ทูตสหรัฐฯพร้อมหนุน ไทยขยับอันดับค้ามนุษย์ ขึ้นเทียร์ 1 -นักลงทุนสหรัฐฯย้ายฐานลงทุนพื้นที่ "อีอีซี" ด้านผบ.ทบ.สหรัฐฯและคณะ เดินทางถึงไทยแล้ว พร้อมเข้ารับการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี"บิ๊กแดง" ให้การต้อนรับ
วานนี้ (9 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยเปิดเผยภายหลังว่า ทางสหรัฐฯและไทย ก็จะร่วมมือกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป สำหรับความร่วมมือทางด้านสาธารณ สุข โดยเฉพาะเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งไทยและสหรัฐอเมริกา มีความร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่งมานาน ไม่เฉพาะในช่วงที่มีโควิด-19 ขณะที่ทางสหรัฐฯ ได้สนับสนุนให้บริษัทในประเทศย้ายฐานการลงทุนมาในประเทศไทย เฉพาะเทคโนโลยีชั้นสูงขยายมาที่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ได้ฝากในเรื่องใดบ้าง ทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้ฝากให้ทางสหรัฐฯ พิจารณาช่วยเหลือสนับสนุนเรื่องการจัดอันดับประเทศไทยเรื่องการค้ามนุษย์จากเทียร์ 2 ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็พร้อมสนับสนุนในเรื่องนี้
เมื่อถามว่าการพูดคุยครั้งนี้ ได้หารือเรื่องความร่วมมือทางการทหารหรือไม่ ทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า ในเรื่องของความร่วมมือทางการทหาร เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ทั้งสหรัฐฯและประเทศไทยจะร่วมมือกันให้เจริญและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
ด้าน พล.อ.ประวิตร เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับทูตสหรัฐฯหลายเรื่อง เช่น เรื่องการค้ามนุษย์เพราะเราทำเรื่องนี้มา 7 ปีแล้ว จนประเทศไทยย้ายจากเทียร์ 3 มาเทียร์ 2 และเราก็อยากจะขึ้นไปถึงเทียร์ 1 ให้เขาไปดู เพื่อที่จะได้ตั้งคณะกรรมการร่วมกัน ก็ต้องดูว่าเขาสนใจเราว่าเราทำอะไรบ้างที่ก้าวหน้า เพราะเราถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ ในการที่จะทำความตกลงร่วมกัน
ขณะที่ นายปณิธาน วัฒนายากร ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความมั่นคง กล่าวว่า วันนี้ (10 ก.ค.) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อพูดคุยในรายละเอียดหลายเรื่อง อาทิ เรื่องความสัมพันธ์ของสองประเทศ การแนะนำตัวเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ การแลกเปลี่ยนเรื่องการฝึกทางทหาร และการช่วยเหลือการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนมาตรการและเทคโนโลยีต่างๆ เพราะประเทศสหรัฐฯ ต้องการเข้ามาลงทุนในอีอีซีของไทย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเสนอให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เตรียมให้การต้อนรับ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ และคณะ ในวันนี้ (10 ก.ค.) โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. จะนำ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะเข้าพบในเวลา 9.30 น. จากนั้น คณะของผบ.ทบ.สหรัฐฯ เดินทางต่อไปยังกองบัญชาการกองทัพบก เพื่อร่วมพิธีตรวจแถว ลงนามในสมุดเยี่ยม พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ และมีพิธีลงนามในแถลงการณ์ strategic Vision Statementระหว่างกองทัพบกทั้งสองประเทศ ก่อนจะรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และร่วมพิธีอำลาแถวทหารกองเกียรติยศอย่างสมเกียรติ ทั้งนี้ คณะของผบ.ทบ.สหรัฐฯ จะเดินทางออกจากประเทศไทย ในเวลา 12:45 น. เพื่อเดินทางต่อไปประเทศญี่ปุ่น
วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ข้อมูล COVID-19" ได้เผยแพร่ภาพ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐอเมริกา และคณะ เข้ารับการตรวจ Nasopharyngeal Swab COVID-19 Test ณ ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง โดยมี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางไปให้การต้อนรับ พร้อมทั้งให้ข้อมูลมาตรการของไทยเกี่ยวกับการต้อนรับแขกต่างประเทศ
ทั้งนี้ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ได้กล่าวชื่นชมมาตรการป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาลไทย พร้อมอนุญาตให้เผยแพร่ภาพ SWAB TEST นี้ด้วย โดยคณะ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ ถือเป็นแขกต่างประเทศคณะแรกที่มาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะถือเป็นมาตรฐานและแนวทางการต้อนรับคณะแขกต่างประเทศในโอกาสต่อไปด้วย.
ทูตสหรัฐฯพร้อมหนุน ไทยขยับอันดับค้ามนุษย์ ขึ้นเทียร์ 1 -นักลงทุนสหรัฐฯย้ายฐานลงทุนพื้นที่ "อีอีซี" ด้านผบ.ทบ.สหรัฐฯและคณะ เดินทางถึงไทยแล้ว พร้อมเข้ารับการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี"บิ๊กแดง" ให้การต้อนรับ
วานนี้ (9 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยเปิดเผยภายหลังว่า ทางสหรัฐฯและไทย ก็จะร่วมมือกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป สำหรับความร่วมมือทางด้านสาธารณ สุข โดยเฉพาะเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งไทยและสหรัฐอเมริกา มีความร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่งมานาน ไม่เฉพาะในช่วงที่มีโควิด-19 ขณะที่ทางสหรัฐฯ ได้สนับสนุนให้บริษัทในประเทศย้ายฐานการลงทุนมาในประเทศไทย เฉพาะเทคโนโลยีชั้นสูงขยายมาที่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ได้ฝากในเรื่องใดบ้าง ทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้ฝากให้ทางสหรัฐฯ พิจารณาช่วยเหลือสนับสนุนเรื่องการจัดอันดับประเทศไทยเรื่องการค้ามนุษย์จากเทียร์ 2 ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็พร้อมสนับสนุนในเรื่องนี้
เมื่อถามว่าการพูดคุยครั้งนี้ ได้หารือเรื่องความร่วมมือทางการทหารหรือไม่ ทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า ในเรื่องของความร่วมมือทางการทหาร เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ทั้งสหรัฐฯและประเทศไทยจะร่วมมือกันให้เจริญและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
ด้าน พล.อ.ประวิตร เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับทูตสหรัฐฯหลายเรื่อง เช่น เรื่องการค้ามนุษย์เพราะเราทำเรื่องนี้มา 7 ปีแล้ว จนประเทศไทยย้ายจากเทียร์ 3 มาเทียร์ 2 และเราก็อยากจะขึ้นไปถึงเทียร์ 1 ให้เขาไปดู เพื่อที่จะได้ตั้งคณะกรรมการร่วมกัน ก็ต้องดูว่าเขาสนใจเราว่าเราทำอะไรบ้างที่ก้าวหน้า เพราะเราถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ ในการที่จะทำความตกลงร่วมกัน
ขณะที่ นายปณิธาน วัฒนายากร ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความมั่นคง กล่าวว่า วันนี้ (10 ก.ค.) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อพูดคุยในรายละเอียดหลายเรื่อง อาทิ เรื่องความสัมพันธ์ของสองประเทศ การแนะนำตัวเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ การแลกเปลี่ยนเรื่องการฝึกทางทหาร และการช่วยเหลือการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนมาตรการและเทคโนโลยีต่างๆ เพราะประเทศสหรัฐฯ ต้องการเข้ามาลงทุนในอีอีซีของไทย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเสนอให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เตรียมให้การต้อนรับ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ และคณะ ในวันนี้ (10 ก.ค.) โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. จะนำ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะเข้าพบในเวลา 9.30 น. จากนั้น คณะของผบ.ทบ.สหรัฐฯ เดินทางต่อไปยังกองบัญชาการกองทัพบก เพื่อร่วมพิธีตรวจแถว ลงนามในสมุดเยี่ยม พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ และมีพิธีลงนามในแถลงการณ์ strategic Vision Statementระหว่างกองทัพบกทั้งสองประเทศ ก่อนจะรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และร่วมพิธีอำลาแถวทหารกองเกียรติยศอย่างสมเกียรติ ทั้งนี้ คณะของผบ.ทบ.สหรัฐฯ จะเดินทางออกจากประเทศไทย ในเวลา 12:45 น. เพื่อเดินทางต่อไปประเทศญี่ปุ่น
วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ข้อมูล COVID-19" ได้เผยแพร่ภาพ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐอเมริกา และคณะ เข้ารับการตรวจ Nasopharyngeal Swab COVID-19 Test ณ ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง โดยมี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางไปให้การต้อนรับ พร้อมทั้งให้ข้อมูลมาตรการของไทยเกี่ยวกับการต้อนรับแขกต่างประเทศ
ทั้งนี้ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ได้กล่าวชื่นชมมาตรการป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาลไทย พร้อมอนุญาตให้เผยแพร่ภาพ SWAB TEST นี้ด้วย โดยคณะ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ ถือเป็นแขกต่างประเทศคณะแรกที่มาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะถือเป็นมาตรฐานและแนวทางการต้อนรับคณะแขกต่างประเทศในโอกาสต่อไปด้วย.
