ส.ส.พลังประชารัฐ ลงพื้นที่ “ลพบุรี-กาญจนบุรี-เพชรบูรณ์” หลัง “บิ๊กป้อม” ประธานยุทธศาสตร์พรรคกำชับให้ดูแลประชาชนที่เดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ ซ้ำซ้อนกับช่วงที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19
วานนี้ (21 พ.ค.) รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐแจ้งว่า ในช่วงที่หลายภูมิภาคประสบวาตภัย ฝนตกฟ้าคะนอง จนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ จึงได้กำชับให้ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ เข้าไปดูแลประชาชนที่เดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ ซ้ำซ้อนกับช่วงที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 อย่างเต็มที่ โดยได้ฝากความห่วงใยไปถึงประชาชนในแต่ละพื้นที่ด้วย
โดย นายสมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ ต.ทุ่งทอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพ ให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบวาตภัย ฝนตกฟ้าคะนอง จนเกิดลมพัดแรงทำให้เกิดความเสียหาย บ้านเรือน ของประชาชนจำนวนหลายหลัง
“ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แล้วยังต้องมาเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติอีก ในฐานะผู้แทนฯถือว่าเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนที่ต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือ” นายสมเกียรติ กล่าว
ด้าน นายประทวน สุทธิอำนวยเดช ส.ส.ลพบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยผู้นำชุมชน ก็ได้ลงพื้นที่ หมู่ 5 เทศบาล ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่ได้รับความเสียหายลมพายุ ฝนฟ้าคนองอย่างหนัก ทำให้บ้านเรือนประชาชน รวมถึงวัดน้ำซับ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ยังได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง ไปมอบให้ประชาชน ที่ ได้รับความเดือดร้อนด้วย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นก่อน
นายประทวน กล่าวให้กำลังใจกับประชาชน ซึ่งแม้ว่าขณะนี้จะได้รับความเดือดร้อนจากทั้งสถานการณ์โควิด-19 และจากภัยธรรมชาติ แต่ขออย่ากังวล โดยจะประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาให้การช่วยเหลือ และตนเองที่เป็น ส.ส.ในพื้นที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน
ขณะที่ นายเอี่ยม ทองใจสด ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 5 และทีมงาน นำถุงยังชีพที่ประกอบไปด้วยเครื่องอุปโภค-บริโภค ยาสามัญประจำบ้าน จำนวน 300 ชุด นำไปแจกให้กับประชาชนที่ ที่ประสบเหตุวาตภัย บ้านเรือนเสียหายประมาณ 300 หลังคาเรือน ใน ต.นาสนุน, ต.ศรีเทพ, ต.หนองย่างทอย อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ และยังได้นำถุงยังชีพ ไปมอบให้กับประชาชนใน อ.วิเชียรบุรี อีก 5 ตำบล มีบ้านเรือนเสียหายประมาณกว่า 200 หลังคา
“ขอให้ประชาชนระมัดระวัง เนื่องจากขณะนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว และยืนยันว่าจะเข้ามาดูแลประชาชนในพื้นที่ให้ดีที่สุดในฐานะที่เป็นผู้แทนของประชาชน” นายเอี่ยม กล่าว.