ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลอาญาทุจริตกลางสั่งจำคุก “วัลลภ” อดีตประธานบอร์ดการบินไทย 2 ปี ปมทุจริตขนสัมภาระน้ำหนักเกินกว่า 300 กิโลกรัม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำการบินไทยเสียหาย
วานนี้ (25 พ.ย.) ศาลอาญาคดีทุจริตกลาง มีคำพิพากษาสั่งจำคุกนายวัลลภ พุกกะณะสุต อดีตกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงการลงโทษ หลังพิจารณาแล้วเห็นว่านายวัลลภ กระทำผิดจริงตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ธงชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูล และอัยการสูงสุดยื่นฟ้องเมื่อปี 2561 จากกรณีนายวัลลภ ขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดบมจ.การบินไทย ใช้อำนาจโดยทุจริตในการนำกระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าสิทธิขึ้นเครื่องบิน ณ สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น
โดยนายวัลลภ สั่งการให้พนักงานบริษัท การบินไทยฯ แก้ไขน้ำหนัก เป็นการปกปิดน้ำหนักสัมภาระที่แท้จริง เพื่อหลีกเลี่ยงค่าระวางขนส่งที่เกินสิทธิ เป็นเหตุให้บริษัท การบินไทย เสียหาย จึงพิพากษาลงโทษตาม พ.ร.บ.ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 จำคุก 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษ
สำหรับกรณีดังกล่าว เกิดขึ้นช่วงปี 2552 ขณะที่นายวัลลภ ประธานบอร์ดบริหารบมจ.การบินไทย ขณะนั้น พร้อมภริยา เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น และถูกกล่าวหาว่าขนสัมภาระน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม กลับมายังสนามบินสุวรรณภูมิ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายน้ำหนักที่เกิน ทำให้บมจ.การบินไทยสูญเสียรายได้จำนวนมาก ต่อมาบอร์ดการบินไทยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยต้นปี 2553 มีมติสั่งปรับเงินนายวัลลภ ซึ่งนายวัลลภก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง และต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการสอบสวนและมีมติชี้มูลความผิด โดยอัยการสูงสุดได้ดำเนินการฟ้องคดีนี้ต่อศาลอาญาคดีทุจริตกลาง เมื่อปี 2561
วานนี้ (25 พ.ย.) ศาลอาญาคดีทุจริตกลาง มีคำพิพากษาสั่งจำคุกนายวัลลภ พุกกะณะสุต อดีตกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงการลงโทษ หลังพิจารณาแล้วเห็นว่านายวัลลภ กระทำผิดจริงตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ธงชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูล และอัยการสูงสุดยื่นฟ้องเมื่อปี 2561 จากกรณีนายวัลลภ ขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดบมจ.การบินไทย ใช้อำนาจโดยทุจริตในการนำกระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าสิทธิขึ้นเครื่องบิน ณ สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น
โดยนายวัลลภ สั่งการให้พนักงานบริษัท การบินไทยฯ แก้ไขน้ำหนัก เป็นการปกปิดน้ำหนักสัมภาระที่แท้จริง เพื่อหลีกเลี่ยงค่าระวางขนส่งที่เกินสิทธิ เป็นเหตุให้บริษัท การบินไทย เสียหาย จึงพิพากษาลงโทษตาม พ.ร.บ.ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 จำคุก 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษ
สำหรับกรณีดังกล่าว เกิดขึ้นช่วงปี 2552 ขณะที่นายวัลลภ ประธานบอร์ดบริหารบมจ.การบินไทย ขณะนั้น พร้อมภริยา เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น และถูกกล่าวหาว่าขนสัมภาระน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม กลับมายังสนามบินสุวรรณภูมิ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายน้ำหนักที่เกิน ทำให้บมจ.การบินไทยสูญเสียรายได้จำนวนมาก ต่อมาบอร์ดการบินไทยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยต้นปี 2553 มีมติสั่งปรับเงินนายวัลลภ ซึ่งนายวัลลภก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง และต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการสอบสวนและมีมติชี้มูลความผิด โดยอัยการสูงสุดได้ดำเนินการฟ้องคดีนี้ต่อศาลอาญาคดีทุจริตกลาง เมื่อปี 2561