ผู้จัดการรายวัน360-“บิ๊กตู่” ขอไม่ชี้นำแก้วิกฤติประเทศ เชื่อทุกปัญหามีทางออก บนหลักของกฎหมาย คปส.ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ขอให้ใช้กฎหมายพิเศษจัดการ แต่ไม่ได้ยุทำรัฐประหาร “อานนท์”แกนนำคณะราษฎรแบะท่าประนีประนอม เพื่อหาทางออกร่วมกัน หลังเห็นความพยายามป้องกันการสูญเสีย ผบ.ทบ.ย้ำ “รัฐประหารติดลบ” เตือนเขตพระราชฐาน เหมือนบ้าน ไม่ต้องการให้ใครบุกรุก รุมถล่มม็อบคณะราษฎรเขียนจดหมาย “ราษฎรสาส์น” ถึงในหลวง ระบุเป็นการกระทำมิบังควร ท้าทาย ก้าวร้าว หยาบคาย ตำรวจเร่งตรวจสอบเนื้อหาเข้าข่ายความผิดหรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงกรณีการแก้ไขปัญหาและสร้างความปรองดอง ว่า ตนไม่เคยต้องไปชี้นำว่าจะต้องแก้ไขกันอย่างไร แต่เชื่อว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออกอยู่แล้ว ถ้าทุกคนจริงใจ และมาช่วยกันคิดและทำในสิ่งที่มีความเป็นไปได้และเป็นไปตามขั้นตอน กลไก และกฎหมายที่มีอยู่ เพราะเราอยู่กันด้วยกฎหมาย ทุกประเทศถ้าไม่มีกฎหมายก็อยู่กันไม่ได้ ประชาธิปไตยก็ต้องมีกฎหมายเป็นหลัก เพื่อที่จะทำให้ไม่เกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน
“เราต้องดำเนินการโดยหลักของความถูกต้อง บนหลักของกฎหมาย กติกาของบ้านเมือง แล้วต้องเป็นวิธีปฏิบัติที่คนส่วนใหญ่ของประเทศยอมรับได้อย่าลืมว่าเรามีประชากรเกือบ 70 ล้านคน ผมเองก็สนับสนุนทุกทางที่ใครจะเสนอหนทางออกให้กับประเทศไทยในหลากหลายความคิด ผมยืนยันว่าผมรับฟังทุกฝ่ายแล้วยังคิดว่าการร่วมพูดคุยอย่างเป็นทางการที่ดีที่สุดให้กับทุกปัญหา”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ส่วนกรณีกระแสข่าว 4 แกนนำผู้ชุมนุมขอลี้ภัยทางการเมืองไปสหรัฐฯ ตนยังไม่ทราบ แต่เห็นในโซเชียล ซึ่งไม่รู้ใครเขียน จึงยังไม่ทราบ แต่จะต้องมีเหตุผลในการขอลี้ภัย ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นอย่างไร
คปส.ยื่น “บิ๊กตู่”ใช้กฎหมายพิเศษแก้วิกฤต
ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงาน กพ. กลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (คปส.) นำโดยนายกฤตย์ เยี่ยมเมธากร เลขาธิการ คปส. ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ผ่านนายสุภรณ์ อัตถาวงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี
นายกฤตย์กล่าวว่า เราเป็นประชาชนส่วนหนึ่งของประเทศไทยที่อยู่ข้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีความเชื่อมั่นในตัวนายกฯ และเป็นกำลังใจในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ร้ายแรงของตามที่เห็นสมควร โดยเสนอให้ใช้กฎหมายพิเศษแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง แต่ไม่ได้ระบุว่าให้มีการรัฐประหาร ส่วนจะใช้กฎหมายใดนั้น อยู่ที่ผู้มีอำนาจจะเห็นสมควร โดยนายกฯ อาจปรึกษาประธานรัฐสภา และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
แกนนำคณะราษฎรแบะท่าประนีประนอม
นายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ทหารเขาก็เดาว่าม็อบจะยืมมือทหารฉีกรัฐธรรมนูญ เขาจึงไม่รัฐประหาร เพราะถ้าทำนี่ฉิบหายกันหมดทุกองคาพยพ ที่สำคัญ เขารู้ว่ามีคนเตรียมรัฐธรรมนูญอีกฉบับไว้ประกาศทันทีที่รัฐประหารแล้ว ทางออกของสังคมจึงเป็นการประนีประนอมอย่างที่ในหลวงบอกนั่นแหละ เพียงแต่จะอย่างไร เมื่อไรเท่านั้น ผมยังเห็นความพยายามของทั้งสองฝ่ายที่จะไม่ให้เกิดความสูญเสียอยู่ ขอให้ทั้งสองฝ่ายหนักแน่นจุดนี้ แล้วหาทางออกไปด้วยกัน
ผบ.ทบ.ตอบชัดรัฐประหารติดลบ
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุม เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า เห็นคลิปแล้วว่าเขาเตรียมอะไรมา คล้ายๆ ประทัดที่มีไฟ โยนข้ามรถบัส ถามว่าถ้าปล่อยพวกที่สร้างความรุนแรงเข้าไปขว้างใส่สถานที่สำคัญอย่างวัดพระแก้ว ศาลหลักเมือง ใครจะรับผิดชอบ ต้องมองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับส่วนรวมและประเทศชาติ ส่วนเขตพระราชฐาน ก็เหมือนบ้าน ทุกคนต่างก็รักบ้าน รักครอบครัวตัวเองและไม่ต้องการให้ใครบุกรุก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำว่า มีโอกาสรัฐประหารยังเป็นศูนย์อยู่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ติดลบ
ตรวจสอบเนื้อหา จม. เพื่อเอาผิดหากเข้าข่าย
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร จัดกิจกรรม “ราษฎรสาส์น” เขียนจดหมายใส่ตู้ไปรษณีย์จำลอง 4 ตู้ นำส่งถึงพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เมื่อค่ำวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ได้นำตู้จดหมายดังกล่าวเก็บไว้ที่ สน.ชนะสงคราม เพื่อนำไปประกอบการสอบสวน ส่วนจะดำเนินคดีกับผู้ที่เขียนจดหมายหรือไม่ ต้องดูเนื้อหาในจดหมายก่อนว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่
จวกม็อบกระทำการมิบังควร
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กถึงเรื่องนี้ว่า ผู้ชุมนุมทำกิจกรรมที่ไม่บังควร การเขียนจดหมายถึงองค์พระมหากษัตริย์ ข้อความในจดหมาย และลักษณะการทำกิจกรรม มีลักษณะท้าทาย ก้าวร้าว และหยาบคาย ไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหา จริงอยู่ผู้ชุมนุมอ้างว่าต้องการปฏิรูปสถาบันฯ แต่พฤติกรรมเป็นการทำลายสถาบันฯ ส่วนรัฐบาลก็หน่อมแน้ม เป็นใบ้ ไม่ชี้แจงตามสมควร ปล่อยให้ทุกอย่างพุ่งตรงสู่สถาบันฯ โดยไม่ยับยั้งแก้ไข การเป็นใบ้ ไม่ชี้แจง เหมือนกับรัฐบาลกำลังกลายเป็นแนวร่วมผู้บ่อนเซาะสถาบันฯ ไปโดยปริยาย
“หมอวรงค์”จี้รัฐบาลจัดการพวกเหิมเกริม
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า #ไม่ต้องทนอีกแล้ว การกระทำของกลุ่มคณะราษฎร ได้สร้างความเจ็บปวดรวดร้าว ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงมีพระเมตตา ไม่ถือสาเอาความ ไม่ให้ใช้ มาตรา 112 เพราะพระองค์ทรงรักประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แต่คนกลุ่มนี้กลับไม่สำนึก กำเริบเสิบสาน กระทำในสิ่งที่มิบังควร เหิมเกริม ถึงเวลาที่พวกเรา ประชาชนผู้ภักดี ต้องออกมารวมตัวกันอีกสักครั้งดีไหม? เพื่อร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาล ดำเนินคดีกับคนกลุ่มนี้ ด้วยกฎหมายมาตรา 112 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง
ซัดเนื้อหา “ราษฎรสาส์น” หยาบคาย ต่ำช้า
