ผู้จัดการรายวัน360 - กระทรวงพลังงานเผยแผนงานร่วมกระตุ้นเเศรษฐกิจ เตรียมจ้างงานหลายหมื่นคน ดึงกฟผ.-ปตท.ร่วม พร้อมยืนยันโรงไฟฟ้าชุมชน 100-200 เมกะวัตต์ วางกรอบรับซื้อเสร็จภายในสิ้น ก.ย. จ่อปรับรูปแบบและประกาศรับซื้อได้ ปลายปี 63
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน เร่งเดินหน้าตามนโยบายของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในการเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการจ้างงาน นักศึกษาจบใหม่และผู้ตกงานหลายหมื่นคนผ่านหน่วยงานกระทรวงและรัฐวิสาหกิจในสังกัด ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบมจ.ปตท.
"กฟผ.และบริษัทในเครือ กำลังพิจารณา จะว่าจ้างกว่า 1 หมื่นคน กลุ่ม ปตท. ได้ ประกาศแล้ว จะว่าจ้างกว่า 25,000 อัตราระหว่างปี 2563 - 2564 ภายใต้ โครงการ “Restart Thailand” การว่าจ้างในการจัดเก็บข้อมูลด้านพลังงาน ในโครงการศึกษาการจัดทำแผนยุทธศาสตร์และออกแบบการพัฒนาศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ เพื่อรองรับการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ไม่ต่ำกว่า 10 คนต่อจังหวัด หรือราว 760 คน เป็นต้น ซึ่งงบประมาณจะมาจากงบCSRงบวิจัยและพัฒนาของ กฟผ.-ปตท. งบกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และหาก ครม.เห็นชอบการใช้งบฯจ่ายเงินอุดหนุนสมทบเงิน ด้วยการโอนเงินตรงเข้าบัญชีของลูกจ้างที่จบการศึกษาใหม่ในอัตรา 50 %ของค่าจ้าง ก็จะเป็นเรื่องดี"นายกุลิศกล่าว
นายกุลิศ กล่าว ถึงโครงการรับซื้อโรงไฟฟ้าชุมชน 100-200 เมกะวัตต์ ในขณะนี้ กำลังปรับปรุงจัดทำกรอบการรับซื้อใหม่ ภายใต้อัตรารับซื้อหรือFIT อัตราเดิม ซึ่งจะดำเนินการเสร็จสิ้นในสิ้นเดือนกันยายนนี้ และนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เดือน ตุลาคม และมั่นใจว่าจะประกาศรับซื้อสิ้นปีนี้ การลงทุนจะเกิดขึ้นได้ในปี 64 โดยหลักเกณฑ์สำคัญ คือ ดูถึงโครงข่ายสายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะต้องมีเพียงพอในการเข้าระบบในพื้นที่นั้น การผูกพันเรื่องการซื้อพืชพลังงาน ในพื้นที่ที่เน้นให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน ส่วนนโยบายเดิมที่กำหนดให้ ชุมชนร่วมถือหุ้นโรงไฟฟ้า 10-40 %นั้น ในส่วนนี้ อาจดำเนินการได้ยาก ดังนั้น อาจจะปรับรูปแบบเป็นการให้โรงไฟฟ้ารับซื้อพืชพลังงาน ในราคาที่สูงกว่าราคาทั่วไป วิธีการนี้ ชุมชนก็จะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น
"กระทรวงฯได้แจ้งยืนยันต่อ ครม.ว่าจะใช้แผนพีดีพี 2018 ต่อเนื่อง ไม่ใช้ร่างแผนฉบับปรุงปรุง พีดีพี 2018 ครั้งที่ 1 แต่อย่างใด โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าชุมชนที่เดินหน้ารับซื้อ 100-200 เมกะวัตต์ ก็อยู่ในส่วนของแผนงานพลังงานทดแทนที่มีการรับซื้อไฟฟ้าชีวมวลหรือ ไบโอแมส ส่วนแผนการศึกษษโรงไฟฟ้าชุมชน 1,933 เมกะวัตต์หรือไม่ เรื่องนี้ จะนำไปพิจารณาในส่วนของแผนพีดีพีฉบับใหม่ หรือพีดีพี 2022 ที่จะมีการพิจารณา ภาพรวมความต้องการไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไป จากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 และด้านอื่นๆ เช่น เทคโนโลยี การส่งเสริมพลังงานทดแทน ซึ่งภายปลายปีนี้และปีหน้า คงจะศึกษาและรับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำพีดีพีฉบับใหม่ "
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน เร่งเดินหน้าตามนโยบายของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในการเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการจ้างงาน นักศึกษาจบใหม่และผู้ตกงานหลายหมื่นคนผ่านหน่วยงานกระทรวงและรัฐวิสาหกิจในสังกัด ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบมจ.ปตท.
