ผู้จัดการรายวัน360-“ศักดิ์สยาม”เร่งวางโครงข่ายพัฒนาระบบคมนาคมภูเก็ต ผลักดันทางด่วนกระทู้-ป่าตอง และรถไฟฟ้ารางเบา กำชับ รฟม. ประมูลเปิดกว้าง แข่งขันเต็มที่ เพื่อลดต้นทุนและค่าโดยสารที่ถูกลง ด้านทางหลวงเตรียมเวนคืน 1.1 หมื่นล้าน ตัดถนน 4 เลนแนวใหม่ แก้จราจรติดขัด
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน (ภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงา ระนอง และสตูล) โดยมีโครงการสำคัญที่จะเร่งรัด ได้แก่ โครงการทางพิเศษ สายกะทู้-ป่าตอง โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง โครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่ สายเมืองใหม่-เกาะแก้ว โครงการก่อสร้างทางโครงการพัฒนาโครงข่าย ทล.4027 ท่าอากาศยานภูเก็ต-ท่าเรืออ่าวปอ ตอนบ้านพารา-บ้านเมืองใหม่ กม.14+000-กม.19+538 รวมทางแนวใหม่เข้าบรรจบ ทล.4026 (แยกสนามบิน) เป็นต้น
“ได้มอบนโยบายในการศึกษารายละเอียดของเส้นทางและปริมาณของผู้ใช้บริการในโครงการต่างๆ โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดรอบคอบ รวมทั้งศึกษาการใช้เทคโนโลยีให้ทันกับปัจจุบัน เนื่องจาก จะมีผลต่อโครงการและการกำหนดอัตราค่าโดยสาร และหากสามารถลดต้นทุนของโครงการลงได้ จะส่งผลทำให้ค่าโดยสารถูกลง”
ทั้งนี้ ยังได้ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ทบทวนการจัดทำเอกสารข้อเสนอ RFP ในการดำเนินโครงการโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตที่เปิดกว้างให้บริษัทเข้าร่วมเสนองานในรูปแบบที่เหมาะสมกับปัจจุบัน เพื่อทำให้โครงการมีต้นทุนที่ลดลง และให้ความสำคัญในด้านมาตรการความปลอดภัยจากการใช้เส้นทางด้วย
สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทางรวม 41.7 กม. กรอบวงเงินลงทุนเบื้องต้น 35,201 ล้านบาท รฟม.อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลนำเสนอกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเห็นชอบหลักการ และรายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการตามพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ซึ่งจะใช้รูปแบบ PPP Net Cost โดยรัฐลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และเอกชนลงทุนค่าก่อสร้างงานโยธา งานระบบ และขบวนรถไฟฟ้า และให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาเป็นระยะเวลา 30 ปี รวมทั้งเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร และรับความเสี่ยงด้านรายได้ค่าโดยสาร โดยรัฐจะสนับสนุนเอกชนในส่วนของค่าก่อสร้างงานโยธา คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2566 และเปิดให้บริการในปี 2569
ส่วนโครงการทางพิเศษ สายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต มูลค่าลงทุนโครงการ 14,177.22 ล้านบาท คาดว่าจะนำเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และเสนอ ครม. อนุมัติในหลักการ และอนุมัติร่าง พ.ร.ฎ.เวนคืนในช่วงต้นปี 2564 เริ่มก่อสร้างปี 2566 แล้วเสร็จในปี 2570 โดยจะเป็นเส้นทางที่จะอำนวยความสะดวกและลดอุบัติเหตุ ในการเดินทางจากอำเภอกะทู้ไปยังหาดป่าตองให้กับคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางต้องใช้ ทล.4029 ซึ่งมีขนาด 2 ช่องจราจร ผ่านภูเขามีความคดเคี้ยวและลาดชันสูง รวมทั้งใช้เป็นเส้นทางอพยพกรณีเกิดภัยพิบัติ เช่น กรณีเกิดสึนามิ เป็นต้น
ด้านกรมทางหลวง มีโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่ เพื่อแก้ปัญหาจราจรไปยังสนามบินภูเก็ต โดยได้จ้างที่ปรึกษาเพื่อสำรวจและออกแบบรายละเอียดทางหลวง 4 ช่องจราจรแนวใหม่ สายบ้านสาคู-บ้านเกาะแก้ว ระยะทาง 22.4 กม. วงเงินค่าก่อสร้าง 11,568 ล้านบาท ค่าเวนคืน 11,150 ล้านบาท ซึ่งเป็นแนววงแหวนด้านเหนือของภูเก็ต โดยรายงาน EIA อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะสามารถขอรับการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างได้ในปี 2567 เปิดให้บริการในปี 2569
นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวง 4027 เป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 20.8 กม. ค่าก่อสร้าง 1,200 ล้านบาท ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 1,150 ล้านบาท , โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับที่จุดตัด ทล.402 กับ ทล.4027 (แยกท่าเรือ) เพื่อแก้ปัญหาการจราจรวงเวียนที่ตั้งของอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร โดยปี 2564 ได้รับงบ 18 ล้านบาท เพื่อออกแบบรายละเอียดและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน (ภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงา ระนอง และสตูล) โดยมีโครงการสำคัญที่จะเร่งรัด ได้แก่ โครงการทางพิเศษ สายกะทู้-ป่าตอง โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง โครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่ สายเมืองใหม่-เกาะแก้ว โครงการก่อสร้างทางโครงการพัฒนาโครงข่าย ทล.4027 ท่าอากาศยานภูเก็ต-ท่าเรืออ่าวปอ ตอนบ้านพารา-บ้านเมืองใหม่ กม.14+000-กม.19+538 รวมทางแนวใหม่เข้าบรรจบ ทล.4026 (แยกสนามบิน) เป็นต้น
“ได้มอบนโยบายในการศึกษารายละเอียดของเส้นทางและปริมาณของผู้ใช้บริการในโครงการต่างๆ โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดรอบคอบ รวมทั้งศึกษาการใช้เทคโนโลยีให้ทันกับปัจจุบัน เนื่องจาก จะมีผลต่อโครงการและการกำหนดอัตราค่าโดยสาร และหากสามารถลดต้นทุนของโครงการลงได้ จะส่งผลทำให้ค่าโดยสารถูกลง”
ทั้งนี้ ยังได้ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ทบทวนการจัดทำเอกสารข้อเสนอ RFP ในการดำเนินโครงการโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตที่เปิดกว้างให้บริษัทเข้าร่วมเสนองานในรูปแบบที่เหมาะสมกับปัจจุบัน เพื่อทำให้โครงการมีต้นทุนที่ลดลง และให้ความสำคัญในด้านมาตรการความปลอดภัยจากการใช้เส้นทางด้วย
สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทางรวม 41.7 กม. กรอบวงเงินลงทุนเบื้องต้น 35,201 ล้านบาท รฟม.อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลนำเสนอกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเห็นชอบหลักการ และรายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการตามพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ซึ่งจะใช้รูปแบบ PPP Net Cost โดยรัฐลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และเอกชนลงทุนค่าก่อสร้างงานโยธา งานระบบ และขบวนรถไฟฟ้า และให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาเป็นระยะเวลา 30 ปี รวมทั้งเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร และรับความเสี่ยงด้านรายได้ค่าโดยสาร โดยรัฐจะสนับสนุนเอกชนในส่วนของค่าก่อสร้างงานโยธา คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2566 และเปิดให้บริการในปี 2569
ส่วนโครงการทางพิเศษ สายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต มูลค่าลงทุนโครงการ 14,177.22 ล้านบาท คาดว่าจะนำเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และเสนอ ครม. อนุมัติในหลักการ และอนุมัติร่าง พ.ร.ฎ.เวนคืนในช่วงต้นปี 2564 เริ่มก่อสร้างปี 2566 แล้วเสร็จในปี 2570 โดยจะเป็นเส้นทางที่จะอำนวยความสะดวกและลดอุบัติเหตุ ในการเดินทางจากอำเภอกะทู้ไปยังหาดป่าตองให้กับคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางต้องใช้ ทล.4029 ซึ่งมีขนาด 2 ช่องจราจร ผ่านภูเขามีความคดเคี้ยวและลาดชันสูง รวมทั้งใช้เป็นเส้นทางอพยพกรณีเกิดภัยพิบัติ เช่น กรณีเกิดสึนามิ เป็นต้น
ด้านกรมทางหลวง มีโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่ เพื่อแก้ปัญหาจราจรไปยังสนามบินภูเก็ต โดยได้จ้างที่ปรึกษาเพื่อสำรวจและออกแบบรายละเอียดทางหลวง 4 ช่องจราจรแนวใหม่ สายบ้านสาคู-บ้านเกาะแก้ว ระยะทาง 22.4 กม. วงเงินค่าก่อสร้าง 11,568 ล้านบาท ค่าเวนคืน 11,150 ล้านบาท ซึ่งเป็นแนววงแหวนด้านเหนือของภูเก็ต โดยรายงาน EIA อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะสามารถขอรับการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างได้ในปี 2567 เปิดให้บริการในปี 2569
นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวง 4027 เป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 20.8 กม. ค่าก่อสร้าง 1,200 ล้านบาท ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 1,150 ล้านบาท , โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับที่จุดตัด ทล.402 กับ ทล.4027 (แยกท่าเรือ) เพื่อแก้ปัญหาการจราจรวงเวียนที่ตั้งของอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร โดยปี 2564 ได้รับงบ 18 ล้านบาท เพื่อออกแบบรายละเอียดและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม