นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงกรณีมีชาวจังหวัดศรีสะเกษถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ชุด 19 ใบ รวมเงินรางวัล 114 ล้านบาท โดยยืนยันว่า ผู้ถูกรางวัลไม่มีความผิดและสามารถเดินทางมาขึ้นเงินรางวัลได้ตามปกติ ส่วนการตรวจสอบหาต้นตอการรวมสลากฯ ชุดนั้น สำนักงานฯ จะต้องรอให้ผู้ถูกรางวัลมาขึ้นเงินก่อน จากนั้นจะตรวจสอบว่าสลากฯ 19 ใบชุดนี้ ซื้อมาจากที่ใด มาจากระบบจองซื้อผ่านธนาคารกรุงไทย หรือมาจากระบบโควตาของผู้ค้า ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ตามแถบสีที่ปรากฏที่ต้นขั้ว
ทั้งนี้ หากพบว่ามีการรวมชุดจากกลุ่มผู้ได้รับโควตาก็เตรียมลงโทษตัดโควตาทันที ส่วนกรณีของผู้ขายที่มาจากระบบจองซื้อซึ่งเป็นแบบเลขคละกัน หากมีการนำสลากฯ ไปขายต่อให้เจ้ามือใหญ่รวมชุดก็จะมีความผิดและจะเตรียมตัดสิทธิ์เป็นผู้ลงทะเบียนจองซื้อเช่นกัน
ขณะที่ความผิดตาม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2562 หากพบว่าผู้ขายสลากฯ มีการขายรวมชุดเกินใบ 80 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจจับกุมดำเนินคดี มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท แต่ในกรณีถ้าขายสลากฯ รวมชุดแต่ไม่เกินราคา ก็ไม่ถือว่ามีความผิดแต่อย่างใด
นายธนวรรธน์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาสำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามป้องกันปัญหาสลากฯ รวมชุดมาตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ปรับสูตรการพิมพ์สลากฯ แบบคละเลข จำหน่ายให้ผู้ค้าระบบจองซื้อแบบคละเลขระบบ 2-2-1 จำนวน 67 ล้านฉบับ แต่ยังพบการรวมชุดและขายเกินราคาอยู่ ซึ่งหลังจากนี้อาจพิจารณาแนวทางออกมาเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาพิมพ์สลากเลขคละ 2-2-1 ออกมาทั้งหมด หรือการทำสลากทางเลือกแบบออนไลน์ แต่ทั้งหมดก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อกลไกผู้ค้าเดิม รวมถึงดูมิติผลกระทบทางสังคมด้วย
