ผู้จัดการรายวัน 360 - บอร์ดสลาก มีมติรื้อใหญ่ระบบพิมพ์และจำหน่ายลอตเตอรี่ แก้ปัญหาหวยชุด-ขายเกินราคา พร้อมปรับสูตรขายใหม่ ดีเดย์ 16 ธ.ค.นี้ หวังไม่ให้รางวัลที่ 1 กระจุกตัว หมดสิทธิถูกรางวัลที่ 1 ก้อนใหญ่ 60-120 ล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 63 มีมติให้ปรับหลักเกณฑ์การพิมพ์และจำหน่ายสลากครั้งใหญ่ เริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธ.ค.63 เป็นต้นไป โดยให้ปรับระบบการพิมพ์ลอตเตอรี่เป็นแบบไม่เรียงเลข หรือเป็นแบบคละเลขทั้งหมด 100 ล้านใบ จากเดิมที่มีการพิมพ์แบบเรียงเลข 33 ล้านใบ และแบบไม่เรียงเลข 67 ล้านใบ เพื่อแก้ปัญหาสลากรวมชุด และขายเกินราคา เนื่องจากที่ผ่านพบว่าต้นตอของการทำสลากรวมชุด ส่วนใหญ่มาจากการพิมพ์ลอตเตอรี่แบบเรียงเลขในกลุ่มโควตา 33 ล้านใบ
พร้อมทั้งให้ปรับรูปแบบการจำหน่ายสลากฯ ทั้งผู้ค้าแบบโควตา และผู้มีสิทธิซื้อจองใหม่ จากเดิมกลุ่มโควตา จะได้รับแบบใบเดียว 5 เล่ม และผู้ซื้อจองได้รับแบบ 2-2-1 หรือสลากชุด 2 ใบ 4 เล่ม และสลากใบเดียว 1 เล่ม เป็นได้รับสลากแบบสูตร 2-1-1-1 (สลากชุด 2 ใบ 2 เล่ม และสลากใบเดียว 3 เล่ม) หรือรับแบบสูตร 2-2-1 เหมือนกันทั้งหมด 100 ล้านใบแทน
ขณะที่รูปแบบการจำหน่ายยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่จะจำหน่ายเป็นแบบสูตร 2-2-1 หรือแบบสูตร 2-1-1-1 ซึ่งจะได้ข้อสรุปในการประชุมเดือนหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดการรวมชุดได้ยาก เหลือขายแค่ชุด 2 ใบ หรือเต็มที่ก็รวมชุดได้ไม่เกิน 5 ใบ ทำให้ราคาถูกลง และจะไม่มีการรวมชุดใหญ่แบบ 10-30 ใบ จึงจะไม่มีโอกาสเห็นคนถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 60 ล้าน หรือ 90 ล้านบาทอีกแล้ว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบหลักการให้เปิดรับขึ้นทะเบียนรับผู้ค้าสลากฯรายใหม่ เข้าสู่ระบบซื้อ-จองเพิ่ม หลังจากไม่ได้มีการเปิดรับมาตั้งแต่ปี 57 แต่อาจต้องใช้เวลาจัดทำรายละเอียดอีกระยะหนึ่ง ส่วนการตัดสิทธิ์ข้าราชการออกจากผู้มีสิทธิ์ซื้อจองสลาก รวมถึงการพิมพ์สลากเกินงวดละ 100 ล้านใบ รวมถึงข้อเสนอการขอเพิ่มโควตาสลากเพิ่มมากกว่าคนละ 5 เล่มต่องวด ตลอดจนการจัดทำสลากฯออนไลน์ ยังไม่ได้มีการพิจารณาในที่ประชุมครั้งนี้
นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 63 มีมติให้ปรับหลักเกณฑ์การพิมพ์และจำหน่ายสลากครั้งใหญ่ เริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธ.ค.63 เป็นต้นไป โดยให้ปรับระบบการพิมพ์ลอตเตอรี่เป็นแบบไม่เรียงเลข หรือเป็นแบบคละเลขทั้งหมด 100 ล้านใบ จากเดิมที่มีการพิมพ์แบบเรียงเลข 33 ล้านใบ และแบบไม่เรียงเลข 67 ล้านใบ เพื่อแก้ปัญหาสลากรวมชุด และขายเกินราคา เนื่องจากที่ผ่านพบว่าต้นตอของการทำสลากรวมชุด ส่วนใหญ่มาจากการพิมพ์ลอตเตอรี่แบบเรียงเลขในกลุ่มโควตา 33 ล้านใบ
พร้อมทั้งให้ปรับรูปแบบการจำหน่ายสลากฯ ทั้งผู้ค้าแบบโควตา และผู้มีสิทธิซื้อจองใหม่ จากเดิมกลุ่มโควตา จะได้รับแบบใบเดียว 5 เล่ม และผู้ซื้อจองได้รับแบบ 2-2-1 หรือสลากชุด 2 ใบ 4 เล่ม และสลากใบเดียว 1 เล่ม เป็นได้รับสลากแบบสูตร 2-1-1-1 (สลากชุด 2 ใบ 2 เล่ม และสลากใบเดียว 3 เล่ม) หรือรับแบบสูตร 2-2-1 เหมือนกันทั้งหมด 100 ล้านใบแทน
ขณะที่รูปแบบการจำหน่ายยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่จะจำหน่ายเป็นแบบสูตร 2-2-1 หรือแบบสูตร 2-1-1-1 ซึ่งจะได้ข้อสรุปในการประชุมเดือนหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดการรวมชุดได้ยาก เหลือขายแค่ชุด 2 ใบ หรือเต็มที่ก็รวมชุดได้ไม่เกิน 5 ใบ ทำให้ราคาถูกลง และจะไม่มีการรวมชุดใหญ่แบบ 10-30 ใบ จึงจะไม่มีโอกาสเห็นคนถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 60 ล้าน หรือ 90 ล้านบาทอีกแล้ว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบหลักการให้เปิดรับขึ้นทะเบียนรับผู้ค้าสลากฯรายใหม่ เข้าสู่ระบบซื้อ-จองเพิ่ม หลังจากไม่ได้มีการเปิดรับมาตั้งแต่ปี 57 แต่อาจต้องใช้เวลาจัดทำรายละเอียดอีกระยะหนึ่ง ส่วนการตัดสิทธิ์ข้าราชการออกจากผู้มีสิทธิ์ซื้อจองสลาก รวมถึงการพิมพ์สลากเกินงวดละ 100 ล้านใบ รวมถึงข้อเสนอการขอเพิ่มโควตาสลากเพิ่มมากกว่าคนละ 5 เล่มต่องวด ตลอดจนการจัดทำสลากฯออนไลน์ ยังไม่ได้มีการพิจารณาในที่ประชุมครั้งนี้
