เรือเฟอร์รี่เกาะสมุย-ดอนสัก บรรทุกรถพ่วงขนขยะ 3 คัน รถกระบะ 1 คันพร้อมผู้โดยสาร13 คน ถูกคลื่นซัดอับปาง จมลงก้นทะเลกลางดึก ช่วยลูกเรือและผู้โดยสารได้ 11 คน เสียชีวิต 1 คนเป็นกัปตันเรือ และสูญหายอีก 4 คนยังไม่ทราบชะตากรรม
เมื่อเวลา 22.00 น. คืนวันที่ 1 ส.ค. ศูนย์วิทยุ 191 สภ.เกาะสมุย ได้รับแจ้งมีเหตุเรือเฟอร์รี่ ถูกคลื่นซัดจมลง ที่บริเวณเกาะสี่ เกาะห้า ฝั่งอ.เกาะสมุย มีลูกเรือ และผู้โดยสารลอยคอรอการช่วยเหลืออยู่ในทะเล จึงได้รายงานให้ นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี รับทราบ จากนั้น พ.ต.อ.พงษ์ขจร สุกกสังศ์ ผกก.สภ.เกาะสมุย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เกาะสมุย ทหารเรือจากฐานทัพเรือแหลมโจรคร่ำ อ.เกาะสมุย เจ้าท่าภูมิภาค อ.เกาะสมุย เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัย หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย รุดไปตรวจสอบที่ ท่าเทียบเรือ บริษัทราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย
ทั้งนี้ เรือเฟอรี่ดังกล่าวเป็นของ บริษัท ราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) โดยเมื่อวันที่ (1 ส.ค.63) เวลาประมาณ 20.48 น. เรือเฟอร์รี่ราชา 4 ออกจากท่าเทียบเรือฝั่งเกาะสมุย มุ่งหน้าไปท่าเทียบเรือดอนสัก โดยบรรทุกรถยนต์บรรทุกพ่วง 3 คัน ที่บรรทุกขยะอัดก้อนหนักประมาณ 50 ตัน และรถยนต์กระบะ 1 คัน มีผู้โดยสารอยู่ในลำเรือจำนวน 16 คน ประกอบด้วยลูกเรือ 12 คน คนขับรถพ่วง 3 คน และคนขับรถกระบะ 1 คน
เมื่อเรือวิ่งออกไปประมาณ 5 ไมล์ทะเล หรือ ประมาณ 30 นาที กัปตันเรือได้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการประสานเรือกับท่าเรือว่า ขณะที่แล่นมาถึงบริเวณเกาะสี่ เกาะห้า ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย เรือเอียงผิดสังเกต เนื่องจากถูกคลื่นใหญ่ซัดทำให้รถบรรทุกไหลไปรวมกันทำให้เรือเอียง น้ำทะเลทะลักเข้าเรือ สุดท้ายเรือจมลงสู่ก้นทะเล และได้ขาดการติดต่อกับทางทางท่าเรือจึงได้ให้เรือ อาร์ 10 และ เรือวังทอง ที่ทอดสมออยู่ฝั่งท่าเทียบเรือเกาะสมุย ออกไปช่วยเหลือ ท่ามกลางสภาพอากาศไม่อำนวย คลื่นลมแรง และเป็นเวลากลางคืน ไม่สามารถมองเห็นตัวเรือเฟอร์รี่ และไม่สามารถยืนยันจุดที่เรือจมได้ชัดเจน พร้อมได้ประสานให้เรือตำรวจน้ำ และเรือจากฐานทัพเรือออกไปตรวจสอบ พบว่าเรือล่มและสามารถช่วยเหลือผู้โดยสารได้จำนวน 9 คน อยู่ระหว่างค้นหาอีก 7 คน
ต่อมาเวลา 09.20 น. วันที่ 2ส.ค. เจ้าหน้าที่นำเรือคนหาในบริเวณใกล้เคียง พบผู้รอดชีวิตลอยคอกลางทะเลอีก 1 ราย ทำให้ยังเหลือผู้สูญหายอีก 6 ราย ซึ่งคาดว่าอาจจะติดอยู่ในห้องท้องเรือ โดยหลังจากนั้นในช่วงบ่าย สามารถช่วยชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 11 ราย และพบผู้เสียชีวิต 1 คน คือนายเทวินทร์ สุราษฎร์ กัปตันเรือลำที่เกิดเหตุ
รวมแล้วยังมีผู้สูญหายอีก 4 ราย
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการค้นหาผู้สูญหาย จากเหตุประสบภัยพิบัติทางทะเล เรือเฟอร์รี่ ชื่อราชา 4 ล่มบริเวณใกล้เกาะสี่ เกาะห้า ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย ว่า ข้อสันนิษฐานในเบื้องต้น สาเหตุเกิดจากคลื่นลมแรง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่สถานีเรือสมุย และ สภ.เกาะสมุย ได้จัดตั้งคณะพนักงานสอบสวน เข้าร่วมสอบสวนในคดีดังกล่าว ในประเด็นอันเกิดจากความประมาทของบุคคลใดเข้าร่วมหรือไม่
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งการตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจในพื้นที่ ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกองทัพเรือภาค 3 และฝ่ายปกครอง สนับสนุนภารกิจการติดตามค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายทั้งหมดอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอส่งแรงใจให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ ให้สามารถค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยครบทุกคน หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
