ผู้จัดการรายวัน360- ม็อบราษฎรยึดหน้าตึก SCBแยกรัชโยธิน ปราศรัยโจมตีรัฐบาล-สถาบันฯ ตั้งโต๊ะแบงก์เป็ดเหลือง ช้อปผ่านร้านซีไอเอ "ส.ศิวรักษ์" โผล่ร่วมไล่นายกฯ อ้างใช้ม.112 ไม่ทำตามประสงค์ ร.๙-ร.๑๐ "อานนท์" กร้าวถ้ามีรัฐประหาร เจอกันกันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน นัดรวมพลอีกครั้ง 27 พ.ย.นี้ หลังประกาศยุติการชุมนุม "บิ๊กตู่" ยันไม่คิดใช้กฎอัยการศึก ชี้ตอนนี้ใช้ กม.ปกติก็พอ ไม่สนม็อบชุมนุมยืดเยื้อ 5 วัน ขู่ทำผิดกม.ดำเนินการแน่ ตร.ออกหมายเรียก 12 แกนนำม็อบราษฎรรับทราบข้อหา กระทำผิดม.112 ก่อนบุกรวบ "ครูใหญ่-อรรถพล" ขณะเตรียมตัวไปร่วมม็อบ ส่วน "โตโต้" นอนห้องขังต่อตร.ไม่ให้ประกันตัว
วานนี้ (25พ.ย.) การชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร ที่ได้ประกาศย้ายการชุมนุมจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มาหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ แยกรัชโยธิน เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับฝ่ายตรงข้าม โดยมีการแจ้งว่าจะชุมนุมต่อเนื่อง 5 วันโดยไม่พักค้างคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 15.30 น.บรรดาแกนนำกลุ่มราษฎร ก็ได้เดินทางมาถึงพื้นที่ชุมนุมที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ นำโดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน , นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง และ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบร์ท
นายพริษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การดำเนินคดีกับแกนนำด้วย มาตรา 112 เพื่อหวังที่จะจับแกนนำ และปล่อยให้การชุมนุมกันโดยไม่มีแกนนำนั้น ไม่ได้ทำให้เสียรูปขบวน แต่กลับทำให้ประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมการชุมนุม
"การดำเนินคดีตาม มาตรา112 นั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ยังมีระบบเก่าล้าหลัง และเมื่อมีการใช้ขึ้นมาเมื่อใด ก็จะสร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศ" ขณะที่นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า ที่มีการเปลี่ยนที่ชุมนุมเพราะเรายึดสันติวิธีมาโดยตลอด และเราประเมินแล้วว่า ที่ตำรวจปิดกั้นเส้นทางที่เราจะไป และเราประเมินถึงความไม่ชอบธรรมที่เจ้าหน้าที่จะสร้างให้มันเกิดเงื่อนไขการทำรัฐประหาร เราจึงเลือกเปลี่ยนเส้นทาง เพื่อแสดงจุดยืนว่าเรายังไม่ได้อยากปะทะกับใคร และไม่อยากสร้างเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่ทำรัฐประหาร เพราะสิ่งสำคัญคือเราต้องการให้มวลชนปลอดภัย เพื่อเดินสู่เส้นชัย อย่างสงบงาม เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
"แกนนำที่ถูกดำเนินคดี มาตรา 112 ก็ถือเป็นการแสดงความพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในการกระทำ และจะส่งผลกระทบทำให้มวลชนออกมาชุมนุมกันมากขึ้น เชื่อว่าวิธีจับแกนนำไปนั้นไม่ได้มีผลให้หยุดการชุมนุมได้ เพราะการชุมนุมก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ"
ด้าน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้ จะเน้นการปราศรัย เพื่อให้ข้อมูลแก่มวลชนว่า ทำไมถึงต้องมีการปฏิรูปสถาบันฯ โดยได้เชิญผู้มีความรู้เกี่ยวกับทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มาปราศรัยในช่วงค่ำ เพื่อให้เห็นว่าทำไมกลุ่มราษฎร ถึงต้องมาที่ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดว่าวันนี้น่าจะเสร็จสิ้นไม่เกินเวลา 22.00 น. ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการชุมนุมแล้ว จะมีการประกาศสถานที่การชุมนุมในครั้งต่อไป" น.ส.ปนัสยา กล่าว
ขณะที่ จ.ส.ต.พลาม พรมจำปา หรือ "ครูพลาม" อดีตครูฝึกหน่วยรบพิเศษ ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร ที่ได้เปิดตัวประกาศเป็น"การ์ดรบพิเศษ" ให้กับคณะราษฎร กล่าวว่า เหตุผลที่ตนมามีคำถามมากมาย มีกลุ่มผู้ชุมนุม มีแกนนำที่อยู่ที่นี่ไม่ไว้ใจ เพราะลักษณะของตน น่ากลัว เป็นอดีตเจ้าหน้าที่รบพิเศษ หาว่าจะปลอมตัวเข้ามา หรือกลัวว่าจะมีนายสั่งมา หรือไม่นั้น ก็สามารถสงสัยกันได้ หรือถามได้ นอกจากนี้ยังมีการปล่อยข่าวว่า ตนจะระดมพล 4 เหล่าทัพมาเพื่อก่อความรุนแรง เข้ามาก่อความรุนแรง เป็นบุคคลอันตรายอันดับ 1 ของประเทศไทย ตนขอยืนยันว่ามาด้วยจิตใจบริสุทธิ์ มามือเปล่า ไม่มีอาวุธใดๆทั้งสิ้น การที่ตนออกมาต่อต้านรัฐ เพราะทนเห็นความอยุติธรรมต่อไปไม่ไหว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงจ่าพลาม และทีมการ์ดรบพิเศษครั้งนี้ น่าสังเกตว่าแต่ละคนใส่ชุดสีดำมาแบบเต็มพิกัด มีการใส่มวก ใส่แว่นดำ และใช้ผ้าสีดำปิดบังใบหน้าจนมิดชิด
ขณะที่ กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง ที่มาร่วมชุมนุม ก็มีการเปิดเพลงที่มีเนื้อหาโจมตีรัฐบาล ให้มวลชนเต้นกันอย่างสนุกสนาน หน้า สนง.ใหญ่ ธ.ไทยพาณิชย์
รายงานข่าวแจ้งว่า นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ เจ้าของนามปากกา ส. ศิวรักษ์ เป็นนักเขียน นักปรัชญาชื่อดัง เข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ และปราศรัยสนับสนุนการขับไล่ นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทำตามพระราชประสงค์ของกษัตริย์ทั้ง 2 พระองค์ ทั้งรัชกาลที่ ๙ และ รัชกาลที่ ๑๐ ที่มีพระราชดำรัสว่าไม่ให้นำกฏหมายมาตรา 112 มาใช้กับประชาชน แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับนำมาใช้ ถือว่าไม่เหมาะสม ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ
นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร2563 ที่ปรากฏตัวในชุดเป็ดสีเหลือง ปราศรัยบนรถขยายเสียง “ขอยืนยันว่าการปฏิรูปสถาบันฯ ไม่ใช่การล้มล้าง วันไหนล้มล้างจะบอกตรงๆว่าล้มล้าง เราคนจริง ปฏิรูปก็คือปฏิรูป ถ้าจะปฏิวัติจะบอกตรงๆ ไม่ต้องมาใส่ความกัน ถ้าคิดว่าประชาชนสิ้นไร้ไม้ตอก ก็ลองดู ถ้าจะมีรัฐประหาร ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย จะออกมาสู้กันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน นี่จะเป็นการรัฐประหารครั้งสุดท้ายในประเทศไทย ไม่เชื่อลองดู”
เวลา 20.25 น. การ์ดอาสา ได้พาตัว "ไผ่ ดาวดิน" ขึ้นรถยนต์ออกไปจากที่ชุมนุม หลังได้รับรายงานมีตำรวจนอกเครื่องแบบจะนำกำลังมาจับกุมแกนนำม็อบ
เวลา 21.00 น. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำคณะราษฎร ได้แจ้งว่าจะมีการนัดชุมนุมกันอีกครั้งในวันที่ 27 พ.ย.63 เวลา 16.00 น. สถานที่จะแจ้งผ่านเพจแนวร่วมธรรมศาวตร์และการชุมนุม และเพจเยาวชนปลดแอก เพื่อเป็นการยกระดับการชุมนุมอีกครั้งเพื่อทำตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อต่อไป ก่อนจะยุติการชุมชุม
ทำคูปองแบงก์เป็ดแจก 3 พันใบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ชุมนุม ได้มีการตั้งโต๊ะเพื่อแจกคูปอง ที่กลุ่มผู้ชุมนุมบอกว่าเป็น ธนบัตรราษฎร ให้กับผู้มาร่วมชุมนุม คนละหนึ่งใบ
โดยธนบัตรดังกล่าว มีสัญลักษณ์รูปเป็ดยางสีเหลืองสวมมงกุฏ และ นกพิราบขาว ใช้สำหรับชำระหนี้ CIA คือธนบัตรดังกล่าว นำไปใช้ซื้อของที่รถขายของ หรือ CIA เฉพาะร้านค้าที่ติดสัญลักษณ์รูปธนบัตรเท่านั้น โดยธนบัตร 1 ใบ มีมูลค่า10 บาท โดนเตรียมมาทั้งหมด 3,000 ใบ โดยมีผู้ร่วมชุมนุมสนใจต่อแถวรับคูปองดังกล่าวจำนวนมาก
แนะ SCBฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหาย
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ... กลุ่มม็อบทำลายชาติย้ายไปชุมนุมหน้า SCB จนต้องปิดหนี SCB ควรฟ้องแพ่ง ม.420 เรียกค่าเสียหายแกนนำม็อบ ให้เป็นตัวอย่างเสียที”
“ป.พ.พ.มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น #อย่าปล่อยให้ม็อบทำรายชาติมีที่ยืนในสังคมไทย”
"บิ๊กตู่"ยันไม่ใช้กฎอัยการศึกปราบม็อบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังประชุมร่วมสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน ถึงการชุมนุมกลุ่มราษฎร ว่า ไม่มีอะไรหรอก เป็นเรื่องของการชุมนุม ระหว่างการประชุม ตนได้บอกไปกับสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของทุกประเทศทั่วโลก ประชาธิปไตยก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ ตนก็ไม่ได้บอกว่า ใครดีหรือไม่ดี ตนจับด้วยข้อกฎหมาย และไม่ว่าใครทำผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ไม่เคยคิดที่จะใช้ ประกาศกฎอัยการศึก แต่ใช้กฎหมายปกติ วันนี้บ้านเมืองต้องการความสงบสุข ความมีเสถียรภาพ อะไรควรทำ ไม่ควรทำทุกคนรู้อยู่แล้ว คนไทยทุกคนก็ต้องเรียนรู้ ตนคิดว่าหลายๆอย่าง มันเป็นการสร้างการเรียนรู้ให้กับคนไทยว่า เราจะอยู่กับโลกยุคใหม่ได้อย่างไร โลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัล โลกแห่ง 4.0 โลก หลังโควิด-19 นิวนอร์มอล ถ้าเรายังมีอะไรที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้น ทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้ เมื่อประชาชนเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น ตนจึงจำเป็นต้องใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ตนไม่จำเป็นต้องไปสั่งอะไรเพิ่มเติม เพราะมีกฎหมายอยู่แล้ว
หมายเรียก 12 แกนนำม็อบผิด ม.112
มีรายงานว่า พนักสอบสวนของพื้นที่ต่างๆ แจ้งข้อหา 12 แกนนำม็อบคณะราษฎร ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ประกอบด้วย 1. นายพริษฐ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน มี 8 คดี 2. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง มี 6 คดี 3. นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ มี 4 คดี 4.นายอานนท์ นำภา มี 4 คดี 5.น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ มี 3 คดี 6. นายชนินทร์ วงษ์ศรี มี 2 คดี 7.น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ มี 1 คดี
8.นายปิยรัฐ จงเทพ มี 1 คดี 9. นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี มี 1 คดี 10. นายอรรถพล บัวพัฒน์ มี 1 คดี 11. นายชูเกียรติ แสงวงศ์ มี 1 คดี 12. นายสมบัติ ทองย้อย มี 1 คดี
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนของแต่ละที่ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาล เขตพื้นที่รับผิดชอบต่างๆ แต่ปรากฏว่า ศาลไม่อนุมัติหมายจับ โดยให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหาเป็นบุคคลสาธารณะมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงให้ออกหมายเรียกแทน ในขณะเดียวกันมีรายงานว่า พนักงานสอบสวน ของแต่ละพื้นที่กำลังจะแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดี ในฐานความผิด ตาม มาตรา 112 อีก 3-5 ราย
ตร.บุกรวบ "ครูใหญ่" ก่อนไปร่วมม็อบ
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า นายอรรถพล บัวพัฒน์ แนวร่วมคณะราษฎร ได้ไลฟ์ผ่านแฟนเพจส่วนตัว ระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ขณะพักอยู่ที่โรงแรมในกทม. ก่อนจะไปร่วมชุมนุมที่หน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ทวิตเตอร์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า “เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี อ้างว่าจะนำตัวครูใหญ่ไปที่ สน. มักกะสันเพื่อทำบันทึกจับกุม”
ตำรวจไม่ให้ประกัน 'โตโต้'
สำหรับความคืบหน้ากรณีจับกุม นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ หัวหน้าการ์ดของกลุ่มราษฎร ตามหมายจับจากศาลจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานความผิดคดีอาญา ม.116 ในคดีขึ้นปราศรัยชุมนุมเมื่อเดือนส.ค.63 โดยเจ้าหน้าที่ได้ ส่งตัวนายปิยรัฐ ไปยัง สภ.อุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลฯ ได้สอบปากคำ นายปิยรัฐ เสร็จสิ้นแล้ว โดยแจ้งข้อกล่าวหาผิดมาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยจะคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองอุบลฯ อีก 1 คืน โดยวันนี้ ( 26 พ.ย.) จะนำตัวไปขอศาลอุบลฯ ฝากขัง ขณะที่ทนายได้ยื่นประกันชั้นสอบสวน แต่หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลฯ ไม่ให้ประกันตัว ในชั้นสอบสวน เพราะเกรงว่าจะหลบหนี , ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน, ก่อเหตุอันตราย ชักชวนให้ประชาชนก่อความรุนแรง จากการจัดชุมนุมอีก
วานนี้ (25พ.ย.) การชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร ที่ได้ประกาศย้ายการชุมนุมจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มาหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ แยกรัชโยธิน เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับฝ่ายตรงข้าม โดยมีการแจ้งว่าจะชุมนุมต่อเนื่อง 5 วันโดยไม่พักค้างคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 15.30 น.บรรดาแกนนำกลุ่มราษฎร ก็ได้เดินทางมาถึงพื้นที่ชุมนุมที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ นำโดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน , นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง และ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบร์ท
นายพริษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การดำเนินคดีกับแกนนำด้วย มาตรา 112 เพื่อหวังที่จะจับแกนนำ และปล่อยให้การชุมนุมกันโดยไม่มีแกนนำนั้น ไม่ได้ทำให้เสียรูปขบวน แต่กลับทำให้ประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมการชุมนุม
"การดำเนินคดีตาม มาตรา112 นั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ยังมีระบบเก่าล้าหลัง และเมื่อมีการใช้ขึ้นมาเมื่อใด ก็จะสร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศ" ขณะที่นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า ที่มีการเปลี่ยนที่ชุมนุมเพราะเรายึดสันติวิธีมาโดยตลอด และเราประเมินแล้วว่า ที่ตำรวจปิดกั้นเส้นทางที่เราจะไป และเราประเมินถึงความไม่ชอบธรรมที่เจ้าหน้าที่จะสร้างให้มันเกิดเงื่อนไขการทำรัฐประหาร เราจึงเลือกเปลี่ยนเส้นทาง เพื่อแสดงจุดยืนว่าเรายังไม่ได้อยากปะทะกับใคร และไม่อยากสร้างเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่ทำรัฐประหาร เพราะสิ่งสำคัญคือเราต้องการให้มวลชนปลอดภัย เพื่อเดินสู่เส้นชัย อย่างสงบงาม เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
"แกนนำที่ถูกดำเนินคดี มาตรา 112 ก็ถือเป็นการแสดงความพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในการกระทำ และจะส่งผลกระทบทำให้มวลชนออกมาชุมนุมกันมากขึ้น เชื่อว่าวิธีจับแกนนำไปนั้นไม่ได้มีผลให้หยุดการชุมนุมได้ เพราะการชุมนุมก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ"
ด้าน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้ จะเน้นการปราศรัย เพื่อให้ข้อมูลแก่มวลชนว่า ทำไมถึงต้องมีการปฏิรูปสถาบันฯ โดยได้เชิญผู้มีความรู้เกี่ยวกับทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มาปราศรัยในช่วงค่ำ เพื่อให้เห็นว่าทำไมกลุ่มราษฎร ถึงต้องมาที่ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดว่าวันนี้น่าจะเสร็จสิ้นไม่เกินเวลา 22.00 น. ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการชุมนุมแล้ว จะมีการประกาศสถานที่การชุมนุมในครั้งต่อไป" น.ส.ปนัสยา กล่าว
ขณะที่ จ.ส.ต.พลาม พรมจำปา หรือ "ครูพลาม" อดีตครูฝึกหน่วยรบพิเศษ ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร ที่ได้เปิดตัวประกาศเป็น"การ์ดรบพิเศษ" ให้กับคณะราษฎร กล่าวว่า เหตุผลที่ตนมามีคำถามมากมาย มีกลุ่มผู้ชุมนุม มีแกนนำที่อยู่ที่นี่ไม่ไว้ใจ เพราะลักษณะของตน น่ากลัว เป็นอดีตเจ้าหน้าที่รบพิเศษ หาว่าจะปลอมตัวเข้ามา หรือกลัวว่าจะมีนายสั่งมา หรือไม่นั้น ก็สามารถสงสัยกันได้ หรือถามได้ นอกจากนี้ยังมีการปล่อยข่าวว่า ตนจะระดมพล 4 เหล่าทัพมาเพื่อก่อความรุนแรง เข้ามาก่อความรุนแรง เป็นบุคคลอันตรายอันดับ 1 ของประเทศไทย ตนขอยืนยันว่ามาด้วยจิตใจบริสุทธิ์ มามือเปล่า ไม่มีอาวุธใดๆทั้งสิ้น การที่ตนออกมาต่อต้านรัฐ เพราะทนเห็นความอยุติธรรมต่อไปไม่ไหว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงจ่าพลาม และทีมการ์ดรบพิเศษครั้งนี้ น่าสังเกตว่าแต่ละคนใส่ชุดสีดำมาแบบเต็มพิกัด มีการใส่มวก ใส่แว่นดำ และใช้ผ้าสีดำปิดบังใบหน้าจนมิดชิด
ขณะที่ กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง ที่มาร่วมชุมนุม ก็มีการเปิดเพลงที่มีเนื้อหาโจมตีรัฐบาล ให้มวลชนเต้นกันอย่างสนุกสนาน หน้า สนง.ใหญ่ ธ.ไทยพาณิชย์
รายงานข่าวแจ้งว่า นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ เจ้าของนามปากกา ส. ศิวรักษ์ เป็นนักเขียน นักปรัชญาชื่อดัง เข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ และปราศรัยสนับสนุนการขับไล่ นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทำตามพระราชประสงค์ของกษัตริย์ทั้ง 2 พระองค์ ทั้งรัชกาลที่ ๙ และ รัชกาลที่ ๑๐ ที่มีพระราชดำรัสว่าไม่ให้นำกฏหมายมาตรา 112 มาใช้กับประชาชน แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับนำมาใช้ ถือว่าไม่เหมาะสม ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติ
นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร2563 ที่ปรากฏตัวในชุดเป็ดสีเหลือง ปราศรัยบนรถขยายเสียง “ขอยืนยันว่าการปฏิรูปสถาบันฯ ไม่ใช่การล้มล้าง วันไหนล้มล้างจะบอกตรงๆว่าล้มล้าง เราคนจริง ปฏิรูปก็คือปฏิรูป ถ้าจะปฏิวัติจะบอกตรงๆ ไม่ต้องมาใส่ความกัน ถ้าคิดว่าประชาชนสิ้นไร้ไม้ตอก ก็ลองดู ถ้าจะมีรัฐประหาร ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย จะออกมาสู้กันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน นี่จะเป็นการรัฐประหารครั้งสุดท้ายในประเทศไทย ไม่เชื่อลองดู”
เวลา 20.25 น. การ์ดอาสา ได้พาตัว "ไผ่ ดาวดิน" ขึ้นรถยนต์ออกไปจากที่ชุมนุม หลังได้รับรายงานมีตำรวจนอกเครื่องแบบจะนำกำลังมาจับกุมแกนนำม็อบ
เวลา 21.00 น. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำคณะราษฎร ได้แจ้งว่าจะมีการนัดชุมนุมกันอีกครั้งในวันที่ 27 พ.ย.63 เวลา 16.00 น. สถานที่จะแจ้งผ่านเพจแนวร่วมธรรมศาวตร์และการชุมนุม และเพจเยาวชนปลดแอก เพื่อเป็นการยกระดับการชุมนุมอีกครั้งเพื่อทำตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อต่อไป ก่อนจะยุติการชุมชุม
ทำคูปองแบงก์เป็ดแจก 3 พันใบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ชุมนุม ได้มีการตั้งโต๊ะเพื่อแจกคูปอง ที่กลุ่มผู้ชุมนุมบอกว่าเป็น ธนบัตรราษฎร ให้กับผู้มาร่วมชุมนุม คนละหนึ่งใบ
โดยธนบัตรดังกล่าว มีสัญลักษณ์รูปเป็ดยางสีเหลืองสวมมงกุฏ และ นกพิราบขาว ใช้สำหรับชำระหนี้ CIA คือธนบัตรดังกล่าว นำไปใช้ซื้อของที่รถขายของ หรือ CIA เฉพาะร้านค้าที่ติดสัญลักษณ์รูปธนบัตรเท่านั้น โดยธนบัตร 1 ใบ มีมูลค่า10 บาท โดนเตรียมมาทั้งหมด 3,000 ใบ โดยมีผู้ร่วมชุมนุมสนใจต่อแถวรับคูปองดังกล่าวจำนวนมาก
แนะ SCBฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหาย
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ... กลุ่มม็อบทำลายชาติย้ายไปชุมนุมหน้า SCB จนต้องปิดหนี SCB ควรฟ้องแพ่ง ม.420 เรียกค่าเสียหายแกนนำม็อบ ให้เป็นตัวอย่างเสียที”
“ป.พ.พ.มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น #อย่าปล่อยให้ม็อบทำรายชาติมีที่ยืนในสังคมไทย”
"บิ๊กตู่"ยันไม่ใช้กฎอัยการศึกปราบม็อบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังประชุมร่วมสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน ถึงการชุมนุมกลุ่มราษฎร ว่า ไม่มีอะไรหรอก เป็นเรื่องของการชุมนุม ระหว่างการประชุม ตนได้บอกไปกับสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของทุกประเทศทั่วโลก ประชาธิปไตยก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ ตนก็ไม่ได้บอกว่า ใครดีหรือไม่ดี ตนจับด้วยข้อกฎหมาย และไม่ว่าใครทำผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ไม่เคยคิดที่จะใช้ ประกาศกฎอัยการศึก แต่ใช้กฎหมายปกติ วันนี้บ้านเมืองต้องการความสงบสุข ความมีเสถียรภาพ อะไรควรทำ ไม่ควรทำทุกคนรู้อยู่แล้ว คนไทยทุกคนก็ต้องเรียนรู้ ตนคิดว่าหลายๆอย่าง มันเป็นการสร้างการเรียนรู้ให้กับคนไทยว่า เราจะอยู่กับโลกยุคใหม่ได้อย่างไร โลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัล โลกแห่ง 4.0 โลก หลังโควิด-19 นิวนอร์มอล ถ้าเรายังมีอะไรที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้น ทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้ เมื่อประชาชนเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น ตนจึงจำเป็นต้องใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ตนไม่จำเป็นต้องไปสั่งอะไรเพิ่มเติม เพราะมีกฎหมายอยู่แล้ว
หมายเรียก 12 แกนนำม็อบผิด ม.112
มีรายงานว่า พนักสอบสวนของพื้นที่ต่างๆ แจ้งข้อหา 12 แกนนำม็อบคณะราษฎร ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ประกอบด้วย 1. นายพริษฐ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน มี 8 คดี 2. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง มี 6 คดี 3. นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ มี 4 คดี 4.นายอานนท์ นำภา มี 4 คดี 5.น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ มี 3 คดี 6. นายชนินทร์ วงษ์ศรี มี 2 คดี 7.น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ มี 1 คดี
8.นายปิยรัฐ จงเทพ มี 1 คดี 9. นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี มี 1 คดี 10. นายอรรถพล บัวพัฒน์ มี 1 คดี 11. นายชูเกียรติ แสงวงศ์ มี 1 คดี 12. นายสมบัติ ทองย้อย มี 1 คดี
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนของแต่ละที่ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาล เขตพื้นที่รับผิดชอบต่างๆ แต่ปรากฏว่า ศาลไม่อนุมัติหมายจับ โดยให้เหตุผลว่า ผู้ต้องหาเป็นบุคคลสาธารณะมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงให้ออกหมายเรียกแทน ในขณะเดียวกันมีรายงานว่า พนักงานสอบสวน ของแต่ละพื้นที่กำลังจะแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดี ในฐานความผิด ตาม มาตรา 112 อีก 3-5 ราย
ตร.บุกรวบ "ครูใหญ่" ก่อนไปร่วมม็อบ
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า นายอรรถพล บัวพัฒน์ แนวร่วมคณะราษฎร ได้ไลฟ์ผ่านแฟนเพจส่วนตัว ระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ขณะพักอยู่ที่โรงแรมในกทม. ก่อนจะไปร่วมชุมนุมที่หน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ทวิตเตอร์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า “เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี อ้างว่าจะนำตัวครูใหญ่ไปที่ สน. มักกะสันเพื่อทำบันทึกจับกุม”
ตำรวจไม่ให้ประกัน 'โตโต้'
สำหรับความคืบหน้ากรณีจับกุม นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ หัวหน้าการ์ดของกลุ่มราษฎร ตามหมายจับจากศาลจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานความผิดคดีอาญา ม.116 ในคดีขึ้นปราศรัยชุมนุมเมื่อเดือนส.ค.63 โดยเจ้าหน้าที่ได้ ส่งตัวนายปิยรัฐ ไปยัง สภ.อุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลฯ ได้สอบปากคำ นายปิยรัฐ เสร็จสิ้นแล้ว โดยแจ้งข้อกล่าวหาผิดมาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยจะคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองอุบลฯ อีก 1 คืน โดยวันนี้ ( 26 พ.ย.) จะนำตัวไปขอศาลอุบลฯ ฝากขัง ขณะที่ทนายได้ยื่นประกันชั้นสอบสวน แต่หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลฯ ไม่ให้ประกันตัว ในชั้นสอบสวน เพราะเกรงว่าจะหลบหนี , ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน, ก่อเหตุอันตราย ชักชวนให้ประชาชนก่อความรุนแรง จากการจัดชุมนุมอีก
