สถานีโทรทัศน์ชาแนล 4 เผยแพร่คลิปวิดีโอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตอบคำถามสื่อต่างชาติเกี่ยวกับการชุมนุมเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า “ไทยเป็นดินแดนแห่งการประนีประนอม” และ “เรารักพวกเขาเฉกเช่นเดียวกัน” ระหว่างทักทายพสกนิกรที่มารอเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างใกล้ชิด ที่ด้านหน้าพระบรมหาราชวัง เมื่อวันอาทิตย์ (1 พ.ย.) ขณะที่ผู้สื่อข่าวซึ่งเป็นคนทูลถาม ระบุพระราชดำรัสของพระองค์ บ่งชี้ว่าอาจมีทางออกจากวิกฤตทางการเมือง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตอบคำถามจากโจนาธาน มิลเลอร์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 ของอังกฤษ และสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯ ระหว่างทักทายพสกนิกรหลายพันคนที่มารอเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างใกล้ชิด ถือเป็นการแสดงพลังสนับสนุนครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เกิดการชุมนุมเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงขับไล่รัฐบาล
ในวิดีโอที่เผยแพร่โดยสถานีโทรทัศน์ชาแนล 4 นายมิลเลอร์ทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าพระองค์จะมีพระราชดำรัสอย่างไรต่อผู้ชุมนุมที่ออกมาบนท้องถนนเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสกลับว่า “ข้าพเจ้าไม่มีความคิดเห็น เรารักพวกเขาเฉกเช่นเดียวกัน” โดยตรัสคำดังกล่าวซ้ำ 3 ครั้ง
จากนั้นผู้สื่อข่าวทูลถามต่อว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการประนีประนอมกันเกิดขึ้น ทรงตรัสว่าประเทศ ไทยเป็นดินแดนแห่งการประนีประนอม จากนั้นจึงทรงพระดำเนินต่อไป
มิลเลอร์ระบุในเวลาต่อมาว่า ท่ามกลางความยุ่งเหยิงในประเทศไทย และพวกผู้ประท้วงต่องการปฏิรูปอย่างกว้างขวาง พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีกับเขาว่าประเทศของพระองค์เป็นดินแดนแห่งการประนีประนอม บ่งชี้ว่าอาจมีทางออกสำหรับทางตันทางการเมืองที่ยืดเยื้อมานาน
อย่างไรก็ตาม น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ วัย 21 ปี หนึ่งในแกนนำ ได้ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า “เป็นเพียงแค่คำพูด คำพูดประนีประนอมสวนทางกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ อย่างเช่นการตามราวี ใช้กำลังและใช้กฎหมายเล่นงาน”
สำนักพระราชวังไม่เคยแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการประท้วง ที่เริ่มจากต้องการขับไล่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนละเมิดข้อห้ามที่มีมาอย่างช้านานของไทย ด้วยการเรียกร้องจำกัดอำนาจพระมหากษัตริย์
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การเสด็จทักทายพสกนิกรที่มารอเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างใกล้ชิด เกิดขึ้นพร้อมๆ กับการชุมนุมของบรรดานักเคลื่อนไหวซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่จัดการชุมนุมแบบกองโจร เรียกผู้สนับสนุนหลายพันคนไปรวมตัวกันตามแยกต่างๆ ที่สภาพการจราจรคับคั่งเพื่อแสดงการท้าทาย
เอเอฟพีระบุว่า ในการชุมนุมแบบไร้แกนนำ พวกเขามีความเป็นหนึ่งเดียวกันในการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก ผู้ก้าวขึ้นสู่อำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2014 แต่เสียงเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ กลับต้องเจอกับเสียงตีโต้กลับจากกลุ่มอนุรักษนิยมของไทย และทางกลุ่มคนไทยผู้จงรักภักดีได้จัดการชุมนุมของตนเองเช่นกัน
“เรามาที่นี่เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” เอเอฟพีรายงานอ้างคำสัมภาษณ์ของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดงชาวไทย “นี่มันไม่ใช่การปฏิรูป แต่มันเป็นการโค่นล้มสถาบันฯ” บิณฑ์ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวบริเวณด้านนอกพระบรมมหาราชวัง
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี/ชาแนล 4)