ผู้จัดการรายวัน360-อาจารย์นิด้าแฉข้อมูลลับ “แกนนำประท้วง” ทำเรื่องขอลี้ภัยการเมืองไปสหรัฐฯ แถม CIA ให้การรับรองคำขอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ไพศาล” ตั้งข้อสังเกตม็อบไม่มีแกนนำ เป็นเรื่องหลอกเด็ก ชี้มีคนวางแผนเบื้องหลัง “มายด์”เจอหมายเรียกเอาผิดยุยงปลุกปั่นชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี ศาลสั่งปล่อยตัว “อานนท์-สมยศ-เอกชัย-สุรนาถ” ยกคำร้องฝากขัง “รุ้ง” ม็อบรวมตัวตามนัด MRT ท่าพระ เจอระเบิดปิงปองป่วน ยัน 3 ข้อเรียกร้องเดิม ไม่ลดเพดาน “นิพิฎฐ์”เตือนสติม็อบรุ่นลูก อย่ารุนแรง ก้าวร้าว ระวังใช้ชีวิตในคุก “ศรีสุวรรณ”ร้องสอบ“จาตุรนต์”ปล่อยเฟกนิวส์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ได้โพสต์ข้อความผ่านทาง Arnond Sakworawich มีข้อความสรุปว่า พวกเด็กปลดแอก แกนนำจำนวนหลายคน ทำเรื่องขอลี้ภัยทางการเมืองไปอาศัยในสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทาง CIA รับรองคำขอลี้ภัยให้เด็กพวกนี้จะได้ไปชุบตัว เรียนหนังสือต่อ ด้วยทุนของสหรัฐฯ แล้วคงกลับมาเป็นอาจารย์ธรรมศาสตร์ ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ หลังจากโพสต์ข้อความดังกล่าว ได้มีการถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน และเป็นที่น่าสังเกตว่า การโพสต์ในครั้งนี้ อาจเป็นความลับสุดยอดของแกนนำผู้ประท้วง ที่มีนักการเมืองคอยหนุนหลัง ซึ่งได้มีการเตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ล่วงหน้า เพราะหากการปลุกระดมเด็กและเยาวชนในการชุมนุมไม่เป็นผลสำเร็จ ก็จะขอลี้ภัยไปอยู่ในประเทศที่ให้การสนับสนุนกลุ่มแกนนำเหล่านี้
ชี้ม็อบไม่มีแกนนำเป็นเรื่องหลอกเด็ก
นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงการชุมนุมทางการเมือง โดยมีเนื้อหาโดยสรุปว่า เรื่องทุกคนมากันเอง เป็นม็อบไม่มีแกนนำ หลอกเด็กชัดๆ เพราะการชุมนุมทุกครั้ง มีแกนนำที่คนไม่รู้จักวางแผนกำหนดสถานที่และนัดหมาย , มีการควบคุมม็อบอยู่เป็นช่วงๆ ใช้รหัสสั่งการ , มีการจัดรถปราศรัยและคณะผู้ปราศรัยตามแนวทางที่กำหนด , ผู้ที่ทำตัวเป็นแกนนำเปิด ถูกกำหนดขึ้นมา , การพูด การแสดงออก มีการกำหนดกันไว้ก่อน , มีการจัดกำลังบำรุง ทั้งอาหาร ร่ม หมวก และการเคลื่อนไหวไม่มีเสรีภาพ แม้ผู้ชุมนุมบางกลุ่มยอดลดเพดานข้อเรียกร้อง แต่แกนนำระดับที่เหนือกว่าไม่ยอมรับ ยืนยัน 3 ข้อเหมือนเดิม พร้อมย้ำว่า เขาหลอกเด็กไปติดคุก ต้องคดี เสียอนาคตมามากแล้ว อย่ายอมเป็นเครื่องมือพวกลวงโลกเลย
“มายด์”รับหมายเรียกชุมนุมหน้าสถานทูต
น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ ได้โพสต์ภาพหมายเรียกจาก สน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “หมายเรียกจากการชุมนุมหน้าสถานทูตมาถึงแล้วค่ะ” โดยในเอกสารฉบับดังกล่าวระบุว่าเป็นหมายเรียกผู้ต้องหาครั้งที่ 1 มีการระบุข้อหาว่า ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน (ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116) พร้อมระบุให้ น.ส.ภัสราวลี ไปรายงานตัวตามหมายเรียกที่ สน.ทุ่มมหาเมฆ ในวันที่ 5 พ.ย. 2563 เวลา 13.00 น.
