ผู้จัดการรายวัน360-ศบค.ชุดเล็ก เคาะต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินยาวยิงยาวจนพ้นปีใหม่ รวม 45 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เหตุจะมีการแห่เดินทางมากช่วงวันหยุดยาว แต่เบรกข้อเสนอลดระยะเวลากักตัวเหลือ 10 วัน หวั่นคุมโควิด-19 ไม่อยู่ เตรียมชง ศบค.ชุดใหญ่เคาะ 18 พ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 พ.ย.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) โดยได้ให้ความเห็นชอบขยายเวลาการบังคับใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 30 พ.ย.2563 ออกไปอีก 45 วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2563-15 ม.ค.2564 เพื่อใช้เป็นกลไกในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ การขยายระยะเวลาของพ.ร.ก.ฉุกเฉินรวดเดียว 45 วัน เพราะต้องการให้ครอบคลุมช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมีการเคลื่อนย้ายของประชาชนจำนวนมาก ทั้งการเดินทางกลับภูมิลำเนาและการท่องเที่ยว หากขยายระยะเวลาบังคับใช้ 30 วัน จะทำให้ต้องมาประชุม เพื่อพิจารณาขยายอีกครั้งในกลางเดือนธ.ค.2563 ซึ่งเป็นช่วงที่มีงานค่อนข้างมาก จึงประกาศขยายระยะเวลาบังคับใช้ 45 วันไปเลยในคราวเดียว
ส่วนเหตุผล เป็นเรื่องของการป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่เป็นห่วงเรื่องของการชุมนุมที่เป็นการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก อยากให้มีมาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มงวดมากขึ้น จึงขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปประสานงาน และอยากให้ระมัดระวังเรื่องการสวมหน้ากากและการตะโกนในที่ชุมนุม
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้เน้นให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทางธรรมชาติ เพราะจะมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมากที่ต้องการเดินทางเข้า-ออก ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในฐานะศบค.จังหวัด ประสานงานการดูแลเรื่องนี้ให้เข้มงวดมากขึ้น
สำหรับการพิจารณาข้อเสนอให้ลดระยะเวลาการกักตัวบุคคลจากต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศไทย จากเดิม 14 วัน เหลือ 10 วัน ที่ประชุมเห็นว่าต้องคงมาตรการกักตัว 14 วันตามเดิม เนื่องจากในช่วงปลายปี มีกิจกรรมหลายอย่าง เช่น เทศกาลปีใหม่ การเลือกตั้งท้องถิ่นในเดือนธ.ค.2563 การแข่งขันกีฬาแบดมินตันนานาชาติ 3 รายการ ที่จะจัดในเดือนม.ค.2564 จึงต้องคงมาตรการไว้เหมือนเดิม เพื่อไม่ให้โปรแกรมที่วางไว้สะดุด และอยากให้คนไทยได้ท่องเที่ยวช่วงปีใหม่อย่างปลอดภัย จึงต้องชะลอข้อเสนอนี้ไปจนกว่าจะพ้นเดือนม.ค.2564
อย่างไรก็ตาม จะนำเสนอมติในครั้งนี้ให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 18 พ.ย.2563 ก่อนนำเรื่องเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 พ.ย.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) โดยได้ให้ความเห็นชอบขยายเวลาการบังคับใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 30 พ.ย.2563 ออกไปอีก 45 วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2563-15 ม.ค.2564 เพื่อใช้เป็นกลไกในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ การขยายระยะเวลาของพ.ร.ก.ฉุกเฉินรวดเดียว 45 วัน เพราะต้องการให้ครอบคลุมช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมีการเคลื่อนย้ายของประชาชนจำนวนมาก ทั้งการเดินทางกลับภูมิลำเนาและการท่องเที่ยว หากขยายระยะเวลาบังคับใช้ 30 วัน จะทำให้ต้องมาประชุม เพื่อพิจารณาขยายอีกครั้งในกลางเดือนธ.ค.2563 ซึ่งเป็นช่วงที่มีงานค่อนข้างมาก จึงประกาศขยายระยะเวลาบังคับใช้ 45 วันไปเลยในคราวเดียว
ส่วนเหตุผล เป็นเรื่องของการป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่เป็นห่วงเรื่องของการชุมนุมที่เป็นการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก อยากให้มีมาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มงวดมากขึ้น จึงขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปประสานงาน และอยากให้ระมัดระวังเรื่องการสวมหน้ากากและการตะโกนในที่ชุมนุม
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้เน้นให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทางธรรมชาติ เพราะจะมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมากที่ต้องการเดินทางเข้า-ออก ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในฐานะศบค.จังหวัด ประสานงานการดูแลเรื่องนี้ให้เข้มงวดมากขึ้น
สำหรับการพิจารณาข้อเสนอให้ลดระยะเวลาการกักตัวบุคคลจากต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศไทย จากเดิม 14 วัน เหลือ 10 วัน ที่ประชุมเห็นว่าต้องคงมาตรการกักตัว 14 วันตามเดิม เนื่องจากในช่วงปลายปี มีกิจกรรมหลายอย่าง เช่น เทศกาลปีใหม่ การเลือกตั้งท้องถิ่นในเดือนธ.ค.2563 การแข่งขันกีฬาแบดมินตันนานาชาติ 3 รายการ ที่จะจัดในเดือนม.ค.2564 จึงต้องคงมาตรการไว้เหมือนเดิม เพื่อไม่ให้โปรแกรมที่วางไว้สะดุด และอยากให้คนไทยได้ท่องเที่ยวช่วงปีใหม่อย่างปลอดภัย จึงต้องชะลอข้อเสนอนี้ไปจนกว่าจะพ้นเดือนม.ค.2564
อย่างไรก็ตาม จะนำเสนอมติในครั้งนี้ให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 18 พ.ย.2563 ก่อนนำเรื่องเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป
