ผู้จัดการรายวัน360-“บิ๊กตู่”แจงเหตุผลต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน ถึง 31 ก.ค.63 เพื่อให้แก้ปัญหาได้ทันเวลา และรับการผ่อนปรนระยะที่ 5 ศบค.ชุดใหญ่ไฟเขียวเปิดห้างถึง 4 ทุ่ม ร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. เปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด และเปิดเทอม เริ่ม 1 ก.ค.นี้ ย้ำหากเปิดแล้วไม่คุมเข้ม ปล่อยติดเชื้อ เจอเอาผิด พร้อมอนุมัติต่างชาติ 6 กลุ่มเข้าไทย จ่ายค่ากักตัวเอง ระยะสั้นมาแล้วกลับ ให้ไม่เกิน 10 คน ส่วนผู้ติดเชื้อใหม่พบเพิ่ม 7 ราย กลับมาจากต่างประเทศ ในประเทศไม่พบ 35 วันติดต่อกัน “อนุทิน”ยันยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้า
วานนี้ (29 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาใน 5 เรื่องสำคัญ ได้แก่ มาตรการผ่อนคลายกิจกรรมกิจการในระยะ 5 เช่น อาบอบนวด ผับ บาร์ การเดินทางของบุคคลจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ มาตรการรองรับการศึกษาเด็กนักเรียนชายแดน และการเว้นที่บนรถโดยสาร และที่สำคัญคือการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน
ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. มีมติให้ขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไป 1 เดือน จนถึงวันที่ 31 ก.ค.2563 เพื่อรองรับมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5 เนื่องจากมีกิจกรรมและกิจการที่มีความเสี่ยงสูงมากต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ว่า ผลการประชุมมติ ศบค.ในวันนี้ ตนย้ำว่าเราอยู่ในห้วงเวลาสำคัญ แม้ช่วงที่ผ่านมา ทุกอย่างดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีความเสี่ยงหลายประการ ซึ่งได้บอกไปแล้วว่าในระยะแรกและระยะที่ 2-3-4 ต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด และวันนี้จะมีการผ่อนคลายในระยะที่ 5 ซึ่งยังมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก ดังนั้น ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนทุกคนและสถานประกอบการต่างๆ โดยขอให้ย้อนกลับไปดูว่าในช่วงที่ผ่านมาที่มีการที่มีติดไม่มากนักเกิดจากอะไร ซึ่งเกิดจากมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดและมีการใช้มาตรการพิเศษ โดยเฉพาะมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกมาถึงควบคุมได้ถึงวันนี้ ซึ่งเหตุผลที่ทำไมถึงต้องมี ตนได้บอกหลายครั้งแล้วว่าแม้มีกฎหมาย 40 ฉบับแต่ละหน่วยงานถือไว้ แต่หลายกิจกรรมไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เช่น การเปิด-ปิดสถานที่ต่างๆ หรือการเข้าออกประเทศ ที่ต้องผ่านขั้นตอนทำให้หลายอย่างอาจไม่ทันต่อเวลาในการแก้ปัญหาจึงต้องมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ย้ำว่าไม่ปิดกั้นใครทั้งนั้น
ส่วนเหตุผลความจำเป็นในการผ่อนคลายระยะที่ 5 สิ่งสำคัญ คือ เห็นใจผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่ต้องประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว โดยต้องมีมาตรการสำคัญที่จะรองรับ เพื่อให้เห็นว่าเรามีความพร้อม แต่ไม่สามารถรับรองได้ 100% เพราะทุกอย่างอยู่ที่คนไทยทุกคนที่จะร่วมมือกันทุกอย่างถึงจะผ่านพ้นไปด้วยดี
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ ยืนยันว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่เป็นการริดรอนสิทธิประชาชนตามที่มีการนำไปพูดบนโซเชียลมีเดียใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ลิดรอนอะไร เรื่องนี้มันคนละกาลเทศะ