เมื่อเวลา 22.00 น. คืนวันที่ 1 ส.ค. ศูนย์วิทยุ 191 สภ.เกาะสมุย ได้รับแจ้งมีเหตุเรือเฟอร์รี่ ถูกคลื่นซัดจมลง ที่บริเวณเกาะสี่ เกาะห้า ฝั่งอ.เกาะสมุย มีลูกเรือ และผู้โดยสารลอยคอรอการช่วยเหลืออยู่ในทะเล จึงได้รายงานให้ นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี รับทราบ จากนั้น พ.ต.อ.พงษ์ขจร สุกกสังศ์ ผกก.สภ.เกาะสมุย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เกาะสมุย ทหารเรือจากฐานทัพเรือแหลมโจรคร่ำ อ.เกาะสมุย เจ้าท่าภูมิภาค อ.เกาะสมุย เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัย หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย รุดไปตรวจสอบที่ ท่าเทียบเรือ บริษัทราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย
ทั้งนี้ เรือเฟอรี่ดังกล่าวเป็นของ บริษัท ราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) โดยเมื่อวันที่ (1 ส.ค.63) เวลาประมาณ 20.48 น. เรือเฟอร์รี่ราชา 4 ออกจากท่าเทียบเรือฝั่งเกาะสมุย มุ่งหน้าไปท่าเทียบเรือดอนสัก โดยบรรทุกรถยนต์บรรทุกพ่วง 3 คัน ที่บรรทุกขยะอัดก้อนหนักประมาณ 50 ตัน และรถยนต์กระบะ 1 คัน มีผู้โดยสารอยู่ในลำเรือจำนวน 16 คน ประกอบด้วยลูกเรือ 12 คน คนขับรถพ่วง 3 คน และคนขับรถกระบะ 1 คน
เมื่อเรือวิ่งออกไปประมาณ 5 ไมล์ทะเล หรือ ประมาณ 30 นาที กัปตันเรือได้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการประสานเรือกับท่าเรือว่า ขณะที่แล่นมาถึงบริเวณเกาะสี่ เกาะห้า ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย เรือเอียงผิดสังเกต เนื่องจากถูกคลื่นใหญ่ซัดทำให้รถบรรทุกไหลไปรวมกันทำให้เรือเอียง น้ำทะเลทะลักเข้าเรือ สุดท้ายเรือจมลงสู่ก้นทะเล และได้ขาดการติดต่อกับทางทางท่าเรือจึงได้ให้เรือ อาร์ 10 และ เรือวังทอง ที่ทอดสมออยู่ฝั่งท่าเทียบเรือเกาะสมุย ออกไปช่วยเหลือ ท่ามกลางสภาพอากาศไม่อำนวย คลื่นลมแรง และเป็นเวลากลางคืน ไม่สามารถมองเห็นตัวเรือเฟอร์รี่ และไม่สามารถยืนยันจุดที่เรือจมได้ชัดเจน พร้อมได้ประสานให้เรือตำรวจน้ำ และเรือจากฐานทัพเรือออกไปตรวจสอบ พบว่าเรือล่มและสามารถช่วยเหลือผู้โดยสารได้จำนวน 9 คน อยู่ระหว่างค้นหาอีก 7 คน
ต่อมาเวลา 09.20 น. วันที่ 2ส.ค. เจ้าหน้าที่นำเรือคนหาในบริเวณใกล้เคียง พบผู้รอดชีวิตลอยคอกลางทะเลอีก 1 ราย ทำให้ยังเหลือผู้สูญหายอีก 6 ราย ซึ่งคาดว่าอาจจะติดอยู่ในห้องท้องเรือ โดยหลังจากนั้นในช่วงบ่าย สามารถช่วยชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 11 ราย และพบผู้เสียชีวิต 1 คน คือนายเทวินทร์ สุราษฎร์ กัปตันเรือลำที่เกิดเหตุ
รวมแล้วยังมีผู้สูญหายอีก 4 ราย
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการค้นหาผู้สูญหาย จากเหตุประสบภัยพิบัติทางทะเล เรือเฟอร์รี่ ชื่อราชา 4 ล่มบริเวณใกล้เกาะสี่ เกาะห้า ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย ว่า ข้อสันนิษฐานในเบื้องต้น สาเหตุเกิดจากคลื่นลมแรง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่สถานีเรือสมุย และ สภ.เกาะสมุย ได้จัดตั้งคณะพนักงานสอบสวน เข้าร่วมสอบสวนในคดีดังกล่าว ในประเด็นอันเกิดจากความประมาทของบุคคลใดเข้าร่วมหรือไม่
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งการตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจในพื้นที่ ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกองทัพเรือภาค 3 และฝ่ายปกครอง สนับสนุนภารกิจการติดตามค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายทั้งหมดอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอส่งแรงใจให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ ให้สามารถค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยครบทุกคน หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป