ผู้จัดการรายวัน360- “สาธารณสุข”จ่อทบทวนมาตรการกักตัวให้เข้มขึ้น หลังแหม่มฝรั่งเศสติดโควิด-19 ในประเทศ ป้องกันการระบาดลุกลาม เผยเก็บตัวอย่างกลุ่มสัมผัสสูง 40 รายครบหมดแล้ว ยังไม่พบใครติดเชื้อ ส่วนการตรวจสอบพันธุกรรมหาเชื้อติดมาจากไหน คาดได้ผลเร็วๆ นี้ ศบค.รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 7 ราย มาจากต่างประเทศทั้งหมด เผยลิสต์รายชื่อประเทศที่เดินทางเข้าไทย จะได้ลดระยะเวลากักตัวออกสัปดาห์นี้
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีหญิงชาวฝรั่งเศสติดเชื้อโควิด-19 ในสถานกักกันของรัฐ ว่า ขณะนี้ได้สอบสวนโรคแล้วว่าติดได้อย่างไร เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา เพราะหากเกิดขึ้นที่สถานกักตัว ก็ต้องมีการทบทวนมาตรการ และเพิ่มความเข้มงวดในส่วนที่อาจจะก่อให้เกิดการแพร่เชื้อ เพราะในหลายประเทศก็เกิดการระบาดในสถานที่กักตัว และจากนั้นได้แพร่ระบาดในชุมชนต่อ เช่น ออสเตรเลีย โดยเบื้องต้นได้ประสานไปยังกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ให้งดนำคนออกนอกห้อง จากเดิมให้ออกได้ หลังผลการตรวจครั้งที่ 2 เป็นลบ แต่ตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรคจะไม่ให้ออกเลย
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการติดเชื้อในช่วงวันที่ 10-12 ต.ค.2563 แต่ไม่มีการแพร่เชื้อในโรงแรม เพราะได้ออกมาวันที่ 15 ต.ค.2563 จากนั้นถึงพบอาการป่วยในวันที่ 17 ต.ค.2563
ส่วนการติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด 120 ราย แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่้ยงสูง 40 ราย ประกอบด้วยคนในครอบครัว 2 ราย สัมผัสในชุมชน 24 ราย ผู้โดยสารเครื่องบินเดียวกัน 12 ราย แท็กซี่ 2 ราย โดยกลุ่มเสี่ยงสูงได้เก็บตัวอย่างครบหมดแล้ว ผลตรวจออกแล้ว 27 ราย รอผล 1 ราย ยังไม่พบใครติดเชื้อ และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 80 ราย ไม่มีใครมีอาการ แต่ยังจะค้นหาต่อไป ส่วนการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19 เพื่อหาว่าเป็นเชื้อมาจากใคร คาดว่าจะได้ผลในเร็วๆ นี้
วันเดียวกันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 7 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ได้แก่ บาห์เรน ออสเตรีย จอร์แดน อิรัก ตุรกี คูเวต และกาตาร์ และเข้าสถานกักตัวของรัฐ โดยมีผู้ป่วยสะสม 3,743 ราย หายป่วยแล้ว 3,543 ราย หายป่วยเพิ่ม 13 ราย มีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 141 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 59 ราย
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งเสี่ยงมาก เสี่ยงปานกลาง และเสี่ยงน้อย จะออกมาในสัปดาห์นี้ เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับคนต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพราะจะมีผลต่อการลดระยะเวลากักตัวจาก 14 วันเป็น 10 วัน หรือน้อยกว่า 10 วัน โดยกลุ่มที่เสี่ยงสูง ก็ยังให้เข้าประเทศไม่ได้ แต่กลุ่มเสี่ยงต่ำ ให้เข้าได้และลดระยะเวลากักตัว ซึ่งบางประเทศอาจจะประกาศเป็นรายมณฑล เช่น จีน
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีหญิงชาวฝรั่งเศสติดเชื้อโควิด-19 ในสถานกักกันของรัฐ ว่า ขณะนี้ได้สอบสวนโรคแล้วว่าติดได้อย่างไร เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา เพราะหากเกิดขึ้นที่สถานกักตัว ก็ต้องมีการทบทวนมาตรการ และเพิ่มความเข้มงวดในส่วนที่อาจจะก่อให้เกิดการแพร่เชื้อ เพราะในหลายประเทศก็เกิดการระบาดในสถานที่กักตัว และจากนั้นได้แพร่ระบาดในชุมชนต่อ เช่น ออสเตรเลีย โดยเบื้องต้นได้ประสานไปยังกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ให้งดนำคนออกนอกห้อง จากเดิมให้ออกได้ หลังผลการตรวจครั้งที่ 2 เป็นลบ แต่ตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรคจะไม่ให้ออกเลย
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการติดเชื้อในช่วงวันที่ 10-12 ต.ค.2563 แต่ไม่มีการแพร่เชื้อในโรงแรม เพราะได้ออกมาวันที่ 15 ต.ค.2563 จากนั้นถึงพบอาการป่วยในวันที่ 17 ต.ค.2563
ส่วนการติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด 120 ราย แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่้ยงสูง 40 ราย ประกอบด้วยคนในครอบครัว 2 ราย สัมผัสในชุมชน 24 ราย ผู้โดยสารเครื่องบินเดียวกัน 12 ราย แท็กซี่ 2 ราย โดยกลุ่มเสี่ยงสูงได้เก็บตัวอย่างครบหมดแล้ว ผลตรวจออกแล้ว 27 ราย รอผล 1 ราย ยังไม่พบใครติดเชื้อ และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 80 ราย ไม่มีใครมีอาการ แต่ยังจะค้นหาต่อไป ส่วนการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19 เพื่อหาว่าเป็นเชื้อมาจากใคร คาดว่าจะได้ผลในเร็วๆ นี้
วันเดียวกันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 7 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ได้แก่ บาห์เรน ออสเตรีย จอร์แดน อิรัก ตุรกี คูเวต และกาตาร์ และเข้าสถานกักตัวของรัฐ โดยมีผู้ป่วยสะสม 3,743 ราย หายป่วยแล้ว 3,543 ราย หายป่วยเพิ่ม 13 ราย มีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 141 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 59 ราย
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งเสี่ยงมาก เสี่ยงปานกลาง และเสี่ยงน้อย จะออกมาในสัปดาห์นี้ เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับคนต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพราะจะมีผลต่อการลดระยะเวลากักตัวจาก 14 วันเป็น 10 วัน หรือน้อยกว่า 10 วัน โดยกลุ่มที่เสี่ยงสูง ก็ยังให้เข้าประเทศไม่ได้ แต่กลุ่มเสี่ยงต่ำ ให้เข้าได้และลดระยะเวลากักตัว ซึ่งบางประเทศอาจจะประกาศเป็นรายมณฑล เช่น จีน
