xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่”รับปวดใจสมุยเงียบ เร่งคลายล็อกดึงนักท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360- “บิ๊กตู่”ลงพื้นที่สนามบินนานาชาติสมุย ก่อนประชุม ครม.สัญจรภูเก็ต ตรวจความพร้อมมาตรการคัดกรองโควิด-19 รองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ย้ำต้องพลิกวิกฤตเป็นโอกาสเพื่อดึงต่างชาติมาท่องเที่ยว รับเจ็บปวดใจ เมื่อเห็นธุรกิจในสมุยเงียบเหงา ยันจะเดินหน้าฟื้นท่องเที่ยวภาคใต้ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ย้ำผ่อนคลายปลดล็อกแบบค่อยเป็นค่อยไป หวั่นปล่อยทีเดียว มีโอกาสซูเปอร์สเปรดเดอร์ ก่อนร้องเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” ส่งท้าย “อนุทิน”เผยสนามบินสมุย-ภูเก็ต พร้อมเต็มสูบ มั่นใจคุมโควิด-19 ได้ ทำท่องเที่ยวฟื้นตัวแน่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจความพร้อมมาตรการคัดกรองโรคโควิด-19 รองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย และท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 2-3 พ.ย.2563

นายกรัฐมนตรี ได้ตรวจมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวท่องเที่ยวต่างชาติ ในระบบ ALSQ (Alternative Local State Quarantine) บริเวณสนามบินเกาะสมุย ซึ่งมีขั้นตอนที่ถูกกำหนดไว้ ทั้งการคัดกรองโรค วัดอุณหภูมิ จากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตรวจเอกสารเดินทางเข้าประเทศ และการผ่านตรวจคนเข้าเมือง การส่งขึ้นรถโดยสารต่อไปยังโรงแรมที่เข้าร่วม ALSQ โดยทางสาธารณสุข อ.เกาะสมุย ยืนยันถึงความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยว มีโรงแรม 7 แห่งเข้าร่วม มากกว่า 200 ห้อง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เมื่อเกิดวิกฤติแล้วต้องทำให้เป็นโอกาส และทุกอย่างนั้นจะต้องออกมาดี เมื่อต่างชาติเห็น ก็อยากจะมาท่องเที่ยว

จากนั้นนายกฯ ได้เยี่ยมชมห้องพักของโรงแรมเชอราตัน สมุยรีสอร์ท ที่เข้าร่วม ALSQ ก่อนตรวจระบบติดตามผู้เดินทางเข้าออกภายในเกาะสมุย ที่สำนักงานเทศบาลนครเกาะสมุย ตรวจศูนย์ควบคุมกล้องวงจรปิด ใช้ระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสง และกล้องโทรทัศน์วงจรปิดชนิดเครือข่ายสำหรับใช้ในงานรักษาความปลอดภัยและวิเคราะห์ภาพ จำนวน 1,044 ตัว พร้อมห้องควบคุม

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปพบปะประชาชน ที่วัดพระเจดีย์แหลมสอ ต.หน้าเมือง อ.เกาะสมุย โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามดำเนินการหลายอย่างเพื่อวางพื้นฐานทุกจังหวัด ก่อนมีโควิด-19 แต่วันนี้ไม่สบายใจ เพราะเห็นครั้งที่แล้วที่เคยมากับวันนี้เปลี่ยนไปเยอะ กิจร้านค้าต่างๆ เงียบเหงา ทำให้เจ็บปวดหัวใจ และเป็นสิ่งที่เราต้องมาพัฒนา เพื่อทำให้การท่องเที่ยวภาคใต้กลับมาคึกคักอีกครั้ง จึงมาประชุมครม.ในพื้นที่ภาคใต้ และได้ให้ ครม.ไปเยี่ยมเยือนพื้นที่ต่างๆ พร้อมกระจายตรวจ ติดตามปัญหาในนามพรรคร่วมรัฐบาล

“ผมจะทำให้เต็มที่ เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปให้ได้ โดยจะผ่อนคลายปลดล็อกระยะแรกก่อน วันนี้มีอาเซียนและจีนจะเข้ามาในระยะแรก ต่อไปก็จะมากขึ้นในอนาคต จึงต้องเตรียมการเป็นขั้นตอน หากปล่อยทีเดียวทั้งหมด มีโอกาสซูเปอร์ สเปรดเดอร์ จึงต้องดูขีดความสามารถในการรับมือด้านสาธารณสุขของเรา วันนี้เรามีความพร้อมหมดแล้ว วางแผนทั้งหมด มีมาตรการรองรับถ้ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ควรเกิดขึ้นในแบบที่ไม่จำเป็น โดยการไม่ระมัดระวัง ไม่ใส่หน้ากาก ไม่เข้าพื้นที่ชุมนุมขนาดใหญ่”พล.อ.ประยุทธ์กล่าวและว่า อะไรที่ทำให้เดือดร้อน นายกฯ ต้องขอโทษด้วย ซึ่งทุกอย่างไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อทุกคน เพื่อไม่ให้สถานการณ์กลับไปล็อกดาวน์อีก

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร้องเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” ร่วมกับประชาชน จากนั้นได้ร่วมกิจกรรมกวนขนมกาละแม ที่คนในพื้นที่จัดสาธิตต้อนรับ โดยประชาชนได้ขอให้นายกฯ อยู่รักษาบ้านเมือง ดูแลประชาชนไปนานๆ ขณะที่นายกฯ ตอบเป็นภาษาอังกฤษว่า เยส เซอร์ โดยประชาชนได้ตอบกลับว่า จะดูแลนายกฯ ด้วยเช่นกัน

ที่โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.ภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในที่ประชุมว่า ภูเก็ตเจอปัญหาหนักกว่าที่สมุย เพราะมีรายได้มาจากการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการหารือร่วมกันว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไร เพื่อให้จังหวัดภูเก็ตมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น เพราะที่นี่มีรายได้เป็นอันดับที่ 2 รองจากกรุงเทพฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีนโยบายให้ สธ. และหน่วยงานทุกภาคส่วน เตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยเฉพาะเกาะสมุย และจ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ดังนั้น การคัดกรองและกักกันโรค จึงมีความสำคัญ โดยได้เตรียมความพร้อมทั้งสนามบินสมุย และสนามบินภูเก็ต เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีมาตรฐาน ตรวจสอบ ติดตามได้ทุกขั้นตอน

“ไทยมีประสบการณ์และบทเรียนในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ทำให้สามารถควบคุมโรคนี้ได้เป็นอย่างดี อย่างการคัดกรองและกักกันโรคผู้เดินทางจากต่างประเทศก็ดำเนินการได้เป็นอย่างดี โดยเริ่มจากการเปิดให้คนไทยในต่างประเทศเดินทางกลับเข้ามา แล้วจึงขยายให้ชาวต่างชาติตามที่กำหนดเดินทางเข้ามาด้วย จนเป็นที่ประจักษ์ว่าประเทศไทยสามารถควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 จากต่างประเทศไม่ให้แพร่ระบาดภายในประเทศได้ จึงขยายต่อในเรื่องของการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ”นายอนุทินกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น