สำหรับหมายเรียกดังกล่าว เกิดจากกรณีวันที่ 26 ต.ค.2563 ที่กลุ่มราษฎรได้นัดรวมตัวกันบริเวณสามย่าน ก่อนจะร่วมกันเดินเท้าไปที่สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี โดยในวันนั้น น.ส.ภัสราวลี เป็นหนึ่งในคนที่ร่วมปราศรัยและแถลงการณ์
ปล่อยตัว “อานนท์-สมยศ-เอกชัย-สุรนาถ”
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ศาลอาญายกคำร้องขอฝากขังนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข , นายเอกชัย หงส์กังวาน , นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ และนายอานนท์ นำภา หลังทั้ง 4 ถูกคุมขังเกือบ 20 วัน โดยทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ยกคำร้องฝากขัง “รุ้ง” พร้อมเพิกถอนหมายจับ
ที่ศาลเเขวงปทุมวัน พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวันยื่นผัดฟ้องฝากขัง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง 2 สำนวน กรณีผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน นำมวลชนชุมนุมที่สกายวอล์ค สี่แยกปทุมวัน เป็นความผิดเรื่องการชุมนุมใน 2 เหตุการณ์ โดยศาลยกคำร้องขอฝากขัง อนุญาตให้ผัดฟ้องได้ 6 วันและให้เพิกถอนหมายจับผู้ต้องหาออกจากฐานข้อมูล
ม็อบราษฎรยัน 3 ข้อเรียกร้องเดิม
วันเดียวกันนี้ เครือข่ายม็อบราษฎร ประกาศนัดชุมนุมผ่านกรุ๊ปเทเลแกรม ที่ MRT ท่าพระ โดยระบุข้อความว่า “เรายันยืนยันข้อเรียกร้องเดิม 3 ข้อ และจะไม่มีการลดเพดานอย่างแน่นอน 1.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออก 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.ปฏิรูปสถาบัน
ทั้งนี้ ระหว่างที่มีการปราศรัย ได้เกิดเสียงคล้ายปืนหรือประทัด ใกล้พื้นที่ชุมนุม ซึ่งตรวจสอบพบเป็นประทัดปิงปองตกอยู่ใต้สถานี MRT ท่าพระ
“นิพิฎฐ์”ทำจดหมายถึงลูกเตือนสติ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จดหมายถึงลูก ลูกในที่นี้คือผู้ชุมนุม ที่ผมเรียกลูกเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกผม โดยมีใจความสรุปว่า เห็นการชุมนุมประท้วงของลูกๆ เลยเถิดไปพอสมควร โดยเฉพาะเห็นภาพการถูกจับกุมในแต่ละวันแล้ว คาดการณ์ได้ว่าลูกๆ หลายคนคงต้องใช้เรือนจำเป็นที่พักพิงไปคนละหลายปี พร้อมเสนอแนะว่า ต้องลดความรุนแรง ก้าวร้าว และหยาบคายลง จะน่ารักขึ้นเยอะ อย่าง อ.ปิยบุตร เขาพูดหลบไปหลบมา ดูๆ ยังเอาผิดเขาไม่ได้ แต่พวกหนู ขึ้นเวที 3 นาที ติดคุกได้ 5 ปีสบายๆ ส่วนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เห็นด้วย 100% และเรื่องล้อมทำเนียบ หรือสถานที่ราชการ ขอให้คิดให้หนัก ถ้าทำให้เข้าไปทำงานไม่ได้ ลองคิดดูอย่างสหรัฐฯ ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ เขาจะทำอย่างไร
ร้องสอบ“จาตุรนต์”ปล่อยเฟกนิวส์
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ณัฐไชยเฉลิม วงศ์ใหญ่ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. พร้อมมอบหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.ศึกษาธิการ และอดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ กรณีตำหนิการอายัดตัวนายภานุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ไปยัง สน.ประชาชื่น เพื่อลงบันทึกการจับกุม ซึ่งเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550
“ไพบูลย์”ชงทำประชามติหยุดชุมนุม 2 ปี
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ได้เสนอทางออกในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองขั้นรุนแรงของไทย โดยให้มีการออกเสียงประชามติถามประชาชนว่าเห็นอย่างไร หากรัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดกับการชุมนุมที่มีการก้าวล่วง และใช้มาตรการทางกฎหมายห้ามชุมนุมการเมืองเป็นระยะเวลา 2 ปี นับจากวันออกเสียงประชามติ เพื่อให้รัฐบาลมีเวลาช่วยเหลือประชาชน และเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ได้โพสต์ข้อความผ่านทาง Arnond Sakworawich มีข้อความสรุปว่า พวกเด็กปลดแอก แกนนำจำนวนหลายคน ทำเรื่องขอลี้ภัยทางการเมืองไปอาศัยในสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทาง CIA รับรองคำขอลี้ภัยให้เด็กพวกนี้จะได้ไปชุบตัว เรียนหนังสือต่อ ด้วยทุนของสหรัฐฯ แล้วคงกลับมาเป็นอาจารย์ธรรมศาสตร์ ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ หลังจากโพสต์ข้อความดังกล่าว ได้มีการถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน และเป็นที่น่าสังเกตว่า การโพสต์ในครั้งนี้ อาจเป็นความลับสุดยอดของแกนนำผู้ประท้วง ที่มีนักการเมืองคอยหนุนหลัง ซึ่งได้มีการเตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ล่วงหน้า เพราะหากการปลุกระดมเด็กและเยาวชนในการชุมนุมไม่เป็นผลสำเร็จ ก็จะขอลี้ภัยไปอยู่ในประเทศที่ให้การสนับสนุนกลุ่มแกนนำเหล่านี้
ชี้ม็อบไม่มีแกนนำเป็นเรื่องหลอกเด็ก
นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงการชุมนุมทางการเมือง โดยมีเนื้อหาโดยสรุปว่า เรื่องทุกคนมากันเอง เป็นม็อบไม่มีแกนนำ หลอกเด็กชัดๆ เพราะการชุมนุมทุกครั้ง มีแกนนำที่คนไม่รู้จักวางแผนกำหนดสถานที่และนัดหมาย , มีการควบคุมม็อบอยู่เป็นช่วงๆ ใช้รหัสสั่งการ , มีการจัดรถปราศรัยและคณะผู้ปราศรัยตามแนวทางที่กำหนด , ผู้ที่ทำตัวเป็นแกนนำเปิด ถูกกำหนดขึ้นมา , การพูด การแสดงออก มีการกำหนดกันไว้ก่อน , มีการจัดกำลังบำรุง ทั้งอาหาร ร่ม หมวก และการเคลื่อนไหวไม่มีเสรีภาพ แม้ผู้ชุมนุมบางกลุ่มยอดลดเพดานข้อเรียกร้อง แต่แกนนำระดับที่เหนือกว่าไม่ยอมรับ ยืนยัน 3 ข้อเหมือนเดิม พร้อมย้ำว่า เขาหลอกเด็กไปติดคุก ต้องคดี เสียอนาคตมามากแล้ว อย่ายอมเป็นเครื่องมือพวกลวงโลกเลย
“มายด์”รับหมายเรียกชุมนุมหน้าสถานทูต
น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ ได้โพสต์ภาพหมายเรียกจาก สน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “หมายเรียกจากการชุมนุมหน้าสถานทูตมาถึงแล้วค่ะ” โดยในเอกสารฉบับดังกล่าวระบุว่าเป็นหมายเรียกผู้ต้องหาครั้งที่ 1 มีการระบุข้อหาว่า ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน (ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116) พร้อมระบุให้ น.ส.ภัสราวลี ไปรายงานตัวตามหมายเรียกที่ สน.ทุ่มมหาเมฆ ในวันที่ 5 พ.ย. 2563 เวลา 13.00 น.