"กฟผ.และบริษัทในเครือ กำลังพิจารณา จะว่าจ้างกว่า 1 หมื่นคน กลุ่ม ปตท. ได้ ประกาศแล้ว จะว่าจ้างกว่า 25,000 อัตราระหว่างปี 2563 - 2564 ภายใต้ โครงการ “Restart Thailand” การว่าจ้างในการจัดเก็บข้อมูลด้านพลังงาน ในโครงการศึกษาการจัดทำแผนยุทธศาสตร์และออกแบบการพัฒนาศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ เพื่อรองรับการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ไม่ต่ำกว่า 10 คนต่อจังหวัด หรือราว 760 คน เป็นต้น ซึ่งงบประมาณจะมาจากงบCSRงบวิจัยและพัฒนาของ กฟผ.-ปตท. งบกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน และหาก ครม.เห็นชอบการใช้งบฯจ่ายเงินอุดหนุนสมทบเงิน ด้วยการโอนเงินตรงเข้าบัญชีของลูกจ้างที่จบการศึกษาใหม่ในอัตรา 50 %ของค่าจ้าง ก็จะเป็นเรื่องดี"นายกุลิศกล่าว
นายกุลิศ กล่าว ถึงโครงการรับซื้อโรงไฟฟ้าชุมชน 100-200 เมกะวัตต์ ในขณะนี้ กำลังปรับปรุงจัดทำกรอบการรับซื้อใหม่ ภายใต้อัตรารับซื้อหรือFIT อัตราเดิม ซึ่งจะดำเนินการเสร็จสิ้นในสิ้นเดือนกันยายนนี้ และนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เดือน ตุลาคม และมั่นใจว่าจะประกาศรับซื้อสิ้นปีนี้ การลงทุนจะเกิดขึ้นได้ในปี 64 โดยหลักเกณฑ์สำคัญ คือ ดูถึงโครงข่ายสายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะต้องมีเพียงพอในการเข้าระบบในพื้นที่นั้น การผูกพันเรื่องการซื้อพืชพลังงาน ในพื้นที่ที่เน้นให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน ส่วนนโยบายเดิมที่กำหนดให้ ชุมชนร่วมถือหุ้นโรงไฟฟ้า 10-40 %นั้น ในส่วนนี้ อาจดำเนินการได้ยาก ดังนั้น อาจจะปรับรูปแบบเป็นการให้โรงไฟฟ้ารับซื้อพืชพลังงาน ในราคาที่สูงกว่าราคาทั่วไป วิธีการนี้ ชุมชนก็จะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น
"กระทรวงฯได้แจ้งยืนยันต่อ ครม.ว่าจะใช้แผนพีดีพี 2018 ต่อเนื่อง ไม่ใช้ร่างแผนฉบับปรุงปรุง พีดีพี 2018 ครั้งที่ 1 แต่อย่างใด โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าชุมชนที่เดินหน้ารับซื้อ 100-200 เมกะวัตต์ ก็อยู่ในส่วนของแผนงานพลังงานทดแทนที่มีการรับซื้อไฟฟ้าชีวมวลหรือ ไบโอแมส ส่วนแผนการศึกษษโรงไฟฟ้าชุมชน 1,933 เมกะวัตต์หรือไม่ เรื่องนี้ จะนำไปพิจารณาในส่วนของแผนพีดีพีฉบับใหม่ หรือพีดีพี 2022 ที่จะมีการพิจารณา ภาพรวมความต้องการไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไป จากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 และด้านอื่นๆ เช่น เทคโนโลยี การส่งเสริมพลังงานทดแทน ซึ่งภายปลายปีนี้และปีหน้า คงจะศึกษาและรับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำพีดีพีฉบับใหม่ "