ผู้จัดการรายวัน360-รองโฆษกตำรวจชี้ผู้เสียหายจากพิธีไล่ผีสยิว ถูกล้วงหน้าอก จับของลับ สามารถร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับหมอผีได้ หากไม่ยินยอม อาจเข้าข่ายความผิดฐานกระทำอนาจาร ฉ้อโกง หรือฉ้อโกงประชาชน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีสื่อโซเชียลมีเดีย มีการนำคลิปวิดีโอระบุข้อความว่า “เป็นพิธีกรรมไล่ผี” ซึ่งปรากฏภาพของชายคนหนึ่งแต่งกายคล้ายหมอแก้คุณไสย ถือมีดในมือ ราดน้ำมนต์ลงไปในตัวหญิงสาว ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องนุ่งผ้าถุง และทุกคนจะถูกล้วงเข้าไปจับหน้าอก และล้วงเขาไปที่ใต้ชายผ้าถุง ว่า จากกรณีดังกล่าว หากผู้มีเข้าร่วมพิธีได้รับความเสียหาย สามารถมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานตามขั้นตอนของกฎหมายได้
โดยการกระทำดังกล่าว หากผู้เสียหายไม่ยินยอม อาจเข้าข่ายความผิดฐาน “กระทำอนาจาร” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 หรือหากผู้เสียหายอายุยังไม่เกิน 15 ปี ถึงจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 มีโทษจําคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
สำหรับการรักษาโรคด้วยวิธีไสยศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล ที่อาศัยความเชื่อศรัทธา อาจแฝงตัวมาในลักษณะมิจฉาชีพ เพื่อมาหลอกลวง ทำให้เกิดความหลงเชื่อและเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ อันจะมีความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือหากมีเจตนาหลอกหลวงคนทั่วไป ผ่านการโฆษณาต่างๆ ซึ่งเพื่อประโยชน์ตนเองโดยตรง ก็ถือว่า เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“เรื่องนี้ถือเป็นวิจารณญาณส่วนบุคคล คงต้องฝากไว้ให้ไปพิจารณาไตร่ตรองกัน ระหว่างไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ อะไรที่สามารถพิสูจน์และน่าเชื่อถือได้ การหาข้อเท็จจริง ไขข้อสงสัย ด้วยกระบวนการที่เป็นเหตุเป็นผล กับ ตำนาน สิ่งลี้ลับ ความเชื่อ ความงมงาย ที่มักจะแฝงตัวมาในลักษณะมิจฉาชีพ ซึ่งที่ผ่านมาในหลายๆ คดี ก็มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับ พวกหมอผี ร่างทรง ต่างๆ มาโดยตลอด”
ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลเบาะแสหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถโทรได้ที่หมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีสื่อโซเชียลมีเดีย มีการนำคลิปวิดีโอระบุข้อความว่า “เป็นพิธีกรรมไล่ผี” ซึ่งปรากฏภาพของชายคนหนึ่งแต่งกายคล้ายหมอแก้คุณไสย ถือมีดในมือ ราดน้ำมนต์ลงไปในตัวหญิงสาว ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องนุ่งผ้าถุง และทุกคนจะถูกล้วงเข้าไปจับหน้าอก และล้วงเขาไปที่ใต้ชายผ้าถุง ว่า จากกรณีดังกล่าว หากผู้มีเข้าร่วมพิธีได้รับความเสียหาย สามารถมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานตามขั้นตอนของกฎหมายได้
โดยการกระทำดังกล่าว หากผู้เสียหายไม่ยินยอม อาจเข้าข่ายความผิดฐาน “กระทำอนาจาร” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 หรือหากผู้เสียหายอายุยังไม่เกิน 15 ปี ถึงจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 มีโทษจําคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
สำหรับการรักษาโรคด้วยวิธีไสยศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล ที่อาศัยความเชื่อศรัทธา อาจแฝงตัวมาในลักษณะมิจฉาชีพ เพื่อมาหลอกลวง ทำให้เกิดความหลงเชื่อและเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ อันจะมีความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือหากมีเจตนาหลอกหลวงคนทั่วไป ผ่านการโฆษณาต่างๆ ซึ่งเพื่อประโยชน์ตนเองโดยตรง ก็ถือว่า เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“เรื่องนี้ถือเป็นวิจารณญาณส่วนบุคคล คงต้องฝากไว้ให้ไปพิจารณาไตร่ตรองกัน ระหว่างไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ อะไรที่สามารถพิสูจน์และน่าเชื่อถือได้ การหาข้อเท็จจริง ไขข้อสงสัย ด้วยกระบวนการที่เป็นเหตุเป็นผล กับ ตำนาน สิ่งลี้ลับ ความเชื่อ ความงมงาย ที่มักจะแฝงตัวมาในลักษณะมิจฉาชีพ ซึ่งที่ผ่านมาในหลายๆ คดี ก็มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับ พวกหมอผี ร่างทรง ต่างๆ มาโดยตลอด”
ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลเบาะแสหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถโทรได้ที่หมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง