ในหลวงทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝนพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูหนาว ก่อนทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าฯรับเสด็จ ท่ามกลางเสียงถวายพระพร "เรารักในหลวง" ดังกึกก้อง ขณะที่พระองค์ทรงมีพระราชปฎิสันถาร "เราก็รักประชาชน"
เมื่อเวลา 17.54 น. วานนี้ (1พ.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีกรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบมหาราชวัง เพื่อทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูหนาว
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อทรงเยี่ยมราษฎร ที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด โดยใช้เส้นทางพระดำเนินจากศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ไปตามถนนจักรีจรัณย์ เลี้ยวขวาประตูวิเศษไชยศรี และทรงพระดำเนินไปตามถนนหน้าพระลาน ถึงยังถนนราชดำเนินใน บริเวณหน้าศาลหลักเมืองแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ กลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ระหว่างที่ทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงโบกพระหัตถ์แย้มพระสรวล ทักทายราษฎรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ อีกทั้งยังทรงโน้มพระวรกายเพื่อทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกรอย่างไม่ถือพระองค์ นำมาซึ่งความปลาบปลื้มใจ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่พสกนิกรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ
การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารตอบกับราษฎร ที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จและเปล่งเสียงถวายพระพร “เรารักในหลวง”ด้วยน้ำตาคลอเบ้า ซึ่งพระองค์ก็ตอบกลับไปว่า “เราก็รักประชาชน” และทรงมีพระราชฎิสันถารความตอนหนึ่งว่า “ต้องช่วยกันรักษาบ้านเมือง”
ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางที่ล้นเกล้าฯ ทั้ง 4 พระองค์ ทรงพระดำเนินผ่าน พสกนิกร ที่พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลืองอย่างเนืองแน่น เปล่งเสียงถวายพระพร ทรงพระเจริญ พวกเรารักในหลวง ดังกึกก้อง พร้อมโบกธงพระปรมาภิไธย วปร. และธงพระนามาภิไธย สท. พลิ้วไสวไปมา บางคนก็ชูพระบรมฉายาลักษณ์ พระฉายาลักษณ์ ไว้เหนือศีรษะ บางคนก็แนบไว้ที่หน้าอก ด้วยความรักความศรัทธาและความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสุดหัวใจ
อนึ่งในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จฯไปทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจในพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงจากฤดูฝนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาวถวายแด่พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรในวันนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทาน พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี อาหารกลางวัน (ข้าวเหนียวหมูทอด) อาหารว่าง น้ำดื่ม เสื้อกันฝน สมุดไดอารี่ และน้ำพระพุทธมนต์ ซึ่งบรรจุไว้ในขวดแก้ว จำนวน 10,000 ขวด อันเป็นน้ำพระพุทธมนต์ ที่ได้มาจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 พิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทั้ง 3 ฤดู และพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปสำคัญต่างๆ โดยประกอบพิธี ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ให้แก่ประชาชนที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ยังความปลาบปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ประกาศเชิญชวนประชาชนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ออกมารับเสด็จพร้อมกัน เวลา 15.00 น. เพื่อรอรับเสด็จในเวลา 17.00 น. ทั้งนี้ มีทั้งประชาชนที่สวมใส่เสื้อเหลือง เสื้อชมพู ทั้งจากในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดมาเฝ้ารอรับเสด็จจำนวนมาก
นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กล่าวว่า รู้สึกปลื้มปิติมากที่พี่น้องประชาชนออกมารับเสด็จ ให้กำลังใจพระองค์ท่าน สะท้อนให้เห็นว่าพี่น้องชาวไทยต้องการให้มีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับประเทศไทย
วันนี้ พลังเงียบออกมา ไม่มีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล แต่ออกมาด้วยความมบริสุทธิ์ใจจริงๆ บางคนอยากออกมาปกป้อง แต่ไม่รู้จะออกมายังไง เพราะออกมาก็โดนด่า ทัวร์ลง อย่าไปกลัว ผมยอมโดนด่าได้ แต่ต้องรู้ว่าด่าอะไร แค่ออกมาปกป้องโดนสารพัด แต่ไม่สนใจ ใจต้องแข็งแน่วแน่ว่า เราต้องการอะไร มุ่งมั่นสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเดียว
"วันนี้ได้ออกมาทำหน้าที่คนไทย และอยากให้คนไทยทำ ปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทัวร์มาลงมาก็มาได้ออกมาเร็วๆ เรื่องเสียหายที่พยามขุดคุ้ยผมไม่กลัวก็รู้อยู่ว่าอะไรเป็นอะไร ผมตั้งใจมารับเสด็จ มากราบพระบาท อยากมาแสดงความจงรักภักดีเท่านั้นเอง ได้กราบอยู่ไกลๆ ก็เป็นบุญในชีวิตมากมายแล้ว ขอพระองค์ทรงพระเจริญ อยากเห็นพระพักตร์มีร้อยยิ้ม รู้ว่าเหนื่อยมาให้กำลังใจพระองค์ท่าน วันที่ 5 ธ.ค.นี้ ทุกจังหวัดทุกอำเภอ จะแสดงความจงรักภักดี จังหวัดไหนที่อยากให้ผมไปเดินเคียงข้าง ขอให้บอก เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วง ผมจัดการเอง อย่างวันที่ 3 ก็จะไปที่ จ.ชลบุรี ปราจีนบุรี ก็ติดต่อมา สระแก้ว ก็ติดต่อเข้ามา ประเทศไทยจุดไหน ภาคไหน ถ้ายึดมั่นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผมไปแน่นอน อย่าเอาการเมือง เอาอะไรมาไม่ใส่ ผมไปแน่นอน" นายบิณฑ์ กล่าว
เมื่อเวลา 17.54 น. วานนี้ (1พ.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีกรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบมหาราชวัง เพื่อทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เพื่อทรงเครื่องสำหรับฤดูหนาว
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อทรงเยี่ยมราษฎร ที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด โดยใช้เส้นทางพระดำเนินจากศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ไปตามถนนจักรีจรัณย์ เลี้ยวขวาประตูวิเศษไชยศรี และทรงพระดำเนินไปตามถนนหน้าพระลาน ถึงยังถนนราชดำเนินใน บริเวณหน้าศาลหลักเมืองแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ กลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ระหว่างที่ทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงโบกพระหัตถ์แย้มพระสรวล ทักทายราษฎรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ อีกทั้งยังทรงโน้มพระวรกายเพื่อทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกรอย่างไม่ถือพระองค์ นำมาซึ่งความปลาบปลื้มใจ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่พสกนิกรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ
การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารตอบกับราษฎร ที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จและเปล่งเสียงถวายพระพร “เรารักในหลวง”ด้วยน้ำตาคลอเบ้า ซึ่งพระองค์ก็ตอบกลับไปว่า “เราก็รักประชาชน” และทรงมีพระราชฎิสันถารความตอนหนึ่งว่า “ต้องช่วยกันรักษาบ้านเมือง”
ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางที่ล้นเกล้าฯ ทั้ง 4 พระองค์ ทรงพระดำเนินผ่าน พสกนิกร ที่พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลืองอย่างเนืองแน่น เปล่งเสียงถวายพระพร ทรงพระเจริญ พวกเรารักในหลวง ดังกึกก้อง พร้อมโบกธงพระปรมาภิไธย วปร. และธงพระนามาภิไธย สท. พลิ้วไสวไปมา บางคนก็ชูพระบรมฉายาลักษณ์ พระฉายาลักษณ์ ไว้เหนือศีรษะ บางคนก็แนบไว้ที่หน้าอก ด้วยความรักความศรัทธาและความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสุดหัวใจ
อนึ่งในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จฯไปทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจในพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงจากฤดูฝนเป็นเครื่องทรงฤดูหนาวถวายแด่พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรในวันนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทาน พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี อาหารกลางวัน (ข้าวเหนียวหมูทอด) อาหารว่าง น้ำดื่ม เสื้อกันฝน สมุดไดอารี่ และน้ำพระพุทธมนต์ ซึ่งบรรจุไว้ในขวดแก้ว จำนวน 10,000 ขวด อันเป็นน้ำพระพุทธมนต์ ที่ได้มาจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 พิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทั้ง 3 ฤดู และพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปสำคัญต่างๆ โดยประกอบพิธี ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ให้แก่ประชาชนที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ยังความปลาบปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ประกาศเชิญชวนประชาชนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ออกมารับเสด็จพร้อมกัน เวลา 15.00 น. เพื่อรอรับเสด็จในเวลา 17.00 น. ทั้งนี้ มีทั้งประชาชนที่สวมใส่เสื้อเหลือง เสื้อชมพู ทั้งจากในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดมาเฝ้ารอรับเสด็จจำนวนมาก
นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กล่าวว่า รู้สึกปลื้มปิติมากที่พี่น้องประชาชนออกมารับเสด็จ ให้กำลังใจพระองค์ท่าน สะท้อนให้เห็นว่าพี่น้องชาวไทยต้องการให้มีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับประเทศไทย
วันนี้ พลังเงียบออกมา ไม่มีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล แต่ออกมาด้วยความมบริสุทธิ์ใจจริงๆ บางคนอยากออกมาปกป้อง แต่ไม่รู้จะออกมายังไง เพราะออกมาก็โดนด่า ทัวร์ลง อย่าไปกลัว ผมยอมโดนด่าได้ แต่ต้องรู้ว่าด่าอะไร แค่ออกมาปกป้องโดนสารพัด แต่ไม่สนใจ ใจต้องแข็งแน่วแน่ว่า เราต้องการอะไร มุ่งมั่นสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเดียว
"วันนี้ได้ออกมาทำหน้าที่คนไทย และอยากให้คนไทยทำ ปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทัวร์มาลงมาก็มาได้ออกมาเร็วๆ เรื่องเสียหายที่พยามขุดคุ้ยผมไม่กลัวก็รู้อยู่ว่าอะไรเป็นอะไร ผมตั้งใจมารับเสด็จ มากราบพระบาท อยากมาแสดงความจงรักภักดีเท่านั้นเอง ได้กราบอยู่ไกลๆ ก็เป็นบุญในชีวิตมากมายแล้ว ขอพระองค์ทรงพระเจริญ อยากเห็นพระพักตร์มีร้อยยิ้ม รู้ว่าเหนื่อยมาให้กำลังใจพระองค์ท่าน วันที่ 5 ธ.ค.นี้ ทุกจังหวัดทุกอำเภอ จะแสดงความจงรักภักดี จังหวัดไหนที่อยากให้ผมไปเดินเคียงข้าง ขอให้บอก เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วง ผมจัดการเอง อย่างวันที่ 3 ก็จะไปที่ จ.ชลบุรี ปราจีนบุรี ก็ติดต่อมา สระแก้ว ก็ติดต่อเข้ามา ประเทศไทยจุดไหน ภาคไหน ถ้ายึดมั่นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผมไปแน่นอน อย่าเอาการเมือง เอาอะไรมาไม่ใส่ ผมไปแน่นอน" นายบิณฑ์ กล่าว