เปิดธุรกิจเสี่ยงสูงเริ่ม 1 ก.ค.นี้
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. มีมติผ่อนคลายระยะ 5 เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค.2563 โดยให้โรงเรียนเปิดโรงเรียนได้ทั้งหมด , ห้างสรรพสินค้า เปิดได้ถึง 22.00 น. และร้านสะดวกซื้อเปิดได้ 24 ชั่วโมง (ชม.) , ผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดได้ไม่เกิน 24 ชม. ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข มีการลงทะเบียนก่อนเข้า จะมีการตรวจสอบเข้ม เพราะมีตัวอย่างต่างประเทศว่าเป็นจุดเสี่ยง หากพบฝ่าฝืนและมีการติดเชื้อจะมีบทลงโทษ และการไปต่อร้านข้าวต้มหลังปิดผับ บาร์ ไปดื่มเหล้าต่อไม่สามารถทำได้ , ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต เปิดได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด และอาบ อบ นวด โรงน้ำชา เรื่องใบอนุญาตสถานบริการที่ถูกกฎหมาย ให้ฝ่ายมั่นคงตรวจเข้มกับทุกแห่ง และต้องใช้แอปพลิเคชัน เพื่อป้องกันตั้งแต่ต้น แม้จะมีข้อซักถามและข้อห่วงใย หลายคนอาจไม่แสดงตัว ใช้ข้อมูลที่ผิดพลาดมาแอบอ้าง เจ้าของกิจการต้องรับผิดชอบ หากมีการติดเชื้อขึ้นมาจากกิจการของท่าน ต้องรับผิดชอบและมีบทลงโทษเช่นกัน พนักงานต้องรับการตรวจเชื้อโควิดเป็นระยะๆ และระวังโรคอื่นด้วย ที่สำคัญ คือ การห้ามขายประเวณี ละเมิดไม่ได้
นอกจากนี้ ที่ประชุม ยังมีมติ ยกเลิก การเว้นที่นั่ง ในขนส่งสาธารณะ แต่ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
ชงผ่อนคลายคน 6 กลุ่มเข้าประเทศ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงมาตรการผ่อนคลายผู้คนเข้าราชอาณาจักร ว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอเพิ่มบุคคล 6 กลุ่มเดินทางเข้าประเทศ 6 กลุ่ม คือ 1.คู่สมรส และบุตร ของผู้ที่มีใบอนุญาตทำงานในราชอาณาจักร 2.ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร 3.คู่สมรสต่างชาติและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้มีสัญชาติไทย 4.ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ที่มีความจำเป็นต้องเข้ามารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทย และผู้ติดตาม เช่น ศัลยกรรม และการตรวจมีบุตรยาก เน้นเฉพาะบางโรคบางกลุ่ม 5.นักเรียน นักศึกษาต่างชาติ และผู้ปกครอง และ 6.ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ตามข้อตกลงพิเศษกับประเทศเป้าหมาย คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน และเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เช่น นักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค โดยเข้ามาจะต้องกักตัว 14 วัน แต่จะต้องจ่ายเงินเอง เบื้องต้นกำหนดเข้ามาวันละ 200 คน
ส่วนแขกของรัฐบาล ต้องเป็นคณะเล็กไม่เกิน 10 คน และเดินทางระยะสั้น ตรวจรับรองการปลอดโควิด-19 จากประเทศต้นทาง ต้องจำกัดการเดินทางเฉพาะตามกำหนดการที่ได้ตกลงไว้ล่วงหน้าเท่านั้น ห้ามคณะเดินทางไปในที่สาธารณะ และห้ามใช้ขนส่งมวลชน และต้องมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่จากหน่วยความมั่นคง ติดตาม
พบผู้ป่วยใหม่กลับจากต่างประเทศ 7 ราย
