ผู้จัดการรายวัน360-คลังเสนอโครงการ “คนละครึ่ง” แจกเงิน 3000 บาท จำนวน 10 ล้านคน พร้อมเติมเงินบัตรสวัสดิการอีก 500 บาท 3 เดือน เข้า ครม. วันนี้ คาดใช้เงินทั้งสิ้น 5.1 หมื่นล้านบาท หวังกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ดีเดย์เปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนร่วมโครงการ 1 ต.ค. ก่อนจะให้ประชาชนลงทะเบียนรับเงิน 16 ต.ค. ระบุร้านสะดวกซื้อ-โมเดิร์นเทรด หมดสิทธิเข้าร่วม
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ (22 ก.ย.) กระทรวงการคลังจะเสนอให้ ครม. พิจารณามาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ประกอบด้วยโครงการคนละครึ่ง แจกเงิน 3,000 บาท ให้ประชาชนทั่วไป 10 ล้านคน และโครงการเพิ่มวงเงินซื้อของกินของใช้ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ จำนวน 14 ล้านคน จาก 200-300 บาท เป็นคนละ 700-800 บาท หรือเพิ่มให้ 500 บาทต่อคน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนต.ค.-ธ.ค.2563 หรือคนละ 1,500 บาทต่อคน โดยจะใช้วงเงินรวมประมาณ 5.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภคของประเทศในไตรมาสสุดท้ายของปีให้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และเป็นการช่วยเหลือคนให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นถึง 24 ล้านคน
ทั้งนี้ รัฐบาลจะเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com ในวันที่ 1 ต.ค.2563 จะต้องเป็นร้านค้าขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย เน้นร้านของกินหรือซื้อของใช้ตามร้านโชวห่วยหรือร้านธงฟ้า ยกเว้นร้านค้าขนาดใหญ่ที่เป็นนิติบุคคล ร้านสะดวกซื้อ ไม่เปิดให้เข้าร่วมโครงการ และในวันที่ 16 ต.ค.2563 เวลา 06.00-23.00 น. จะเปิดให้ประชาชน ที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จองสิทธิผ่าน www.คนละครึ่ง.com โดยระบบจะเปิดรับต่อเนื่อง 10 ล้านคน หากวันแรกไม่เต็มก็จะเปิดรับวันต่อๆ ไปจนเต็มตามจำนวน
โดยหลังลงทะเบียนแล้วภายใน 2 วัน ผู้ลงทะเบียนจะได้รับข้อความ SMS แจ้งว่าผ่านการพิจารณาหรือไม่ ผู้ที่ผ่านก็ให้โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งรัฐบาลจะโอนวงเงิน 3,000 บาท ให้กับผู้ได้สิทธิ เพื่อนำไปซื้อของกินของใช้จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งร้านค้าจะมีแอปพลิเคชันถุงเงิน โดยผู้ได้สิทธิก็ต้องโอนเงินส่วนที่จะซื้อของเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตังของตัวเองด้วย เพราะมาตรการนี้เป็นการร่วมจ่ายกันคนละครึ่ง
สำหรับผู้ได้สิทธิเริ่มใช้จ่ายในโครงการได้ในวันที่ 23 ต.ค.2563 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2563 โดยรัฐบาลกำหนดช่วยจ่ายค่าซื้อสินค้าวันละไม่เกิน 100 บาท หรือ ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งการไปซื้อสินค้าจะต้องจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเท่านั้น โดยนำแอปพลิเคชันเป๋าตังไปสแกนกับแอปพลิเคชันถุงเงินของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ส่วนการใช้เงิน จะทำได้เวลา 06.00-23.00 น. ของทุกวัน และผู้ได้รับสิทธิ์ จะต้องเริ่มใช้เงินภายใน 14 วัน หากไม่ใช้ ระบบจะตัดชื่อออก และให้คนอื่นเข้ามาจองสิทธิ์ แต่ยังสามารถลงทะเบียนใหม่ได้
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ (22 ก.ย.) กระทรวงการคลังจะเสนอให้ ครม. พิจารณามาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ประกอบด้วยโครงการคนละครึ่ง แจกเงิน 3,000 บาท ให้ประชาชนทั่วไป 10 ล้านคน และโครงการเพิ่มวงเงินซื้อของกินของใช้ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ จำนวน 14 ล้านคน จาก 200-300 บาท เป็นคนละ 700-800 บาท หรือเพิ่มให้ 500 บาทต่อคน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนต.ค.-ธ.ค.2563 หรือคนละ 1,500 บาทต่อคน โดยจะใช้วงเงินรวมประมาณ 5.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภคของประเทศในไตรมาสสุดท้ายของปีให้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และเป็นการช่วยเหลือคนให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นถึง 24 ล้านคน
ทั้งนี้ รัฐบาลจะเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com ในวันที่ 1 ต.ค.2563 จะต้องเป็นร้านค้าขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย เน้นร้านของกินหรือซื้อของใช้ตามร้านโชวห่วยหรือร้านธงฟ้า ยกเว้นร้านค้าขนาดใหญ่ที่เป็นนิติบุคคล ร้านสะดวกซื้อ ไม่เปิดให้เข้าร่วมโครงการ และในวันที่ 16 ต.ค.2563 เวลา 06.00-23.00 น. จะเปิดให้ประชาชน ที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จองสิทธิผ่าน www.คนละครึ่ง.com โดยระบบจะเปิดรับต่อเนื่อง 10 ล้านคน หากวันแรกไม่เต็มก็จะเปิดรับวันต่อๆ ไปจนเต็มตามจำนวน
โดยหลังลงทะเบียนแล้วภายใน 2 วัน ผู้ลงทะเบียนจะได้รับข้อความ SMS แจ้งว่าผ่านการพิจารณาหรือไม่ ผู้ที่ผ่านก็ให้โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งรัฐบาลจะโอนวงเงิน 3,000 บาท ให้กับผู้ได้สิทธิ เพื่อนำไปซื้อของกินของใช้จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งร้านค้าจะมีแอปพลิเคชันถุงเงิน โดยผู้ได้สิทธิก็ต้องโอนเงินส่วนที่จะซื้อของเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตังของตัวเองด้วย เพราะมาตรการนี้เป็นการร่วมจ่ายกันคนละครึ่ง
สำหรับผู้ได้สิทธิเริ่มใช้จ่ายในโครงการได้ในวันที่ 23 ต.ค.2563 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2563 โดยรัฐบาลกำหนดช่วยจ่ายค่าซื้อสินค้าวันละไม่เกิน 100 บาท หรือ ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งการไปซื้อสินค้าจะต้องจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเท่านั้น โดยนำแอปพลิเคชันเป๋าตังไปสแกนกับแอปพลิเคชันถุงเงินของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ส่วนการใช้เงิน จะทำได้เวลา 06.00-23.00 น. ของทุกวัน และผู้ได้รับสิทธิ์ จะต้องเริ่มใช้เงินภายใน 14 วัน หากไม่ใช้ ระบบจะตัดชื่อออก และให้คนอื่นเข้ามาจองสิทธิ์ แต่ยังสามารถลงทะเบียนใหม่ได้