้ มะรืนนี้ รอฟังข่าวจากเพจหลักของเราอีกครั้ง สถานที่ที่เราจะไปแซ่บแน่ๆ รับรองว่าแซ่บ ข้อมูลที่เราจะปราศรัย ขอบอกว่าคนบางคนถึงกับสะดุ้ง คิ้วกระดก ย้ำว่ายุทธวิธีเราคือ เปิดแผล เน้นๆ แล้วเราจะชนะร่วมกัน" นายอานนท์ กล่าว
หลังกลุ่มราษฎร และแนวร่วมฯ ประกาศนัดหมายจัดการชุมนุม "ปลดอาวุธศักดินาไทย" ที่กรมทหารราบที่ 1 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.วันที่ 29 พ.ย. ทำให้เจ้าหน้าที่ ต้องนำตู้คอนเทนเนอร์ มาวางกั้นถนนวิภาวดีรังสิต ช่องทางคู่ขนาน บริเวณก่อนถึงทางเข้ากรมทหารราบที่ 1 กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ฯ รวมทั้งขึงลวดหนามแบบหีบเพลง เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่
ต่อมาทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้แจ้งเปลี่ยนสถานที่ จากกรมทหารราบที่ 1 เป็น กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ โดยนัดรวมพล บริเวณสถานีรถไฟฟ้าวัดพระศรีมหาธาตุ เวลา 15.00 น. ก่อนจะเดินขบวนไปที่ กรมทหารราบที่ 11
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร กล่าวว่า ที่ต้องย้ายจากกรมทหารราบที่ 1 มาที่กรมทหารราบที่ 11 เพราะรัฐมีการนำตู้คอนเทนเนอร์ และลวดหนามมาขัดขวาง เราจึงต้องเปลี่ยนมาชุมนุม ที่กรมทหารราบที่ 11 แทน เพราะสื่อได้เหมือนกัน เนื่องจากทั้งกรมทหารราบที่ 1 และกรมทหารราบที่ 11 ถูกโอนย้ายเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ ซึ่งวันนี้เรามาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่สถาบันฯ มีกองกำลังทหาร
"การรักษาความปลอดภัยสถาบันฯ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้ว อีกทั้งกรมทหารราบที่ 1 และกรมทหารราบที่ 11 มีส่วนในการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง รวมทั้งมีส่วนในการทำปฏิวัติ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เราจะเคลื่อนไปปักหลักปราศรัยหน้ากรมทหารราบที่ 11" นายพริษฐ์ กล่าว
ต่อมา ทีมการ์ด นำโดยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ ได้เริ่มเข้าเคลียร์พื้นที่ เพื่อใช้เป็นเวทีปราศัยของแกนนำ ใช้คีมตัดลวดหนามออก และช่วยกันเข็นซากรถบัส 3 คัน ที่เจ้าหน้าที่นำมาจอดขวางปิดประตูทางเข้า-ออก โดยไม่มีการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
ขณะที่บรรดาแกนนำ ก็ได้เตรียมเคลื่อนขบวนมาที่บริเวณกรมทหารราบที่ 11 โดย นายพริษฐ์ ได้หันหน้าไปทางวัดพระศรีฯ เป็นตัวแทน จุดธูปกราบไหว้อัฐิของแกนนำคณะราษฎร อาทิ พระยาพหลพลพยุหเสนา นายปรีดี พนมยงค์ และภริยา เป็นต้น ซึ่งอยู่ภายในวัดพระศรีฯ เพื่อขอพร
"ขอให้วิญญาณทุกดวงทั้ง จอมพล.ป.พิบูสงคราม นายปรีดี และทหารที่ถูกสังหารทุ่งบางเขน คนเดือนตุลา พฤษภาทมิฬ 35 และวีรชนคนเสื้อแดงปี 53 มาที่นี่ เพื่อเป็นสิริมงคลในการโค่นล้มศักดินา โดยขอให้ช่วยคุ้มครองพวกเรา ให้พวกเราทำการสำเร็จ"
ทั้งนี้ เมื่อม็อบเคลื่อนขบวนถึง หน้าราบ 11 ประจันหน้ากับฝ่ายทหาร ทางแกนนำได้ประกาศให้นำเป็ดยางล้อมรถไว้เพื่อป้องกันเหตุ จากตร.ควบคุมฝูงชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายพริษฐ์ นำผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 ได้ขึ้นกล่าวปราศรัย และประกาศชัยชนะที่ได้บุกมาถึงหน้ากรมทหารราบที่ 11 โดยระบุว่า การที่มาวันนี้ ประชาชนต้องการมาทวงคืนทหารของชาติ พร้อมประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น "กรมทหารราบที่ 11 รักษาประชาธิปไตยในมวลมหาราษฎร"
ขณะที่ นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ได้ปราศรัยถึงการ"ปลดอาวุธศักดินา"ว่า พวกเราจะต่อสู้โดยไม่ใช้อาวุธ แต่เราจะค่อยๆ เปิดแผลศักดินา เปิดแผลตรงไหนขยี้ตรงนั้น แล้วจะเรียกสื่อมาถ่ายทอดสดแผลนั้นด้วย ซึ่งวันนี้เป็นอีกแผลที่ใหญ่มาก เพราะปกติกองกำลังที่ติดอาวุธได้ ต้องขึ้นตรงกับรัฐบาลเท่านั้น นอกจากนี้วันนี้มีการแบ่งข้าราชการเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายตำรวจ ทหารธรรมดา กับคอแดง ซึ่งฝ่ายหลังจะกร่างกว่าเพื่อน
"เร็วๆนี้ เราจะเปิดแผลเรื่อยๆ ให้เห็น พรุ่งนี้ มะรืนนี้ รอฟังข่าวจากเพจหลักของเราอีกครั้ง สถานที่ที่เราจะไปแซ่บแน่ๆ รับรองว่าแซ่บ ข้อมูลที่เราจะปราศรัย ขอบอกว่าคนบางคนถึงกับสะดุ้ง คิ้วกระดก ย้ำว่ายุทธวิธีเราคือ เปิดแผล เน้นๆ แล้วเราจะชนะร่วมกัน" นายอานนท์ กล่าว