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้เป็นวันที่ 35 ที่ประเทศไทยไม่มีการติดเชื้อภายในประเทศ แต่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ 7 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ คือ อินเดีย 6 ราย และสหรัฐฯ 1 ราย และเข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ ไม่มีรักษาหายและเสียชีวิตเพิ่ม โดยผู้ป่วยสะสมรวม 3,169 ราย หายกลับบ้านรวม 3,053 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย ยังรักษาใน รพ. 58 ราย ไม่มีผู้ป่วยอาการหนัก หรือต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้สถานการณ์ในไทยสบายใจได้เพิ่มเล็กน้อย
สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ป่วยทั้งหมด 10,237,543 ราย เป็นรายใหม่ 1.6 แสนราย โดยสหรัฐฯ ยังเป็นปัญหา จากเดิมผู้ป่วยรายใหม่เคยลดลงมาเหลือ 2 หมื่นกว่าราย แต่ช่วงนี้อาจไม่ได้ดูแลสนใจสุขอนามัย ไม่ใส่หน้ากาก ทำให้เพิ่มเป็น 4 หมื่นกว่าราย สูงสุดในโลก ส่วนบราซิลดีขึ้นเหลือผู้ป่วยใหม่ 2.9 หมื่นราย อินเดียมีผู้ป่วยใหม่เกือบ 2 หมื่นคน ไทยอยู่อันดับ 95 ของโลก
สธ.ยันมีความพร้อมรับการระบาดใหม่
นพ.สุขุมกล่าวว่า การผ่อนปรนในระยะที่ 5 มีความเสี่ยง ซึ่ง สธ. ได้ทำการสำรวจทั้งในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ พบรพ.มีเตียงไอซียู 571 เตียง ห้องแยกอาการหนัก 11,206 เตียง และเตียงทั่วไป 10,349 เตียง และถ้ามีผู้ป่วยรายใหม่ สามารถรองรับได้วันละ 50-500 คน และอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ ทั้งหน้ากาก N95 ชุด PPE ก็เตรียมไว้เพียงพอ และยังได้เตรียมยาฟาวิพิราเวียร์กว่า 3 แสนเม็ด
สำหรับความคืบหน้าของวัคซีน ขณะนี้มีการทำวัคซีนต้นแบบ 20 ชนิด ทดลองในสัตว์ 6 ชนิด โดย 2 ชนิดทดลองในหนูและลิง พบว่ามีภูมิคุ้มกันมากขึ้น และชนิดหนึ่งอาจจะทดลองในมนุษย์ได้เร็ว เดือนก.ค. อีกชนิดเดือนต.ค. ถ้าสำเร็จ ก็จะเร่งผลิตต่อไป และยังร่วมมือกับต่างประเทศที่มีวัคซีนทดลองกับมนุษย์แล้ว 13 ชนิด รวมทั้งจะเร่งจัดหา หากมีการผลิตได้ มีค่าใช้จ่ายโดสละ 20-30 เหรียญสหรัฐ
”อนุทิน”ยันยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้า
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการเปิดประเทศเพื่อท่องเที่ยวอย่างจำกัด หรือทราเวลบับเบิล ว่า ขณะนี้มีเอกอัครราชทูตหลายประเทศติดต่อเข้ามา แต่ต้องรอนโยบายที่ชัดเจนจาก ศบค. ก่อน ซึ่งในหลักการไม่มีปัญหาอะไร แต่ต้องมีมาตรการที่ทำให้เกิดความมั่นใจว่าความปลอดภัยจะต้องเกิดขึ้นกับผู้ที่เดินทางเข้ามาและประชาชนของเรา ขณะเดียวกัน จะต้องปลอดภัยสำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปประเทศของเขาด้วย ซึ่งกรมควบคุมโรคกับกระทรวงการต่างประเทศกำลังคุยกันอยู่ แต่ยังไม่มีการพิจารณาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา ยกเว้นกลุ่มที่จำเป็น
จีนชื่นชมไทยคุมโควิด-19 ได้ดีเยี่ยม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับมอบเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์จากนายหยาง ซิน อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ในฐานะตัวแทนรัฐบาลจีน โดยอุปทูตจีนได้ชื่นชมการดำเนินมาตรการของไทยในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไทยไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศยาวนานกว่า 30 วัน เป็นผลสำเร็จของการจัดการและมาตรการที่มีประสิทธิภาพของไทย พร้อมทั้งยินดีกับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างไทย-จีน เพราะแม้ว่าในสถานการณ์โควิด-19 ทั้งสองประเทศยังคงติดต่อทำการค้าต่อกันอย่างต่อเนื่อง และเห็นพ้องที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจร่วมกันภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทั้งด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีการพิจารณาร่วมกันต่อไป
วานนี้ (29 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาใน 5 เรื่องสำคัญ ได้แก่ มาตรการผ่อนคลายกิจกรรมกิจการในระยะ 5 เช่น อาบอบนวด ผับ บาร์ การเดินทางของบุคคลจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ มาตรการรองรับการศึกษาเด็กนักเรียนชายแดน และการเว้นที่บนรถโดยสาร และที่สำคัญคือการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน
ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. มีมติให้ขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไป 1 เดือน จนถึงวันที่ 31 ก.ค.2563 เพื่อรองรับมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5 เนื่องจากมีกิจกรรมและกิจการที่มีความเสี่ยงสูงมากต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ว่า ผลการประชุมมติ ศบค.ในวันนี้ ตนย้ำว่าเราอยู่ในห้วงเวลาสำคัญ แม้ช่วงที่ผ่านมา ทุกอย่างดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีความเสี่ยงหลายประการ ซึ่งได้บอกไปแล้วว่าในระยะแรกและระยะที่ 2-3-4 ต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด และวันนี้จะมีการผ่อนคลายในระยะที่ 5 ซึ่งยังมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก ดังนั้น ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนทุกคนและสถานประกอบการต่างๆ โดยขอให้ย้อนกลับไปดูว่าในช่วงที่ผ่านมาที่มีการที่มีติดไม่มากนักเกิดจากอะไร ซึ่งเกิดจากมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดและมีการใช้มาตรการพิเศษ โดยเฉพาะมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกมาถึงควบคุมได้ถึงวันนี้ ซึ่งเหตุผลที่ทำไมถึงต้องมี ตนได้บอกหลายครั้งแล้วว่าแม้มีกฎหมาย 40 ฉบับแต่ละหน่วยงานถือไว้ แต่หลายกิจกรรมไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เช่น การเปิด-ปิดสถานที่ต่างๆ หรือการเข้าออกประเทศ ที่ต้องผ่านขั้นตอนทำให้หลายอย่างอาจไม่ทันต่อเวลาในการแก้ปัญหาจึงต้องมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ย้ำว่าไม่ปิดกั้นใครทั้งนั้น
ส่วนเหตุผลความจำเป็นในการผ่อนคลายระยะที่ 5 สิ่งสำคัญ คือ เห็นใจผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่ต้องประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว โดยต้องมีมาตรการสำคัญที่จะรองรับ เพื่อให้เห็นว่าเรามีความพร้อม แต่ไม่สามารถรับรองได้ 100% เพราะทุกอย่างอยู่ที่คนไทยทุกคนที่จะร่วมมือกันทุกอย่างถึงจะผ่านพ้นไปด้วยดี
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ ยืนยันว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่เป็นการริดรอนสิทธิประชาชนตามที่มีการนำไปพูดบนโซเชียลมีเดียใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ลิดรอนอะไร เรื่องนี้มันคนละกาลเทศะ
เปิดธุรกิจเสี่ยงสูงเริ่ม 1 ก.ค.นี้
