ผู้จัดการรายวัน360- "บิ๊กตู่" ย้ำยังไม่มีความคิดเรื่องปรับครม. บอกไม่ต้องเสนอตัวกันมาเยอะแยะ ถ้าถึงเวลาจะปรับเอง ขอให้พรรคร่วมเตรียมคนไว้ให้พร้อม ไม่ขัด "บิ๊กป้อม" นั่งควบหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พอใจผลงานรัฐบาล 1 ปี "บิ๊กป้อม" ปัดตอบ "3 กุมาร" มาหารือหรือไม่ "สมคิด" ยันไม่ได้หารือ 3 กุมาร ถึงกระแสข่าวเตรียมยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี "สุวิทย์" ปฏิเสธข่าวลาออก ขอคุย “นายกฯ-สมคิด” ก่อน ขณะที่รมต.ติดโผถูกปรับพ้นเก้าอี้ สีหน้าสดใส โล่งใจ หลัง “บิ๊กตู่” ประกาศกลางวง ยังไม่ปรับ ครม. ด้าน "ไพบูลย์"บีบ'อุตตม'เรียกประชุมใหญ่'พปชร.'ก่อน 21 มิ.ย.
วานนี้ (9มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงกระแสข่าวการปรับครม.รวมทั้งผลสำรวจประชาชนที่คัดค้านว่า ไม่เหมาะสม เพราะจะกลายเป็นการเปิดช่องให้นักการเมืองเข้ามาหาผลประโยชน์ว่า ขอยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น เป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมืองดำเนินการไป
"ในส่วนของการปรับ ครม. ก็เป็นเรื่องของผม ผมจะรู้เองว่าควรจะพิจารณาเมื่อไร อย่างไร แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ ผมยังไม่ได้คิดซักอย่าง วันนี้ขอทำงานไปก่อน เพราะฉะนั้นกรุณาเลิก และงดเสนอข่าวพวกนี้ได้แล้ว มันเหมือนดรามา ดังนั้นอย่าเพิ่งไปถึงตรงโน้นเลย อย่าพึ่งมาถามว่า ผมจะปรับ ครม.หรือยัง ถ้าปรับเมื่อไร ผมจะบอกเอง มันเป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว "
ส่วนผลงานในรอบ 1 ปี ก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอใจ บางกรณีก็ต้องรอเวลาให้สุกงอมถึงจะทำได้ เนื่องจากติดขัดในข้อกฏหมายหลายประการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพปชร. จะกระทบกับการทำงานในส่วนของรองนายกฯ ซึ่งเป็นฝ่ายบริหาร หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า " ทำไมล่ะ ถ้าท่านรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯ ก็เป็นเรื่องของท่าน ท่านก็ต้องบริหารของท่านให้ได้ ผมมีหน้าที่ทำงานร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี ท่านก็ต้องทำงานทั้งสองด้านให้ได้ ถ้าท่านจะรับงานตรงโน้น ท่านก็ต้องทำงานตรงนี้ให้ได้เหมือนเดิม"
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่กระแสข่าวการปรับครม.โดยเฉพาะ 3 รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระหว่างการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะเกรงว่าอาจจะหลุดจากตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะมีใครหลุด หรือไม่หลุดเลย คนที่อยู่ในตำแหน่งวันนี้ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน"
เมื่อถามว่า ถ้ามติที่ประชุมพรรคพปชร. เลือก พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค ก็ไม่ขัดข้องใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงสุขภาพของ พล.อ.ประวิตร หรือไม่ เพราะมีอายุมากแล้ว หากยังต้องรับ 2 ตำแหน่ง ก็อาจจะมีปัญหาได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็ไปถามท่านดู วันนี้ก็เป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์กันอยู่ เป็นเรื่องสำคัญที่สื่อคุ้ยกันทุกวันอยู่แล้ว"
เมื่อถามว่านายกฯ จะเข้าไปสยบปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมจะไปสยบอะไรเล่า ก็เพียงแต่ขอร้องว่าอย่าพูดกัน ให้ข่าวกันแล้วคนตัดสินใจเรื่องปรับครม. ก็คือผม เข้าใจหรือไม่ ไม่ใช่หัวหน้าพรรค หากเห็นว่าไม่เหมาะสมผมก็เปลี่ยนคนเท่านั้นเอง อำนาจผมมีอยู่แล้ว"
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ 3 รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ทั้ง นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จะมีการพูดคุยกันถึงจุดยืน และท่าทีต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาก็คุยกันไป ก็คุยกันทั้งนั้น
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายกฯ แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่คุยด้วยน่ะซิ”
เมื่อถามว่าแล้วได้คุยกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่ได้คุย”
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมครม. ถึงกรณีที่ 3 กุมาร เตรียมนัดหารือเพื่อตัดสินใจว่าจะลาออกหรือไม่ โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวสั้นๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ไม่มีอะไร”
ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชนที่พยายามสอบถามถึงปัญหาภายในพรรคพลังประชานัฐ
ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า ยังไม่ได้มีการหารือร่วมกับ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษานวัตกรรมและวิจัย ถึงการเตรียมยื่นลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีแต่อย่างใด ตนจะไปรู้ได้อย่างไร ส่วนความขัดแย้งภายในนั้นไม่มีอะไร
เมื่อถามถึงกรณีที่ได้พูดว่าคนดีจะอยู่ไม่ได้ ตรงนี้จะสื่ออะไรหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่อะไร จากนั้นนายสมคิดได้แต่นิ่ง ไม่พูดใดๆ ทั้งสิ้น
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กล่าวถึงกระแสข่าวยื่นลาออกจากตำแหน่ง โดยย้อนถามว่า ใครปล่อยข่าว คลิปเก่าหรือไม่ ยืนยันยังไม่ลาออก เมื่อถามย้ำว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้คำปรึกษาหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ต้องพูดคุยกัน 3 คนก่อน ส่วนจะมีทางออกในเร็วๆ นี้ หรือไม่ เนื่องจากพรรคพปชร. จะมีการเลือก กก.บห.ชุดใหม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ขอให้แยกเรื่องการเมือง ออกจากเรื่องการปรับครม. มันคนละเรื่องกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในที่ประชุมครม.ช่วงท้ายสั้นๆ ของการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้พูดขึ้นมาถึงการปรับครม. ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าปกติว่า "ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การเมืองก็เป็นเรื่องการเมืองไป ตอนนี้ผมยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ให้ทุกคนทำงานตามหน้าที่ และตั้งใจทำงานกันไปให้เรียบร้อย เรื่องอื่นผมตัดสินใจของผมเอง ใครมีอะไรไหม สวัสดี”
แหล่งข่าวในที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า การประชุมครม.เป็นไปอย่างปกติ ไม่ตึงเครียดเหมือนการประชุมในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่บรรดารัฐมนตรีหลายคน ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด แต่หลังการประชุมครม.ครั้งนี้ ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รักษาการ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึง การนัดประชุมรักษาการ กก.บห.พรรค เพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญ ในการเลือก กก.บห.พรรคชุดใหม่ว่า ตนมั่นใจและเชื่อว่า นายอุตตม สาวนายน รักษาการหัวหน้าพรรค จะมีการเรียกประชุมในเร็วๆ นี้ ไม่ควรเกินวันที่ 19-21 มิ.ย.นี้
"แต่ถ้ายังไม่ชัดเจน ก็ต้องใช้พ.ร.ป.พรรคการเมือง รวบรวมเสียงส.ส.เกินกึ่งหนึ่ง โดยไปยื่นต่อกกต. เพื่อให้มีการเปิดประชุมใหญ่สามัญต่อไป เนื่องจากไม่มีการเรียกประชุม กก.บห.พรรคมานาน โดยครั้งสุดท้าย คือวันที่ 26 ม.ค.63 จึงเห็นว่าควรทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดวิพากษ์วิจารณ์" นายไพบูลย์ กล่าว
วานนี้ (9มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงกระแสข่าวการปรับครม.รวมทั้งผลสำรวจประชาชนที่คัดค้านว่า ไม่เหมาะสม เพราะจะกลายเป็นการเปิดช่องให้นักการเมืองเข้ามาหาผลประโยชน์ว่า ขอยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น เป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมืองดำเนินการไป
"ในส่วนของการปรับ ครม. ก็เป็นเรื่องของผม ผมจะรู้เองว่าควรจะพิจารณาเมื่อไร อย่างไร แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ ผมยังไม่ได้คิดซักอย่าง วันนี้ขอทำงานไปก่อน เพราะฉะนั้นกรุณาเลิก และงดเสนอข่าวพวกนี้ได้แล้ว มันเหมือนดรามา ดังนั้นอย่าเพิ่งไปถึงตรงโน้นเลย อย่าพึ่งมาถามว่า ผมจะปรับ ครม.หรือยัง ถ้าปรับเมื่อไร ผมจะบอกเอง มันเป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว "
ส่วนผลงานในรอบ 1 ปี ก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอใจ บางกรณีก็ต้องรอเวลาให้สุกงอมถึงจะทำได้ เนื่องจากติดขัดในข้อกฏหมายหลายประการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพปชร. จะกระทบกับการทำงานในส่วนของรองนายกฯ ซึ่งเป็นฝ่ายบริหาร หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า " ทำไมล่ะ ถ้าท่านรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯ ก็เป็นเรื่องของท่าน ท่านก็ต้องบริหารของท่านให้ได้ ผมมีหน้าที่ทำงานร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี ท่านก็ต้องทำงานทั้งสองด้านให้ได้ ถ้าท่านจะรับงานตรงโน้น ท่านก็ต้องทำงานตรงนี้ให้ได้เหมือนเดิม"
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่กระแสข่าวการปรับครม.โดยเฉพาะ 3 รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระหว่างการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะเกรงว่าอาจจะหลุดจากตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะมีใครหลุด หรือไม่หลุดเลย คนที่อยู่ในตำแหน่งวันนี้ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน"
เมื่อถามว่า ถ้ามติที่ประชุมพรรคพปชร. เลือก พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค ก็ไม่ขัดข้องใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงสุขภาพของ พล.อ.ประวิตร หรือไม่ เพราะมีอายุมากแล้ว หากยังต้องรับ 2 ตำแหน่ง ก็อาจจะมีปัญหาได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็ไปถามท่านดู วันนี้ก็เป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์กันอยู่ เป็นเรื่องสำคัญที่สื่อคุ้ยกันทุกวันอยู่แล้ว"
เมื่อถามว่านายกฯ จะเข้าไปสยบปัญหาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมจะไปสยบอะไรเล่า ก็เพียงแต่ขอร้องว่าอย่าพูดกัน ให้ข่าวกันแล้วคนตัดสินใจเรื่องปรับครม. ก็คือผม เข้าใจหรือไม่ ไม่ใช่หัวหน้าพรรค หากเห็นว่าไม่เหมาะสมผมก็เปลี่ยนคนเท่านั้นเอง อำนาจผมมีอยู่แล้ว"
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ 3 รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ทั้ง นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จะมีการพูดคุยกันถึงจุดยืน และท่าทีต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาก็คุยกันไป ก็คุยกันทั้งนั้น
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายกฯ แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่คุยด้วยน่ะซิ”
เมื่อถามว่าแล้วได้คุยกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่ได้คุย”
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมครม. ถึงกรณีที่ 3 กุมาร เตรียมนัดหารือเพื่อตัดสินใจว่าจะลาออกหรือไม่ โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวสั้นๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ไม่มีอะไร”
ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชนที่พยายามสอบถามถึงปัญหาภายในพรรคพลังประชานัฐ
ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า ยังไม่ได้มีการหารือร่วมกับ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษานวัตกรรมและวิจัย ถึงการเตรียมยื่นลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีแต่อย่างใด ตนจะไปรู้ได้อย่างไร ส่วนความขัดแย้งภายในนั้นไม่มีอะไร
เมื่อถามถึงกรณีที่ได้พูดว่าคนดีจะอยู่ไม่ได้ ตรงนี้จะสื่ออะไรหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่อะไร จากนั้นนายสมคิดได้แต่นิ่ง ไม่พูดใดๆ ทั้งสิ้น
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กล่าวถึงกระแสข่าวยื่นลาออกจากตำแหน่ง โดยย้อนถามว่า ใครปล่อยข่าว คลิปเก่าหรือไม่ ยืนยันยังไม่ลาออก เมื่อถามย้ำว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้คำปรึกษาหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ต้องพูดคุยกัน 3 คนก่อน ส่วนจะมีทางออกในเร็วๆ นี้ หรือไม่ เนื่องจากพรรคพปชร. จะมีการเลือก กก.บห.ชุดใหม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ขอให้แยกเรื่องการเมือง ออกจากเรื่องการปรับครม. มันคนละเรื่องกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในที่ประชุมครม.ช่วงท้ายสั้นๆ ของการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้พูดขึ้นมาถึงการปรับครม. ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าปกติว่า "ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การเมืองก็เป็นเรื่องการเมืองไป ตอนนี้ผมยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ให้ทุกคนทำงานตามหน้าที่ และตั้งใจทำงานกันไปให้เรียบร้อย เรื่องอื่นผมตัดสินใจของผมเอง ใครมีอะไรไหม สวัสดี”
แหล่งข่าวในที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า การประชุมครม.เป็นไปอย่างปกติ ไม่ตึงเครียดเหมือนการประชุมในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่บรรดารัฐมนตรีหลายคน ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด แต่หลังการประชุมครม.ครั้งนี้ ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รักษาการ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึง การนัดประชุมรักษาการ กก.บห.พรรค เพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญ ในการเลือก กก.บห.พรรคชุดใหม่ว่า ตนมั่นใจและเชื่อว่า นายอุตตม สาวนายน รักษาการหัวหน้าพรรค จะมีการเรียกประชุมในเร็วๆ นี้ ไม่ควรเกินวันที่ 19-21 มิ.ย.นี้
"แต่ถ้ายังไม่ชัดเจน ก็ต้องใช้พ.ร.ป.พรรคการเมือง รวบรวมเสียงส.ส.เกินกึ่งหนึ่ง โดยไปยื่นต่อกกต. เพื่อให้มีการเปิดประชุมใหญ่สามัญต่อไป เนื่องจากไม่มีการเรียกประชุม กก.บห.พรรคมานาน โดยครั้งสุดท้าย คือวันที่ 26 ม.ค.63 จึงเห็นว่าควรทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดวิพากษ์วิจารณ์" นายไพบูลย์ กล่าว