ผู้จัดการรายวัน360 - "ชวน" เปิดโครงสร้างคณะกรรมการสมานฉันท์ 21 คน จัดสรรโควตาให้กลุ่มผู้ชุมนุม 2 คน มอบหมายเลขาธิการสภาฯ ประสานทุกฝ่าย สามารถเดินหน้าทำงานได้ ไม่จำเป็นต้องครบทุกฝ่าย
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา , นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล , นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เพื่อพิจารณาโครงสร้างคณะกรรมการสมานฉันท์ โดยได้ข้อสรุปว่า จะมี คณะกรรมการ 21 คน ประกอบด้วยผู้แทนรัฐบาล 2 คน , ผู้แทนส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 2 คน , ผู้แทนส.ส.ฝ่ายค้าน 2 คน , ผู้แทนวุฒิสภา 2 คน , ผู้แทนฝ่ายผู้ชุมนุม 2 คน , ผู้แทนผู้ที่มีความเห็นเป็นอย่างอื่น 2 คน , และผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน ประกอบด้วย บุคคลที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยเสนอ 3 คน บุคคลที่ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเสนอ 1 คน บุคคลที่ที่ประชุมคณะกรรมการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลเสนอ 1 คน บุคคลที่มีประสบการณ์ทำงานด้านความปรองดองสมานฉันท์ โดยกรรมการเท่าที่มีอยู่เลือกมาด้วยมติ 2 ใน 3 จำนวน 4 คน ซึ่งสามารถทำงานได้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีผู้แทนครบทุกกลุ่ม และเบื้องต้นได้มอบหมายให้ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรประสานหาตัวแทนกลุ่มต่างๆแล้ว ซึ่งการนัดประชุมครั้งแรก ก็ต้องรอดูว่า หากมีการตอบรับ ก็สามารถประชุมได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้มีผู้ตอบรับจำนวนเกินกว่ากึ่งหนึ่ง
ส่วนอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ นายชวน บอกว่า เริ่มต้นให้ชื่อว่า คณะกรรมการสมานฉันท์ แต่เมื่อคณะกรรมการเกิดขึ้นแล้ว เห็นว่าชื่อควรจะเปลี่ยนหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ของคณะกรรมการ ซึ่งประธานคณะกรรมการชุดนี้ ให้ขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะกรรมการ ไม่ได้เป็นประธานรัฐสภา
สำหรับเงื่อนไข หากผู้ชุมนุมไม่เข้าร่วม ก็ไม่มีปัญหา เพราะเป็นภารกิจที่สภาได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ ซึ่งคณะกรรมการ จะตอบรับเข้าร่วมกี่ฝ่าย ก็เอาเท่าที่มีไปก่อน ที่เหลือก็ประสานงานกันต่อไป แต่ก็จะพยายามให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม
ส่วนคณะกรรมการรูปแบบที่ 2 ที่คิดไว้เบื้องต้นยังไม่มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยจะมอบหมายให้สถาบันพระปกเกล้า เป็นผู้ดูแล ซึ่งเบื้องต้นมีการหารือกับผู้หลักผู้ใหญ่ และอดีตนายกฯ เกือบทุกคน และทุกฝ่ายก็ให้ความเห็นในทิศทางที่เป็นบวก สนับสนุนให้ทำงาน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเชิญบุคคลเหล่านี้เข้ามาเป็นคณะกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการจะเป็นผู้ใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับหลายองค์กรที่จะหารือต่อไป
สำหรับอำนาจของคณะกรรมการ จะเป็นฉันทามติผูกพันกับทุกฝ่ายได้หรือไม่นั้น ต้องให้โอกาสคณะกรรมการเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อเริ่มทำงานแล้วก็จะมีโอกาสรายงานให้ทราบต่อไป
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ยืนยันว่า กก.สมานฉันท์ชุดนี้ พอมีความหวังอยู่บ้าง ที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์บ้านเมือง มีการเชิญตัวแทนทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะฝ่ายผู้ชุมนุมและคนที่คิดต่างกับฝ่ายผู้ชุมนุม ซึ่งในอดีตโครงสร้างกก.ปรองดอง จะไม่มีส่วนนี้ ซึ่งหลังจากนี้เชื่อว่าผู้ชุมนุม คงจะได้มีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ เช่นเดียวกับฝ่ายค้านก็จะมีการหารือกันว่าจะส่งตัวแทนเข้าร่วมหรือไม่ แต่อย่างน้อยๆวันนี้ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และส.ว.ได้ร่วมวางกรอบ สำหรับหน้าที่ของกก.