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. มีมติผ่อนคลายระยะ 5 เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค.2563 โดยให้โรงเรียนเปิดโรงเรียนได้ทั้งหมด , ห้างสรรพสินค้า เปิดได้ถึง 22.00 น. และร้านสะดวกซื้อเปิดได้ 24 ชั่วโมง (ชม.) , ผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดได้ไม่เกิน 24 ชม. ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข มีการลงทะเบียนก่อนเข้า จะมีการตรวจสอบเข้ม เพราะมีตัวอย่างต่างประเทศว่าเป็นจุดเสี่ยง หากพบฝ่าฝืนและมีการติดเชื้อจะมีบทลงโทษ และการไปต่อร้านข้าวต้มหลังปิดผับ บาร์ ไปดื่มเหล้าต่อไม่สามารถทำได้ , ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต เปิดได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด และอาบ อบ นวด โรงน้ำชา เรื่องใบอนุญาตสถานบริการที่ถูกกฎหมาย ให้ฝ่ายมั่นคงตรวจเข้มกับทุกแห่ง และต้องใช้แอปพลิเคชัน เพื่อป้องกันตั้งแต่ต้น แม้จะมีข้อซักถามและข้อห่วงใย หลายคนอาจไม่แสดงตัว ใช้ข้อมูลที่ผิดพลาดมาแอบอ้าง เจ้าของกิจการต้องรับผิดชอบ หากมีการติดเชื้อขึ้นมาจากกิจการของท่าน ต้องรับผิดชอบและมีบทลงโทษเช่นกัน พนักงานต้องรับการตรวจเชื้อโควิดเป็นระยะๆ และระวังโรคอื่นด้วย ที่สำคัญ คือ การห้ามขายประเวณี ละเมิดไม่ได้
นอกจากนี้ ที่ประชุม ยังมีมติ ยกเลิก การเว้นที่นั่ง ในขนส่งสาธารณะ แต่ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
ชงผ่อนคลายคน 6 กลุ่มเข้าประเทศ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงมาตรการผ่อนคลายผู้คนเข้าราชอาณาจักร ว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอเพิ่มบุคคล 6 กลุ่มเดินทางเข้าประเทศ 6 กลุ่ม คือ 1.คู่สมรส และบุตร ของผู้ที่มีใบอนุญาตทำงานในราชอาณาจักร 2.ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร 3.คู่สมรสต่างชาติและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้มีสัญชาติไทย 4.ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ที่มีความจำเป็นต้องเข้ามารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทย และผู้ติดตาม เช่น ศัลยกรรม และการตรวจมีบุตรยาก เน้นเฉพาะบางโรคบางกลุ่ม 5.นักเรียน นักศึกษาต่างชาติ และผู้ปกครอง และ 6.ผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ตามข้อตกลงพิเศษกับประเทศเป้าหมาย คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน และเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เช่น นักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค โดยเข้ามาจะต้องกักตัว 14 วัน แต่จะต้องจ่ายเงินเอง เบื้องต้นกำหนดเข้ามาวันละ 200 คน
ส่วนแขกของรัฐบาล ต้องเป็นคณะเล็กไม่เกิน 10 คน และเดินทางระยะสั้น ตรวจรับรองการปลอดโควิด-19 จากประเทศต้นทาง ต้องจำกัดการเดินทางเฉพาะตามกำหนดการที่ได้ตกลงไว้ล่วงหน้าเท่านั้น ห้ามคณะเดินทางไปในที่สาธารณะ และห้ามใช้ขนส่งมวลชน และต้องมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่จากหน่วยความมั่นคง ติดตาม
พบผู้ป่วยใหม่กลับจากต่างประเทศ 7 ราย
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้เป็นวันที่ 35 ที่ประเทศไทยไม่มีการติดเชื้อภายในประเทศ แต่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ 7 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ คือ อินเดีย 6 ราย และสหรัฐฯ 1 ราย และเข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ ไม่มีรักษาหายและเสียชีวิตเพิ่ม โดยผู้ป่วยสะสมรวม 3,169 ราย หายกลับบ้านรวม 3,053 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย ยังรักษาใน รพ. 58 ราย ไม่มีผู้ป่วยอาการหนัก หรือต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้สถานการณ์ในไทยสบายใจได้เพิ่มเล็กน้อย
สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ป่วยทั้งหมด 10,237,543 ราย เป็นรายใหม่ 1.6 แสนราย โดยสหรัฐฯ ยังเป็นปัญหา จากเดิมผู้ป่วยรายใหม่เคยลดลงมาเหลือ 2 หมื่นกว่าราย แต่ช่วงนี้อาจไม่ได้ดูแลสนใจสุขอนามัย ไม่ใส่หน้ากาก ทำให้เพิ่มเป็น 4 หมื่นกว่าราย สูงสุดในโลก ส่วนบราซิลดีขึ้นเหลือผู้ป่วยใหม่ 2.9 หมื่นราย อินเดียมีผู้ป่วยใหม่เกือบ 2 หมื่นคน ไทยอยู่อันดับ 95 ของโลก
สธ.ยันมีความพร้อมรับการระบาดใหม่
นพ.สุขุมกล่าวว่า การผ่อนปรนในระยะที่ 5 มีความเสี่ยง ซึ่ง สธ. ได้ทำการสำรวจทั้งในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ พบรพ.มีเตียงไอซียู 571 เตียง ห้องแยกอาการหนัก 11,206 เตียง และเตียงทั่วไป 10,349 เตียง และถ้ามีผู้ป่วยรายใหม่ สามารถรองรับได้วันละ 50-500 คน และอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ ทั้งหน้ากาก N95 ชุด PPE ก็เตรียมไว้เพียงพอ และยังได้เตรียมยาฟาวิพิราเวียร์กว่า 3 แสนเม็ด
สำหรับความคืบหน้าของวัคซีน ขณะนี้มีการทำวัคซีนต้นแบบ 20 ชนิด ทดลองในสัตว์ 6 ชนิด โดย 2 ชนิดทดลองในหนูและลิง พบว่ามีภูมิคุ้มกันมากขึ้น และชนิดหนึ่งอาจจะทดลองในมนุษย์ได้เร็ว เดือนก.ค. อีกชนิดเดือนต.ค. ถ้าสำเร็จ ก็จะเร่งผลิตต่อไป และยังร่วมมือกับต่างประเทศที่มีวัคซีนทดลองกับมนุษย์แล้ว 13 ชนิด รวมทั้งจะเร่งจัดหา หากมีการผลิตได้ มีค่าใช้จ่ายโดสละ 20-30 เหรียญสหรัฐ
”อนุทิน”ยันยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้า
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการเปิดประเทศเพื่อท่องเที่ยวอย่างจำกัด หรือทราเวลบับเบิล ว่า ขณะนี้มีเอกอัครราชทูตหลายประเทศติดต่อเข้ามา แต่ต้องรอนโยบายที่ชัดเจนจาก ศบค. ก่อน ซึ่งในหลักการไม่มีปัญหาอะไร แต่ต้องมีมาตรการที่ทำให้เกิดความมั่นใจว่าความปลอดภัยจะต้องเกิดขึ้นกับผู้ที่เดินทางเข้ามาและประชาชนของเรา ขณะเดียวกัน จะต้องปลอดภัยสำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปประเทศของเขาด้วย ซึ่งกรมควบคุมโรคกับกระทรวงการต่างประเทศกำลังคุยกันอยู่ แต่ยังไม่มีการพิจารณาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา ยกเว้นกลุ่มที่จำเป็น
จีนชื่นชมไทยคุมโควิด-19 ได้ดีเยี่ยม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับมอบเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์จากนายหยาง ซิน อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ในฐานะตัวแทนรัฐบาลจีน โดยอุปทูตจีนได้ชื่นชมการดำเนินมาตรการของไทยในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไทยไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศยาวนานกว่า 30 วัน เป็นผลสำเร็จของการจัดการและมาตรการที่มีประสิทธิภาพของไทย พร้อมทั้งยินดีกับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างไทย-จีน เพราะแม้ว่าในสถานการณ์โควิด-19 ทั้งสองประเทศยังคงติดต่อทำการค้าต่อกันอย่างต่อเนื่อง และเห็นพ้องที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจร่วมกันภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทั้งด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีการพิจารณาร่วมกันต่อไป