ตร.ออกหมายเรียก “แกนนำม็อบราษฎร” ชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี ผิด ป.อาญา มาตรา 116 มีชื่อ “น้องมายด์-ภัสราวลี” พร้อมพวกรวม 5 คน ด้วย “กลุ่มราษฎร” จัดแฟชั่นโชว์กลางสีลม “สื่อจีน” เชื่อสหรัฐฯหนุนหลังม็อบราษฎร
วานนี้ (29 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงภาพรวมสถานการณ์การชุมนุมวันนี้ ว่า มีการนัดชุมนุม จำนวน 3 จุด คือ ที่หน้าตึกสำนักข่าวเนชั่น บางนา, หน้าวัดแขก ถ.สีลม และบริเวณสกายวอล์ค แยกปทุมวัน ซึ่งมีเพียงจุดบริเวณสกายวอล์คฯ ที่ได้แจ้งการชุมนุม
พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณหน้าสถานทูตเยอรมนีเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) ได้รวบรวมพยานหลักฐานตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องของกลุ่มราษฎร 5-6 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร และ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ซึ่งขณะนี้ตนไม่ทราบรายชื่อว่าเป็นใครบ้าง ยืนยันว่าตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่มีสองมาตรฐานอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องขอหมายจับ จ.489/2563 ที่ พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล รักษาราชการแทน ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ยื่นขอออกหมายจับ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ อายุ 25 ปี, นายกรกช แสงเย็นพันธ์ อายุ 28 ปี, นายชนินทร์ วงษ์ศรี อายุ 20 ปี, นายชลธิศ โชติสวัสดิ์ อายุ 21 ปี และ น.ส.เบนจา อะปัญ อายุ 21 ปี ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้าง กระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามมาตรา 116 และข้อหาอื่นๆ จากกรณีที่เป็นเเกนนำไปชุมนุมที่หน้าสถานทูตเยอรมนี ย่านสาทร กทม. เมื่อค่ำวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้ต้องหาเป็นนักศึกษาการชุมนุมระยะเวลาสั้น ยังไม่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนีประกอบกับผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงเห็นควรให้ผู้ร้องไปดำเนินการออกหมายเรียกก่อน ในชั้นนี้ให้ยกคำร้อง
จนเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ได้มีการชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่บริเวณ ถ.สีลม ช่วงใกล้วัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือวัดแขก สีลม โดยมวลชนได้เข้าชุมนุมเต็มพื้นที่ ถ.สีลม ทั้งสองฝั่ง จนต้องมีการปิดการจราจรนะหว่างจากแยกนรารมย์ (ถ.สีลม ตัด ถ.นราธิวาสฯ) ถึงแยกสุรศักดิ์ โดยผู้ชุมนุมได้จัดกิจกรรมรันเวย์ของประชาชน จัดพื้นที่ในลักษณะรันเวย์สำหรับเดินแฟชั่นโชว์เพื่อแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมย่อยในรูปแบบศิลปะอีกด้วย เช่น การแสดงศิลปะ ภาพวาด ที่เสียดสีสถานการณ์การเมือง รวมทั้งการปราศรัยข้อเรียกร้อง ก่อนประกาศยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ 21.00 น.
