นครสวรรค์ - แม่ค้าสาวถูกจับลิขสิทธิ์เป็ดเหลืองตามค้นข้อมูลบริษัทตัวแทนเตรียมสู้คดีจนถึงที่สุด พบเพิ่งจดทะเบียน 10 ตุลาฯ แถมไม่เกี่ยวเป็ดเหลืองฮ่องกงซ้ำ เหมือนตีขลุมจับ
วันนี้ (11 พ.ย.) นางสาวสุดาทิพย์ ดวงจินดา แม่ค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์ ที่ถูกจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เรียกเงิน 2.5 หมื่นบาท แต่ตัดสินใจประกันตัวในวงเงิน 5 หมื่นบาทเพื่อสู้ดคี เพราะสงสัยพฤติกรรมของตัวแทน-บริษัทผู้รับมอบอำนาจ ได้เดินทางไปที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์เพื่อหาข้อมูลบริษัทตัวแทนลิขสิทธิ์ที่ใช้ชื่อ บริษัท เอ็น.ที.แฮปปี้ จำกัด ที่นายอภินันท์ วงษ์แก้ว รับช่วงมาล่อซื้อเสื้อลายเป็ดเหลือง
เบื้องต้นพบว่าบริษัทดังกล่าวเพิ่งจะมีการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีนายหทัย อู่เจริญ และนายประพจน์ เอื้อวิไลเลิศ เป็นผู้จดทะเบียนดังกล่าว ที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งบริษัทนี้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ “duck kab kab” เป็นรูปเป็ดสีเหลือง ตาจุดสีดำ หันหน้าไปทางด้านขวา ลำตัวมีลายเส้นเป็นรูปปีก ส่วนหางจะชี้หันขึ้นไปที่ส่วนหัว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ B Duck Thailand (บีดัก ไทยแลนด์) ผู้ถือครองลิขสิทธิ์เป็ดเหลืองจากฮ่องกงแต่อย่างใด
ภายหลังการตรวจสอบ นางสาวสุดาทิพย์ ดวงจินดา ได้ตั้งข้อสงสัยพฤติกรรมของตัวแทนลิขสิทธิ์ที่ไม่ให้ตนดูบัตร และรายละเอียดการจับกุมที่ไม่ชัดเจนว่า รูปลายเป็ด (duck kab kab) ของบริษัทที่ส่งตัวแทนเข้ามาจับตนนั้นมีจริงหรือไม่ เพราะไม่รู้ที่ตั้งสำนักงาน อีกทั้งการล่อซื้อจับกุมที่มีการเสนอจ่ายเงินหลักหลายหมื่นบาทเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นพฤติกรรมที่ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากตนได้ทำการค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแต่ก็ไม่พบข้อมูลชื่อบริษัทที่กล่าวอ้างมา ทำให้ต้องมาขอดูเอกสารเพื่อจะใช้ในการสู้กับบริษัทตัวแทนดังกล่าว
ขณะที่กำลังสอบถามนางสาวสุดาทิพย์อยู่นั้น ได้มีนางวาสนา อุดมวงษ์ อายุ 40 ปี เดินทางมาที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์เพื่อขอตรวจสอบข้อมูลของบริษัท เอ็น.ที.แฮปปี้ จำกัด เพื่อใช้ต่อสู้คดีที่ถูกตัวแทนลิขสิทธิ์ดังกล่าวจับด้วยเช่นกัน
นางวาสนาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่าถูกจับกุมโดยการล่อซื้อเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีการเสียค่าปรับเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท แต่เมื่อเห็นข่าวนางสาวสุดาทิพย์ถูกบริษัท เอ็น.ที.แฮปปี้ จำกัด ล่อซื้อจับกุมชุดลายเป็ดเหลืองแบบเดียวกันกับตน จึงปรึกษากับสามีก่อนจะเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลกับบริษัทนี้ จะได้ใช้เป็นหลักฐานประกอบเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำคดีกลับมาตรวจสอบใหม่ เนื่องจากชุดเสื้อผ้าลายเป็ดเหลืองที่ถูกล่อซื้อจับกุมนั้นลักษณะไม่เหมือนกับเครื่องหมายการค้าแบรนด์ duck kab kab ที่มีการจดทะเบียนไว้
“การจับแบบนี้ดิฉันมองแล้วมันไม่ถูกต้อง เพราะเสื้อรูปเป็ดเหลืองที่ดิฉันขายไม่มีส่วนเหมือนกับแบรนด์ duck kab kab และแบรนด์ B Duck เลย ถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับว่าใครขายเสื้อผ้าที่มีรูปเป็ดเหลืองเขาก็เหมาว่าเป็นแบรนด์ของ duck kab kab หมด ทั้งที่ลิขสิทธิ์แบรนด์นี้มีแค่รูปแบบเดียว”
พร้อมกับขอตั้งข้อสงสัยด้วยว่าทำไมตัวแทนจับลิขสิทธิ์สามารถใช้ห้องทำงานของเจ้าหน้าที่พิมพ์สำนวนเองได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่มีตำรวจอยู่ร่วมสอบภายในห้องแม้แต่นายเดียว อีกทั้งยังมีการใช้ห้องทำงานแต่คนละตึกในการพิมพ์สำนวนเอง-ต่อรองราคาค่าปรับ เมื่อตกลงกันได้ก็จะพาตนไปอีกตึกหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องลงบันทึกประจำวันในการจ่ายเงิน และเซ็นหลักฐานว่ายอมชดใช้ค่าเสียหายต่อหน้าร้อยเวร ซึ่งไม่ใช่เป็นหนังสือถอนแจ้งความแต่อย่างใด