xs
xsm
sm
md
lg

“สิระ” ถามหา “อุตตม-สนธิรัตน์” ในที่ประชุม พปชร. “ไพบูลย์” ขีดเส้นตาย 21 มิ.ย.นัดประชุม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พปชร.ยังกระเพื่อม “เสี่ยแฮ้งค์-เสี่ยเฮ้ง” โผล่นั่งร่วม ปธ.ประชุมพรรค “สิระ” ถามหา หน.-เลขาฯ “ไพบูลย์” แจงพ้นตำแหน่งไปแล้ว ขีดเส้นตายต้องเรียกประชุมรักษาการ กก.บห.ก่อน 21 มิ.ย. นิ่งเจอ พ.ร.ป.พรรคฯ คาดนัดประชุมใหญ่ได้ 4 ก.ค.

วันนี้ (9 มิ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐแห่งใหม่ ย่านรัชดาภิเษก มีการประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) รัฐบาล เป็นประธานในที่ประชุมพร้อมด้วยแกนนำ 3 คน นั่งร่วมด้วย ได้แก่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รักษาการรองหัวหน้าพรรค, นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท และรองประธานยุทธศาสตร์พรรค และ นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี และประธานส.ส.พรรค โดยมีส.ส.เข้าร่วมประชุมอย่างคึกคัก โดยเฉพาะนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานภาค กทม.ก็เข้าร่วมประชุมด้วย ท่ามกลางกระแสข่าว 5 ส.ส.กทม.ได้แยกตัวไปเป็นอิสระทำกิจกรรมกับ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาษี ส.ส.บัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ ในการประชุมดังกล่าว นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และรักษาการหัวหน้า, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และรักษาการเลขาธิการพรรค, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษาฯ และรักษาการรองหัวหน้าพรรค และ น.ส.วทันยา ไม่ได้มาร่วมประชุม

ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสิริ เจนจาคะ ส.ส.กทม.ได้ขอหารือถึงกรณีนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ไม่เข้าร่วมประชุมพรรค 3-4 ครั้ง ว่าเป็นการไม่ให้เกียรติพรรคและสมควรดำรงตำแหน่งนี้หรือไม่ ตนอยากจะถามว่าท่านจะลาออกเองหรือให้ตนขับไล่หรือไม่ เพราะตนไม่สามารถนำปัญหาของประชาชนมาหารือต่อหัวหน้าและเลขาธิการพรรคได้ จึงอยากฝากเรียนถึงท่านประธานในที่ประชุม หากเจอกับนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ให้ตามมาประชุมพรรคและสอบถามว่าทำไมถึงไม่ให้ความสำคัญกับการประชุมพรรค หรือจะให้ตนประกาศตามหาคนหาย และหากท่านไม่ให้ความร่วมมือก็ควรออกไปเลยดีกว่า

นายไพบูลย์ชี้แจงว่า ขอเรียนว่านายอุตตมและนายสนธิรัตน์พ้นตำแหน่งไปแล้ว โดยทำหน้าที่รักษาการณ์หัวหน้าและเลขาธิการพรรคเท่านั้น ตนเห็นใจ ส.ส.ที่ไม่สามารถได้เจอกับทั้ง 2 ท่านได้ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค ตนจึงไม่สามารถนำเรื่องไปแจ้งกับทั้ง 2 ท่านได้ ถือเป็นปัญหาของพรรคพลังประชารัฐ จึงเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคและคืนอำนาจให้แก่สมาชิกพรรคเลือกกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าและเลขาธิการพรรคชุดใหม่เพื่อความเข้มแข็งของพรรคและเป็นเสาหลักของประเทศ และเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการบริหารประเทศต่อไป

ภายหลังการประชุม นายไพบูลย์เปิดเผยถึงความคืบหน้าการนัดประชุมรักษาการกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญในการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ว่า ตนมั่นใจและเชื่อว่านายอุตตม สาวนายน รักษาการหัวหน้าพรรคจะมีการเรียกประชุมในเร็วๆ นี้ให้เป็นไปตามกรอบ และไม่ควรเกินวันที่ 19-21 มิ.ย.นี้ เนื่องจากเป็นวันเสาร์ วันอาทิตย์ ไม่มีภารกิจของรัฐมนตรี แต่ถ้ายังไม่ชัดเจนก็คงต้องใช้ พ.ร.ป.พรรคการเมืองที่ให้รวบรวมเสียง ส.ส.เกินกึ่งหนึ่ง โดยไปยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้มีการเปิดประชุมใหญ่สามัญต่อไป

“ถ้านายอุตตมไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจน ผมเชื่อว่าคงไม่สามารถตอบคำถามสังคมได้ เพราะปัญหาของพรรคที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคมานาน โดยครั้งสุดท้ายคือวันที่ 26 ม.ค. 63 จึงเห็นว่าควรทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดวิพากษ์วิจารณ์” นายไพบูลย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐบางส่วนได้มีการกำหนดจัดการประชุมใหญ่สามัญเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ไว้แล้วในวันที่ 4 ก.ค. หรือวันที่ 11 ก.ค.นี้ ภายหลังกรรมการบริหารพรรคชุดเก่าลาออกเกินกึ่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งข้อบังคับพรรคกำหนดให้ต้องจัดประชุมภายใน 45 วัน หรือไม่เกินวันที่ 15 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ดี ยังมีความไม่ลงตัวในส่วนขององค์ประชุม และการลงมติที่อาจทำให้ขั้วอำนาจใหม่ไม่สามารถยึดพรรคจากลุ่มของนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ได้อย่างที่วางแผนไว้






กำลังโหลดความคิดเห็น