“บลูมเบิร์ก” รายงานอ้างสำนักข่าว German Press Agency DPA ระบุว่าของ ก.ต่างประเทศเยอรมนีได้แถลงว่าจากการตรวจสอบ “รัฐบาลเยอรมนี” ไม่พบหลักฐานที่ชี้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำผิดกฎหมายขณะทรงประทับในประเทศเยอรมนี
วานนี้ (12 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้รายงานข่าวอ้างสำนักข่าว German Press Agency DPA ระบุว่า กระทรวงต่างประเทศ แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้แถลงตอบกระทู้ถามจากสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนีว่า จากการตรวจสอบ รัฐบาลเยอรมนีไม่พบหลักฐานที่ชี้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กษัติรย์ของประเทศไทยทำผิดกฎหมายขณะทรงประทับในประเทศเยอรมนี
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา (27 ต.ค.) ผู้ประท้วงชาวไทยออกมาเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ยื่นหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีใน กทม. เรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีตรวจสอบว่า พระมหากษัตริย์ของไทยได้ใช้อำนาจอธิปไตยระหว่างเสด็จประทับที่ประเทศเยอรมนี ขัดต่อกฎหมายของเยอรมนีหรือไม่
รายงานอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศที่แถลงตอบกระทู้ถามจากสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนีระบุว่า “รัฐบาลเยอรมันไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่ากษัตริย์ไทยทรงตัดสินพระทัยลักษณะดังกล่าวระหว่างประทับในเยอรมนี”
นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศเยอรมนียังระบุด้วยว่า กระทรวงฯคาดหวังว่ากษัตริย์ไทยจะไม่ทรงตัดสินพระทัยใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมายเยอรมนี, กฎหมายระหว่างประเทศ หรือหลักสิทธิมนุษยชนในระดับนานาชาติ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วงเกือบ 4 เดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยเกิดการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก, ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้พยายามยื่นหนังสือถึงพระมหากษัตริย์โดยตรง เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุอีกว่า พระมหากษัตริย์ไทยได้ตรัสเมื่อไม่นานมานี้ (1 พ.ย.) ว่า ประเทศไทยเป็น “ดินแดนแห่งการประณีประนอม” และว่า “เรารักพวกเขาเหมือนกันหมด” เมื่อถูกถามถึงกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยยังคงไม่สามารถหยุดยั้งการประท้วงลงได้ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิเสธข้อเสนอเจรจา และประกาศที่จะเดินหน้าเคลื่อนไหวต่อไปจนกว่าข้อเรียกร้องจะได้รับการตอบสนอง
วานนี้ (12 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้รายงานข่าวอ้างสำนักข่าว German Press Agency DPA ระบุว่า กระทรวงต่างประเทศ แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้แถลงตอบกระทู้ถามจากสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนีว่า จากการตรวจสอบ รัฐบาลเยอรมนีไม่พบหลักฐานที่ชี้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กษัติรย์ของประเทศไทยทำผิดกฎหมายขณะทรงประทับในประเทศเยอรมนี
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา (27 ต.ค.) ผู้ประท้วงชาวไทยออกมาเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ยื่นหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีใน กทม. เรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีตรวจสอบว่า พระมหากษัตริย์ของไทยได้ใช้อำนาจอธิปไตยระหว่างเสด็จประทับที่ประเทศเยอรมนี ขัดต่อกฎหมายของเยอรมนีหรือไม่
รายงานอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศที่แถลงตอบกระทู้ถามจากสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนีระบุว่า “รัฐบาลเยอรมันไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่ากษัตริย์ไทยทรงตัดสินพระทัยลักษณะดังกล่าวระหว่างประทับในเยอรมนี”
นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศเยอรมนียังระบุด้วยว่า กระทรวงฯคาดหวังว่ากษัตริย์ไทยจะไม่ทรงตัดสินพระทัยใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมายเยอรมนี, กฎหมายระหว่างประเทศ หรือหลักสิทธิมนุษยชนในระดับนานาชาติ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วงเกือบ 4 เดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยเกิดการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก, ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้พยายามยื่นหนังสือถึงพระมหากษัตริย์โดยตรง เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุอีกว่า พระมหากษัตริย์ไทยได้ตรัสเมื่อไม่นานมานี้ (1 พ.ย.) ว่า ประเทศไทยเป็น “ดินแดนแห่งการประณีประนอม” และว่า “เรารักพวกเขาเหมือนกันหมด” เมื่อถูกถามถึงกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยยังคงไม่สามารถหยุดยั้งการประท้วงลงได้ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิเสธข้อเสนอเจรจา และประกาศที่จะเดินหน้าเคลื่อนไหวต่อไปจนกว่าข้อเรียกร้องจะได้รับการตอบสนอง