สำหรับหมายเรียกดังกล่าว เกิดจากกรณีวันที่ 26 ต.ค.2563 ที่กลุ่มราษฎรได้นัดรวมตัวกันบริเวณสามย่าน ก่อนจะร่วมกันเดินเท้าไปที่สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี โดยในวันนั้น น.ส.ภัสราวลี เป็นหนึ่งในคนที่ร่วมปราศรัยและแถลงการณ์
ปล่อยตัว “อานนท์-สมยศ-เอกชัย-สุรนาถ”
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ศาลอาญายกคำร้องขอฝากขังนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข , นายเอกชัย หงส์กังวาน , นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ และนายอานนท์ นำภา หลังทั้ง 4 ถูกคุมขังเกือบ 20 วัน โดยทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ยกคำร้องฝากขัง “รุ้ง” พร้อมเพิกถอนหมายจับ
ที่ศาลเเขวงปทุมวัน พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวันยื่นผัดฟ้องฝากขัง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง 2 สำนวน กรณีผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน นำมวลชนชุมนุมที่สกายวอล์ค สี่แยกปทุมวัน เป็นความผิดเรื่องการชุมนุมใน 2 เหตุการณ์ โดยศาลยกคำร้องขอฝากขัง อนุญาตให้ผัดฟ้องได้ 6 วันและให้เพิกถอนหมายจับผู้ต้องหาออกจากฐานข้อมูล
ม็อบราษฎรยัน 3 ข้อเรียกร้องเดิม
วันเดียวกันนี้ เครือข่ายม็อบราษฎร ประกาศนัดชุมนุมผ่านกรุ๊ปเทเลแกรม ที่ MRT ท่าพระ โดยระบุข้อความว่า “เรายันยืนยันข้อเรียกร้องเดิม 3 ข้อ และจะไม่มีการลดเพดานอย่างแน่นอน 1.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออก 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.ปฏิรูปสถาบัน
ทั้งนี้ ระหว่างที่มีการปราศรัย ได้เกิดเสียงคล้ายปืนหรือประทัด ใกล้พื้นที่ชุมนุม ซึ่งตรวจสอบพบเป็นประทัดปิงปองตกอยู่ใต้สถานี MRT ท่าพระ
“นิพิฎฐ์”ทำจดหมายถึงลูกเตือนสติ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จดหมายถึงลูก ลูกในที่นี้คือผู้ชุมนุม ที่ผมเรียกลูกเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกผม โดยมีใจความสรุปว่า เห็นการชุมนุมประท้วงของลูกๆ เลยเถิดไปพอสมควร โดยเฉพาะเห็นภาพการถูกจับกุมในแต่ละวันแล้ว คาดการณ์ได้ว่าลูกๆ หลายคนคงต้องใช้เรือนจำเป็นที่พักพิงไปคนละหลายปี พร้อมเสนอแนะว่า ต้องลดความรุนแรง ก้าวร้าว และหยาบคายลง จะน่ารักขึ้นเยอะ อย่าง อ.ปิยบุตร เขาพูดหลบไปหลบมา ดูๆ ยังเอาผิดเขาไม่ได้ แต่พวกหนู ขึ้นเวที 3 นาที ติดคุกได้ 5 ปีสบายๆ ส่วนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เห็นด้วย 100% และเรื่องล้อมทำเนียบ หรือสถานที่ราชการ ขอให้คิดให้หนัก ถ้าทำให้เข้าไปทำงานไม่ได้ ลองคิดดูอย่างสหรัฐฯ ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ เขาจะทำอย่างไร
ร้องสอบ“จาตุรนต์”ปล่อยเฟกนิวส์
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ณัฐไชยเฉลิม วงศ์ใหญ่ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. พร้อมมอบหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.ศึกษาธิการ และอดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ กรณีตำหนิการอายัดตัวนายภานุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ไปยัง สน.ประชาชื่น เพื่อลงบันทึกการจับกุม ซึ่งเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550
“ไพบูลย์”ชงทำประชามติหยุดชุมนุม 2 ปี
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ได้เสนอทางออกในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองขั้นรุนแรงของไทย โดยให้มีการออกเสียงประชามติถามประชาชนว่าเห็นอย่างไร หากรัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดกับการชุมนุมที่มีการก้าวล่วง และใช้มาตรการทางกฎหมายห้ามชุมนุมการเมืองเป็นระยะเวลา 2 ปี นับจากวันออกเสียงประชามติ เพื่อให้รัฐบาลมีเวลาช่วยเหลือประชาชน และเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19