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรอง ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ม็อบงี่เง่า จดหมายที่ได้อ่าน หยาบคายต่ำช้ามาก นี่หรือคนที่มีการศึกษาทำกัน นี่หรืออนาคตของประเทศ นี่มันกุ๊ยชัดๆ จาบจ้วง ยะโสโอหัง ใครจะจ้างไปทำงาน ไม่รู้จักกาลเทศะ แถมโง่ต่างหาก จดหมายที่เรียกว่า ราษฎรสาส์น มันคือหลักฐานทางกฎหมายฟ้องตัวเอง จดหมายขยะ ทิ้งลงถังขยะมันก็ถูกต้องแล้ว เตือนสติตัวเอง ถามตัวเองว่า ทำอะไรลงไป อย่าให้ความเกลียดชัง อย่าให้ความสนุกบดบังลูกตา ปิดหูปิดตาตัวเอง จิตใจขุ่นมัว ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่าให้อีแอบจูงจมูก ทำตามที่มันสั่ง อย่าให้นักการเมืองและต่างชาติหลอกใช้ มีคดีความติดตัว มันไม่สนุกหรอก
“พุทธะอิสระ” ออกโรงบอกเกินไปแล้ว
พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า มีข่าวลับมาบอก มันจะห้าวเหิมเกริมกันเกินไปแล้ว! ม็อบคณะราษฎร หรือม็อบทรราชกันแน่ ถึงกับบังอาจจะบุกเข้าไปถึงประตูพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นในด้วยพฤติกรรมที่กักขฬะ ป่าเถื่อน ผิดวิสัยของเด็ก มันจะเหยียบย่ำหัวใจคนในชาตินี้กันเกินไปหรือเปล่า อธิบายก็แล้ว พูดก็แล้ว ขอร้องก็แล้วว่าอย่ามาก้าวล่วง สถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย พวกคุณจะเรียกร้องขับไล่รัฐบาล หรือแก้รัฐธรรมนูญ ก็ทำกันไป แต่อย่าบังอาจมาก้าวล่วงสถาบัน เมื่อพูดกันดีๆ ไม่รู้ภาษา ถ้างั้น คงต้องลงไม้เรียว ให้หลาบจำกันบ้าง เผื่อจะสำนึกได้ แล้วเจอกัน ให้มันจบกันไปในรุ่นนี้
จี้เอาผิดกลุ่มราษฎรเป็นปฏิปักษ์สถาบันฯ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีแกนนำกลุ่มราษฏร์ 63 เสนอให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ โดยมีข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันฯ 10 ข้อ และได้นำขึ้นกล่าวปลุกระดมมวลชนในสถานที่ชุมนุมต่างๆ หลายแห่ง ว่า ล้วนแต่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯ ทั้งสิ้น การกระทำของแกนนำกลุ่มราษฎร 63 จึงเท่ากับตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯ มิใช่เป็นการกระทำเพื่อปฏิรูปสถาบันฯ อย่างที่กล่าวอ้าง จึงเสนอให้ประชาชนที่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกับผู้ชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงกรณีการแก้ไขปัญหาและสร้างความปรองดอง ว่า ตนไม่เคยต้องไปชี้นำว่าจะต้องแก้ไขกันอย่างไร แต่เชื่อว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออกอยู่แล้ว ถ้าทุกคนจริงใจ และมาช่วยกันคิดและทำในสิ่งที่มีความเป็นไปได้และเป็นไปตามขั้นตอน กลไก และกฎหมายที่มีอยู่ เพราะเราอยู่กันด้วยกฎหมาย ทุกประเทศถ้าไม่มีกฎหมายก็อยู่กันไม่ได้ ประชาธิปไตยก็ต้องมีกฎหมายเป็นหลัก เพื่อที่จะทำให้ไม่เกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน
“เราต้องดำเนินการโดยหลักของความถูกต้อง บนหลักของกฎหมาย กติกาของบ้านเมือง แล้วต้องเป็นวิธีปฏิบัติที่คนส่วนใหญ่ของประเทศยอมรับได้อย่าลืมว่าเรามีประชากรเกือบ 70 ล้านคน ผมเองก็สนับสนุนทุกทางที่ใครจะเสนอหนทางออกให้กับประเทศไทยในหลากหลายความคิด ผมยืนยันว่าผมรับฟังทุกฝ่ายแล้วยังคิดว่าการร่วมพูดคุยอย่างเป็นทางการที่ดีที่สุดให้กับทุกปัญหา”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ส่วนกรณีกระแสข่าว 4 แกนนำผู้ชุมนุมขอลี้ภัยทางการเมืองไปสหรัฐฯ ตนยังไม่ทราบ แต่เห็นในโซเชียล ซึ่งไม่รู้ใครเขียน จึงยังไม่ทราบ แต่จะต้องมีเหตุผลในการขอลี้ภัย ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นอย่างไร
คปส.ยื่น “บิ๊กตู่”ใช้กฎหมายพิเศษแก้วิกฤต
ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงาน กพ. กลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (คปส.) นำโดยนายกฤตย์ เยี่ยมเมธากร เลขาธิการ คปส. ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ผ่านนายสุภรณ์ อัตถาวงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี
นายกฤตย์กล่าวว่า เราเป็นประชาชนส่วนหนึ่งของประเทศไทยที่อยู่ข้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีความเชื่อมั่นในตัวนายกฯ และเป็นกำลังใจในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ร้ายแรงของตามที่เห็นสมควร โดยเสนอให้ใช้กฎหมายพิเศษแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง แต่ไม่ได้ระบุว่าให้มีการรัฐประหาร ส่วนจะใช้กฎหมายใดนั้น อยู่ที่ผู้มีอำนาจจะเห็นสมควร โดยนายกฯ อาจปรึกษาประธานรัฐสภา และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
แกนนำคณะราษฎรแบะท่าประนีประนอม
นายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ทหารเขาก็เดาว่าม็อบจะยืมมือทหารฉีกรัฐธรรมนูญ เขาจึงไม่รัฐประหาร เพราะถ้าทำนี่ฉิบหายกันหมดทุกองคาพยพ ที่สำคัญ เขารู้ว่ามีคนเตรียมรัฐธรรมนูญอีกฉบับไว้ประกาศทันทีที่รัฐประหารแล้ว ทางออกของสังคมจึงเป็นการประนีประนอมอย่างที่ในหลวงบอกนั่นแหละ เพียงแต่จะอย่างไร เมื่อไรเท่านั้น ผมยังเห็นความพยายามของทั้งสองฝ่ายที่จะไม่ให้เกิดความสูญเสียอยู่ ขอให้ทั้งสองฝ่ายหนักแน่นจุดนี้ แล้วหาทางออกไปด้วยกัน
ผบ.ทบ.ตอบชัดรัฐประหารติดลบ
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุม เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า เห็นคลิปแล้วว่าเขาเตรียมอะไรมา คล้ายๆ ประทัดที่มีไฟ โยนข้ามรถบัส ถามว่าถ้าปล่อยพวกที่สร้างความรุนแรงเข้าไปขว้างใส่สถานที่สำคัญอย่างวัดพระแก้ว ศาลหลักเมือง ใครจะรับผิดชอบ ต้องมองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับส่วนรวมและประเทศชาติ ส่วนเขตพระราชฐาน ก็เหมือนบ้าน ทุกคนต่างก็รักบ้าน รักครอบครัวตัวเองและไม่ต้องการให้ใครบุกรุก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำว่า มีโอกาสรัฐประหารยังเป็นศูนย์อยู่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ติดลบ
ตรวจสอบเนื้อหา จม. เพื่อเอาผิดหากเข้าข่าย
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร จัดกิจกรรม “ราษฎรสาส์น” เขียนจดหมายใส่ตู้ไปรษณีย์จำลอง 4 ตู้ นำส่งถึงพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เมื่อค่ำวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ได้นำตู้จดหมายดังกล่าวเก็บไว้ที่ สน.ชนะสงคราม เพื่อนำไปประกอบการสอบสวน ส่วนจะดำเนินคดีกับผู้ที่เขียนจดหมายหรือไม่ ต้องดูเนื้อหาในจดหมายก่อนว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่
จวกม็อบกระทำการมิบังควร
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กถึงเรื่องนี้ว่า ผู้ชุมนุมทำกิจกรรมที่ไม่บังควร การเขียนจดหมายถึงองค์พระมหากษัตริย์ ข้อความในจดหมาย และลักษณะการทำกิจกรรม มีลักษณะท้าทาย ก้าวร้าว และหยาบคาย ไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหา จริงอยู่ผู้ชุมนุมอ้างว่าต้องการปฏิรูปสถาบันฯ แต่พฤติกรรมเป็นการทำลายสถาบันฯ ส่วนรัฐบาลก็หน่อมแน้ม เป็นใบ้ ไม่ชี้แจงตามสมควร ปล่อยให้ทุกอย่างพุ่งตรงสู่สถาบันฯ โดยไม่ยับยั้งแก้ไข การเป็นใบ้ ไม่ชี้แจง เหมือนกับรัฐบาลกำลังกลายเป็นแนวร่วมผู้บ่อนเซาะสถาบันฯ ไปโดยปริยาย
“หมอวรงค์”จี้รัฐบาลจัดการพวกเหิมเกริม
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า #ไม่ต้องทนอีกแล้ว การกระทำของกลุ่มคณะราษฎร ได้สร้างความเจ็บปวดรวดร้าว ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงมีพระเมตตา ไม่ถือสาเอาความ ไม่ให้ใช้ มาตรา 112 เพราะพระองค์ทรงรักประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แต่คนกลุ่มนี้กลับไม่สำนึก กำเริบเสิบสาน กระทำในสิ่งที่มิบังควร เหิมเกริม ถึงเวลาที่พวกเรา ประชาชนผู้ภักดี ต้องออกมารวมตัวกันอีกสักครั้งดีไหม? เพื่อร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาล ดำเนินคดีกับคนกลุ่มนี้ ด้วยกฎหมายมาตรา 112 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง
ซัดเนื้อหา “ราษฎรสาส์น” หยาบคาย ต่ำช้า
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรอง ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ม็อบงี่เง่า จดหมายที่ได้อ่าน หยาบคายต่ำช้ามาก นี่หรือคนที่มีการศึกษาทำกัน นี่หรืออนาคตของประเทศ นี่มันกุ๊ยชัดๆ จาบจ้วง ยะโสโอหัง ใครจะจ้างไปทำงาน ไม่รู้จักกาลเทศะ แถมโง่ต่างหาก จดหมายที่เรียกว่า ราษฎรสาส์น มันคือหลักฐานทางกฎหมายฟ้องตัวเอง จดหมายขยะ ทิ้งลงถังขยะมันก็ถูกต้องแล้ว เตือนสติตัวเอง ถามตัวเองว่า ทำอะไรลงไป อย่าให้ความเกลียดชัง อย่าให้ความสนุกบดบังลูกตา ปิดหูปิดตาตัวเอง จิตใจขุ่นมัว ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่าให้อีแอบจูงจมูก ทำตามที่มันสั่ง อย่าให้นักการเมืองและต่างชาติหลอกใช้ มีคดีความติดตัว มันไม่สนุกหรอก
“พุทธะอิสระ” ออกโรงบอกเกินไปแล้ว
พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า มีข่าวลับมาบอก มันจะห้าวเหิมเกริมกันเกินไปแล้ว! ม็อบคณะราษฎร หรือม็อบทรราชกันแน่ ถึงกับบังอาจจะบุกเข้าไปถึงประตูพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นในด้วยพฤติกรรมที่กักขฬะ ป่าเถื่อน ผิดวิสัยของเด็ก มันจะเหยียบย่ำหัวใจคนในชาตินี้กันเกินไปหรือเปล่า อธิบายก็แล้ว พูดก็แล้ว ขอร้องก็แล้วว่าอย่ามาก้าวล่วง สถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย พวกคุณจะเรียกร้องขับไล่รัฐบาล หรือแก้รัฐธรรมนูญ ก็ทำกันไป แต่อย่าบังอาจมาก้าวล่วงสถาบัน เมื่อพูดกันดีๆ ไม่รู้ภาษา ถ้างั้น คงต้องลงไม้เรียว ให้หลาบจำกันบ้าง เผื่อจะสำนึกได้ แล้วเจอกัน ให้มันจบกันไปในรุ่นนี้
จี้เอาผิดกลุ่มราษฎรเป็นปฏิปักษ์สถาบันฯ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีแกนนำกลุ่มราษฏร์ 63 เสนอให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ โดยมีข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันฯ 10 ข้อ และได้นำขึ้นกล่าวปลุกระดมมวลชนในสถานที่ชุมนุมต่างๆ หลายแห่ง ว่า ล้วนแต่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯ ทั้งสิ้น การกระทำของแกนนำกลุ่มราษฎร 63 จึงเท่ากับตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันฯ มิใช่เป็นการกระทำเพื่อปฏิรูปสถาบันฯ อย่างที่กล่าวอ้าง จึงเสนอให้ประชาชนที่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกับผู้ชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