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวบไซต์โกลบอลไทม์ สื่อของรัฐบาลจีน ได้เผยแพร่บทความเรื่อง “เบื้องหลังงบสนับสนุนการประท้วงในไทยแสดงให้เห็นมือจากชาติตะวันตกที่มองไม่เห็น” มีเนื้อหาระบุถึงกลุ่มผู้ชุมนุมในประเทศไทยในนามคณะราษฎร มีความคล้ายคลึงกับการชุมนุมบนเกาะฮ่องกง ซึ่งทางการจีนมองว่า เป็นม็อบที่มีชาติตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลัง
นอกจากนี้โกลบอลไทม์ยังยกเหตุผลที่แสดงให้เห็นว่าการชุมนุมประท้วงในประเทศไทยนั้นมีความเหมือนกับการชุมนุมในฮ่องกงด้วยว่า การชุมนุมเกิดขึ้นจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ แตกต่างจากการประท้วงทางการเมืองในประเทศไทยที่ผ่านมา และการชุมนุมครั้งนี้มีการจัดการและอุปกรณ์อย่างดี
“รูปแบบการชุมนุมในการยึดสถานที่สาธารณะเช่น ห้างหรือรถไฟฟ้าเพื่อดึงความสนใจจากนานาชาต การชุมนุมแบบแฟลชม็อบและใช้ร่มเป็นสัญลักษณ์นั้นเหมือนม็อบในฮ่องกงไม่มีผิด” ตอนหนึ่งของบทความ ระบุ
นอกจากนี้ โกลบอลไทม์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่พบ ชาวต่างชาติปริศนาอยู่ในม็อบสั่งการนักเรียนนักศึกษาให้ตั้งเวทีและแนวกั้น นอกจากนี้ยังมีช่างภาพมืออาชีพที่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนคอยเก็บภาพที่สะเทือนอารมณ์ เช่น ภาพผู้ประท้วงคุกเข้าหน้าเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงถ่ายภาพเจ้าหน้าที่ตีผู้ประท้วงไร้อาวุธ และทำให้ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ปลุกปั่นให้คนเกลียดรัฐบาล เพื่อเชิญชวนให้คนออกมาร่วมชุมนุมเพิ่มเติม
“รัฐบาลไทยและสื่อกระแสหลักในไทยเชื่อว่ากลุ่มต่อต้านรัฐบาลในประเทศร่วมมือกับสหรัฐอเมริกา และชาติตะวันตกอื่นๆ ใช้เด็กและเยาวชนเป็นเครื่องมือเพื่อล้มล้างระบบการเมืองในประเทศไทย และกลุ่มต่อต้านนี้จะนำหุ่นเชิดการเมืองของชาติตะวันตกเข้ามาปกครองประเทศ ด้วยประชาธิปไตยแบบตะวันตก ซึ่งไม่ได้สวยงามหรือสันติอย่างที่ถูกวาดภาพไว้” โกลบอลไทม์ ระบุในช่วงท้าย
วานนี้ (29 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงภาพรวมสถานการณ์การชุมนุมวันนี้ ว่า มีการนัดชุมนุม จำนวน 3 จุด คือ ที่หน้าตึกสำนักข่าวเนชั่น บางนา, หน้าวัดแขก ถ.สีลม และบริเวณสกายวอล์ค แยกปทุมวัน ซึ่งมีเพียงจุดบริเวณสกายวอล์คฯ ที่ได้แจ้งการชุมนุม
พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณหน้าสถานทูตเยอรมนีเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) ได้รวบรวมพยานหลักฐานตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องของกลุ่มราษฎร 5-6 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร และ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ซึ่งขณะนี้ตนไม่ทราบรายชื่อว่าเป็นใครบ้าง ยืนยันว่าตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่มีสองมาตรฐานอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องขอหมายจับ จ.489/2563 ที่ พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล รักษาราชการแทน ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ยื่นขอออกหมายจับ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ อายุ 25 ปี, นายกรกช แสงเย็นพันธ์ อายุ 28 ปี, นายชนินทร์ วงษ์ศรี อายุ 20 ปี, นายชลธิศ โชติสวัสดิ์ อายุ 21 ปี และ น.ส.เบนจา อะปัญ อายุ 21 ปี ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้าง กระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามมาตรา 116 และข้อหาอื่นๆ จากกรณีที่เป็นเเกนนำไปชุมนุมที่หน้าสถานทูตเยอรมนี ย่านสาทร กทม. เมื่อค่ำวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้ต้องหาเป็นนักศึกษาการชุมนุมระยะเวลาสั้น ยังไม่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนีประกอบกับผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงเห็นควรให้ผู้ร้องไปดำเนินการออกหมายเรียกก่อน ในชั้นนี้ให้ยกคำร้อง
จนเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ได้มีการชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่บริเวณ ถ.สีลม ช่วงใกล้วัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือวัดแขก สีลม โดยมวลชนได้เข้าชุมนุมเต็มพื้นที่ ถ.สีลม ทั้งสองฝั่ง จนต้องมีการปิดการจราจรนะหว่างจากแยกนรารมย์ (ถ.สีลม ตัด ถ.นราธิวาสฯ) ถึงแยกสุรศักดิ์ โดยผู้ชุมนุมได้จัดกิจกรรมรันเวย์ของประชาชน จัดพื้นที่ในลักษณะรันเวย์สำหรับเดินแฟชั่นโชว์เพื่อแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมย่อยในรูปแบบศิลปะอีกด้วย เช่น การแสดงศิลปะ ภาพวาด ที่เสียดสีสถานการณ์การเมือง รวมทั้งการปราศรัยข้อเรียกร้อง ก่อนประกาศยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ 21.00 น.
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวบไซต์โกลบอลไทม์ สื่อของรัฐบาลจีน ได้เผยแพร่บทความเรื่อง “เบื้องหลังงบสนับสนุนการประท้วงในไทยแสดงให้เห็นมือจากชาติตะวันตกที่มองไม่เห็น” มีเนื้อหาระบุถึงกลุ่มผู้ชุมนุมในประเทศไทยในนามคณะราษฎร มีความคล้ายคลึงกับการชุมนุมบนเกาะฮ่องกง ซึ่งทางการจีนมองว่า เป็นม็อบที่มีชาติตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลัง
นอกจากนี้โกลบอลไทม์ยังยกเหตุผลที่แสดงให้เห็นว่าการชุมนุมประท้วงในประเทศไทยนั้นมีความเหมือนกับการชุมนุมในฮ่องกงด้วยว่า การชุมนุมเกิดขึ้นจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ แตกต่างจากการประท้วงทางการเมืองในประเทศไทยที่ผ่านมา และการชุมนุมครั้งนี้มีการจัดการและอุปกรณ์อย่างดี
“รูปแบบการชุมนุมในการยึดสถานที่สาธารณะเช่น ห้างหรือรถไฟฟ้าเพื่อดึงความสนใจจากนานาชาต การชุมนุมแบบแฟลชม็อบและใช้ร่มเป็นสัญลักษณ์นั้นเหมือนม็อบในฮ่องกงไม่มีผิด” ตอนหนึ่งของบทความ ระบุ
นอกจากนี้ โกลบอลไทม์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่พบ ชาวต่างชาติปริศนาอยู่ในม็อบสั่งการนักเรียนนักศึกษาให้ตั้งเวทีและแนวกั้น นอกจากนี้ยังมีช่างภาพมืออาชีพที่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนคอยเก็บภาพที่สะเทือนอารมณ์ เช่น ภาพผู้ประท้วงคุกเข้าหน้าเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงถ่ายภาพเจ้าหน้าที่ตีผู้ประท้วงไร้อาวุธ และทำให้ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ปลุกปั่นให้คนเกลียดรัฐบาล เพื่อเชิญชวนให้คนออกมาร่วมชุมนุมเพิ่มเติม
“รัฐบาลไทยและสื่อกระแสหลักในไทยเชื่อว่ากลุ่มต่อต้านรัฐบาลในประเทศร่วมมือกับสหรัฐอเมริกา และชาติตะวันตกอื่นๆ ใช้เด็กและเยาวชนเป็นเครื่องมือเพื่อล้มล้างระบบการเมืองในประเทศไทย และกลุ่มต่อต้านนี้จะนำหุ่นเชิดการเมืองของชาติตะวันตกเข้ามาปกครองประเทศ ด้วยประชาธิปไตยแบบตะวันตก ซึ่งไม่ได้สวยงามหรือสันติอย่างที่ถูกวาดภาพไว้” โกลบอลไทม์ ระบุในช่วงท้าย