วานนี้ (9 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยเปิดเผยภายหลังว่า ทางสหรัฐฯและไทย ก็จะร่วมมือกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป สำหรับความร่วมมือทางด้านสาธารณ สุข โดยเฉพาะเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งไทยและสหรัฐอเมริกา มีความร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่งมานาน ไม่เฉพาะในช่วงที่มีโควิด-19 ขณะที่ทางสหรัฐฯ ได้สนับสนุนให้บริษัทในประเทศย้ายฐานการลงทุนมาในประเทศไทย เฉพาะเทคโนโลยีชั้นสูงขยายมาที่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ได้ฝากในเรื่องใดบ้าง ทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้ฝากให้ทางสหรัฐฯ พิจารณาช่วยเหลือสนับสนุนเรื่องการจัดอันดับประเทศไทยเรื่องการค้ามนุษย์จากเทียร์ 2 ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็พร้อมสนับสนุนในเรื่องนี้
เมื่อถามว่าการพูดคุยครั้งนี้ ได้หารือเรื่องความร่วมมือทางการทหารหรือไม่ ทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า ในเรื่องของความร่วมมือทางการทหาร เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ทั้งสหรัฐฯและประเทศไทยจะร่วมมือกันให้เจริญและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
ด้าน พล.อ.ประวิตร เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับทูตสหรัฐฯหลายเรื่อง เช่น เรื่องการค้ามนุษย์เพราะเราทำเรื่องนี้มา 7 ปีแล้ว จนประเทศไทยย้ายจากเทียร์ 3 มาเทียร์ 2 และเราก็อยากจะขึ้นไปถึงเทียร์ 1 ให้เขาไปดู เพื่อที่จะได้ตั้งคณะกรรมการร่วมกัน ก็ต้องดูว่าเขาสนใจเราว่าเราทำอะไรบ้างที่ก้าวหน้า เพราะเราถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ ในการที่จะทำความตกลงร่วมกัน
ขณะที่ นายปณิธาน วัฒนายากร ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความมั่นคง กล่าวว่า วันนี้ (10 ก.ค.) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อพูดคุยในรายละเอียดหลายเรื่อง อาทิ เรื่องความสัมพันธ์ของสองประเทศ การแนะนำตัวเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ การแลกเปลี่ยนเรื่องการฝึกทางทหาร และการช่วยเหลือการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนมาตรการและเทคโนโลยีต่างๆ เพราะประเทศสหรัฐฯ ต้องการเข้ามาลงทุนในอีอีซีของไทย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเสนอให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เตรียมให้การต้อนรับ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ และคณะ ในวันนี้ (10 ก.ค.) โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. จะนำ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะเข้าพบในเวลา 9.30 น. จากนั้น คณะของผบ.ทบ.สหรัฐฯ เดินทางต่อไปยังกองบัญชาการกองทัพบก เพื่อร่วมพิธีตรวจแถว ลงนามในสมุดเยี่ยม พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ และมีพิธีลงนามในแถลงการณ์ strategic Vision Statementระหว่างกองทัพบกทั้งสองประเทศ ก่อนจะรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และร่วมพิธีอำลาแถวทหารกองเกียรติยศอย่างสมเกียรติ ทั้งนี้ คณะของผบ.ทบ.สหรัฐฯ จะเดินทางออกจากประเทศไทย ในเวลา 12:45 น. เพื่อเดินทางต่อไปประเทศญี่ปุ่น
วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ข้อมูล COVID-19" ได้เผยแพร่ภาพ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐอเมริกา และคณะ เข้ารับการตรวจ Nasopharyngeal Swab COVID-19 Test ณ ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง โดยมี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางไปให้การต้อนรับ พร้อมทั้งให้ข้อมูลมาตรการของไทยเกี่ยวกับการต้อนรับแขกต่างประเทศ
ทั้งนี้ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ได้กล่าวชื่นชมมาตรการป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาลไทย พร้อมอนุญาตให้เผยแพร่ภาพ SWAB TEST นี้ด้วย โดยคณะ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ ถือเป็นแขกต่างประเทศคณะแรกที่มาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะถือเป็นมาตรฐานและแนวทางการต้อนรับคณะแขกต่างประเทศในโอกาสต่อไปด้วย.
ทูตสหรัฐฯพร้อมหนุน ไทยขยับอันดับค้ามนุษย์ ขึ้นเทียร์ 1 -นักลงทุนสหรัฐฯย้ายฐานลงทุนพื้นที่ "อีอีซี" ด้านผบ.ทบ.สหรัฐฯและคณะ เดินทางถึงไทยแล้ว พร้อมเข้ารับการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี"บิ๊กแดง" ให้การต้อนรับ
วานนี้ (9 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยเปิดเผยภายหลังว่า ทางสหรัฐฯและไทย ก็จะร่วมมือกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป สำหรับความร่วมมือทางด้านสาธารณ สุข โดยเฉพาะเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งไทยและสหรัฐอเมริกา มีความร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่งมานาน ไม่เฉพาะในช่วงที่มีโควิด-19 ขณะที่ทางสหรัฐฯ ได้สนับสนุนให้บริษัทในประเทศย้ายฐานการลงทุนมาในประเทศไทย เฉพาะเทคโนโลยีชั้นสูงขยายมาที่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ได้ฝากในเรื่องใดบ้าง ทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้ฝากให้ทางสหรัฐฯ พิจารณาช่วยเหลือสนับสนุนเรื่องการจัดอันดับประเทศไทยเรื่องการค้ามนุษย์จากเทียร์ 2 ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็พร้อมสนับสนุนในเรื่องนี้
เมื่อถามว่าการพูดคุยครั้งนี้ ได้หารือเรื่องความร่วมมือทางการทหารหรือไม่ ทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า ในเรื่องของความร่วมมือทางการทหาร เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ทั้งสหรัฐฯและประเทศไทยจะร่วมมือกันให้เจริญและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
ด้าน พล.อ.ประวิตร เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับทูตสหรัฐฯหลายเรื่อง เช่น เรื่องการค้ามนุษย์เพราะเราทำเรื่องนี้มา 7 ปีแล้ว จนประเทศไทยย้ายจากเทียร์ 3 มาเทียร์ 2 และเราก็อยากจะขึ้นไปถึงเทียร์ 1 ให้เขาไปดู เพื่อที่จะได้ตั้งคณะกรรมการร่วมกัน ก็ต้องดูว่าเขาสนใจเราว่าเราทำอะไรบ้างที่ก้าวหน้า เพราะเราถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ ในการที่จะทำความตกลงร่วมกัน
ขณะที่ นายปณิธาน วัฒนายากร ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความมั่นคง กล่าวว่า วันนี้ (10 ก.ค.) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อพูดคุยในรายละเอียดหลายเรื่อง อาทิ เรื่องความสัมพันธ์ของสองประเทศ การแนะนำตัวเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ การแลกเปลี่ยนเรื่องการฝึกทางทหาร และการช่วยเหลือการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนมาตรการและเทคโนโลยีต่างๆ เพราะประเทศสหรัฐฯ ต้องการเข้ามาลงทุนในอีอีซีของไทย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเสนอให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เตรียมให้การต้อนรับ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ และคณะ ในวันนี้ (10 ก.ค.) โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. จะนำ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะเข้าพบในเวลา 9.30 น. จากนั้น คณะของผบ.ทบ.สหรัฐฯ เดินทางต่อไปยังกองบัญชาการกองทัพบก เพื่อร่วมพิธีตรวจแถว ลงนามในสมุดเยี่ยม พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ และมีพิธีลงนามในแถลงการณ์ strategic Vision Statementระหว่างกองทัพบกทั้งสองประเทศ ก่อนจะรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และร่วมพิธีอำลาแถวทหารกองเกียรติยศอย่างสมเกียรติ ทั้งนี้ คณะของผบ.ทบ.สหรัฐฯ จะเดินทางออกจากประเทศไทย ในเวลา 12:45 น. เพื่อเดินทางต่อไปประเทศญี่ปุ่น
วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ข้อมูล COVID-19" ได้เผยแพร่ภาพ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐอเมริกา และคณะ เข้ารับการตรวจ Nasopharyngeal Swab COVID-19 Test ณ ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง โดยมี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางไปให้การต้อนรับ พร้อมทั้งให้ข้อมูลมาตรการของไทยเกี่ยวกับการต้อนรับแขกต่างประเทศ
ทั้งนี้ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ได้กล่าวชื่นชมมาตรการป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาลไทย พร้อมอนุญาตให้เผยแพร่ภาพ SWAB TEST นี้ด้วย โดยคณะ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ ถือเป็นแขกต่างประเทศคณะแรกที่มาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะถือเป็นมาตรฐานและแนวทางการต้อนรับคณะแขกต่างประเทศในโอกาสต่อไปด้วย.