ชุดนี้จะเน้นไปที่การศึกษาในปัญหาต่างๆ เพื่อเสนอแนะเป็นแนวทางให้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทั้งหมดไปพิจารณาแก้ปัญหา ทั้งปัญหาเฉพาะหน้า และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา , นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล , นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เพื่อพิจารณาโครงสร้างคณะกรรมการสมานฉันท์ โดยได้ข้อสรุปว่า จะมี คณะกรรมการ 21 คน ประกอบด้วยผู้แทนรัฐบาล 2 คน , ผู้แทนส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 2 คน , ผู้แทนส.ส.ฝ่ายค้าน 2 คน , ผู้แทนวุฒิสภา 2 คน , ผู้แทนฝ่ายผู้ชุมนุม 2 คน , ผู้แทนผู้ที่มีความเห็นเป็นอย่างอื่น 2 คน , และผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน ประกอบด้วย บุคคลที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยเสนอ 3 คน บุคคลที่ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเสนอ 1 คน บุคคลที่ที่ประชุมคณะกรรมการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลเสนอ 1 คน บุคคลที่มีประสบการณ์ทำงานด้านความปรองดองสมานฉันท์ โดยกรรมการเท่าที่มีอยู่เลือกมาด้วยมติ 2 ใน 3 จำนวน 4 คน ซึ่งสามารถทำงานได้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีผู้แทนครบทุกกลุ่ม และเบื้องต้นได้มอบหมายให้ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรประสานหาตัวแทนกลุ่มต่างๆแล้ว ซึ่งการนัดประชุมครั้งแรก ก็ต้องรอดูว่า หากมีการตอบรับ ก็สามารถประชุมได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้มีผู้ตอบรับจำนวนเกินกว่ากึ่งหนึ่ง
ส่วนอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ นายชวน บอกว่า เริ่มต้นให้ชื่อว่า คณะกรรมการสมานฉันท์ แต่เมื่อคณะกรรมการเกิดขึ้นแล้ว เห็นว่าชื่อควรจะเปลี่ยนหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ของคณะกรรมการ ซึ่งประธานคณะกรรมการชุดนี้ ให้ขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะกรรมการ ไม่ได้เป็นประธานรัฐสภา
สำหรับเงื่อนไข หากผู้ชุมนุมไม่เข้าร่วม ก็ไม่มีปัญหา เพราะเป็นภารกิจที่สภาได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ ซึ่งคณะกรรมการ จะตอบรับเข้าร่วมกี่ฝ่าย ก็เอาเท่าที่มีไปก่อน ที่เหลือก็ประสานงานกันต่อไป แต่ก็จะพยายามให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม
ส่วนคณะกรรมการรูปแบบที่ 2 ที่คิดไว้เบื้องต้นยังไม่มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยจะมอบหมายให้สถาบันพระปกเกล้า เป็นผู้ดูแล ซึ่งเบื้องต้นมีการหารือกับผู้หลักผู้ใหญ่ และอดีตนายกฯ เกือบทุกคน และทุกฝ่ายก็ให้ความเห็นในทิศทางที่เป็นบวก สนับสนุนให้ทำงาน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเชิญบุคคลเหล่านี้เข้ามาเป็นคณะกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการจะเป็นผู้ใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับหลายองค์กรที่จะหารือต่อไป
สำหรับอำนาจของคณะกรรมการ จะเป็นฉันทามติผูกพันกับทุกฝ่ายได้หรือไม่นั้น ต้องให้โอกาสคณะกรรมการเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อเริ่มทำงานแล้วก็จะมีโอกาสรายงานให้ทราบต่อไป
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ยืนยันว่า กก.สมานฉันท์ชุดนี้ พอมีความหวังอยู่บ้าง ที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์บ้านเมือง มีการเชิญตัวแทนทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะฝ่ายผู้ชุมนุมและคนที่คิดต่างกับฝ่ายผู้ชุมนุม ซึ่งในอดีตโครงสร้างกก.ปรองดอง จะไม่มีส่วนนี้ ซึ่งหลังจากนี้เชื่อว่าผู้ชุมนุม คงจะได้มีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ เช่นเดียวกับฝ่ายค้านก็จะมีการหารือกันว่าจะส่งตัวแทนเข้าร่วมหรือไม่ แต่อย่างน้อยๆวันนี้ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และส.ว.ได้ร่วมวางกรอบ สำหรับหน้าที่ของกก.ชุดนี้จะเน้นไปที่การศึกษาในปัญหาต่างๆ เพื่อเสนอแนะเป็นแนวทางให้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทั้งหมดไปพิจารณาแก้ปัญหา ทั้งปัญหาเฉพาะหน้า และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต
