xs
xsm
sm
md
lg

“สุพัฒนพงษ์”ลุยโรงไฟฟ้าขยะ เปิดรับซื้อ400เมกะวัตต์ปี64

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360-“สุพัฒนพงษ์”ย้ำเดินหน้าแผนซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ตามแผน PDP ที่กำหนดไว้ เตรียมออกมาตรการส่งเสริมรับซื้อไฟฟ้า FiT ภายในไตรมาส 3 ปี 64 ก่อนจ่ายไฟเข้าระบบปี 65 ด้านกองทุนอนุรักษ์พลังงานเคาะงบประมาณปี 64 วงเงิน 6,500 ล้านบาท เตรียมเปิดให้ยื่นขอเงินสนับสนุนได้ถึงธ.ค.63

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยระหว่างการลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่ จังหวัดภูเก็ต เพื่อเยี่ยมชมกระบวนการผลิตไฟฟ้าของศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ต ว่า กระทรวงพลังงานพร้อมสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากขยะตามแผนที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP 2018 rev.1) ที่สอดรับกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP 2018) ซึ่งกำหนดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ โดยเตรียมออกมาตรการส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้า Feed-in Tariff (FiT) เปิดให้เอกชนยื่นขายไฟ ภายในไตรมาส 3 ปี 2564 เพื่อให้จ่ายไฟเข้าระบบได้ภายในปี 2565 ซึ่งนอกจากจะเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานแล้ว ยังจะช่วยในเรื่องสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีปัญหาเรื่องการจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

สำหรับการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของภูเก็ตในปีงบประมาณ 2563 มีขยะมูลฝอยเข้าสู่ศูนย์กำจัดขยะเฉลี่ย 833 ตัน/วัน ลดลง 13.5% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลจากปริมาณนักท่องเที่ยวลดลงจากผลกระทบโควิด-19 ทำให้ประชากรแฝง หรือผู้มาทำงานอยู่อาศัยลดลง

ทั้งนี้ จ.ภูเก็ตมีโรงเตาเผาขยะมูลฝอย 2 โรง ได้แก่ 1.โรงเตาเผาขยะมูลฝอยชุมชน 1 เป็นเตาเผาที่กรมโยธาธิการและผังเมืองถ่ายโอนให้เทศบาลนครภูเก็ตดูแล งบประมาณ 788 ล้านบาท กำลังผลิตไฟฟ้าสูงสุด 2.5 เมกะวัตต์ ผลิตไฟฟ้า 144 หน่วย/ตันขยะ ปัจจุบันหยุดการดำเนินการ อยู่ระหว่างเสนอขออนุมัติให้เอกชนร่วมดำเนินการ และ 2.เป็นเตาเผาที่บริษัท พีเจทีเทคโนโลยี เป็นผู้รับสัญญาดำเนินการตั้งแต่ปี 2555 งบประมาณ 994 ล้านบาท กำลังผลิตไฟฟ้าสูงสุด 12 เมกะวัตต์ ผลิตไฟฟ้า 350 หน่วย/ตันขยะ

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2563 ได้เห็นชอบกรอบการใช้เงินกองทุนฯ งบประมาณ 2564 วงเงิน 6,500 ล้าน ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนการสร้างงานและสร้างรายได้ รวมถึงให้ความสำคัญในภาคส่วนต่างๆ เช่น กลุ่มโรงงาน อุตสาหกรรม อาคาร บ้านอยู่อาศัย การสร้างงานวิจัย สร้างนวัตกรรมใหม่ และการสร้างบุคลากร โดยหลังจากนี้จะเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ภายในเดือนพ.ย.2563 คาดว่าจะสามารถประกาศยุทธศาสตร์การจัดสรร และประกาศเปิดรับข้อเสนอโครงการได้ประมาณเดือนธ.ค.2563

ส่วนกรอบวงเงินสนับสนุน แบ่งเป็น 7 กลุ่มงานย่อย ได้แก่ กลุ่มงานตามกฎหมาย 200 ล้านบาท , กลุ่มงานสนับสนุนนโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน 500 ล้านบาท , กลุ่มงานศึกษา ค้นคว้าวิจัย นวัตกรรม และสาธิตต้นแบบ วงเงินสนับสนุน 355 ล้านบาท , กลุ่มงานสื่อสาร และข้อมูล ข่าวสาร วงเงินสนับสนุน 200 ล้านบาท , กลุ่มงานพัฒนาบุคลากร 450 ล้านบาท , กลุ่มงานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในกลุ่มโรงงาน อุตสาหกรรม อาคาร บ้านอยู่อาศัย ภาคขนส่ง ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่ และพื้นที่พิเศษ 2,200 ล้านบาท และกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก 2,400 ล้านบาท ส่วนแผนบริหารจัดการโดยสำนักงานกองทุนฯ อยู่ที่ 195 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น