วานนี้ (6เม.ย.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงแนวทางการหยุดยั้งการระบาดของไวรัส โควิด -19 ว่าที่ผ่านมา รัฐบาลยังออกมาตรการแบบสะเปะสะปะ ไม่ตรงจุด มีการปิดประเทศ ปิดการทำมาหากินของประชาชน โดยไม่ค้นหาผู้ติดเชื้อ แล้วนำออกจากสังคมไปรักษา หรือไปกักตัวเฝ้าดูอาการในระบบ ทำให้ไม่สามารถหยุดการระบาดได้
ช่วงที่ผ่านมา มีการสั่งปิดกิจการห้างร้านต่างๆในกรุงเทพฯ โดยไม่มีมาตรการใดๆ รองรับ ทำให้คนแตกตื่น กลับไปต่างจังหวัดกว่าแสนคน ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปิดหลายจังหวัด ตั้งด่าน สั่งเคอร์ฟิว แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งทั้ง กทม.และต่างจังหวัด ไปกว่า 2,000 รายแล้ว และยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว แต่ก็ยังควบคุมการระบาดไม่ได้ และยังไม่รู้ว่าจะควบคุมได้เมื่อไร อุปกรณ์การแพทย์ ยังคงขาดแคลนอย่างหนัก จน รพ.ต่างๆ ต้องมาขอรับบริจาค และยังตอบไม่ได้ว่า จะปิดเมือง ปิดการทำมาหากินของประชาชน ไปอีกนานแค่ไหน
ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เสนอว่า หลักการของการควบคุมการระบาดของโรค มีอยู่ 2 ประการ คือ
1. ป้องกันผู้ติดเชื้อใหม่ ไม่ให้เข้าประเทศ โดยห้ามการเดินทางเข้าประเทศ หรือกักตัว 14 วัน โดยเช่าโรงแรมให้อยู่ ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่สธ. อย่างเคร่งครัด อย่าให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่เกิดขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันก่อน
2. ค้นหาผู้ติดเชื้อในประเทศให้ได้มากที่สุด และเร็วที่สุด โดยใช้กลไกสาธารณสุข และมหาดไทย ปูพรมตรวจหาผู้ติดเชื้อทุกหมู่บ้าน ผู้ติดเชื้อที่ป่วยรีบส่งตัวเข้ารพ. ส่วนผู้ติดเชื้อที่มีอาการป่วยน้อย ใช้โรงแรมเป็นที่กักตัว เฝ้าดูอาการจนหายดี ตรวจไม่พบเชื้อแล้ว จึงให้กลับบ้าน
หัวใจหลัก คือ ต้องให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจโควิด-19 ฟรี ให้ได้มากที่สุด
วิธีนี้หลายประเทศทำสำเร็จมาแล้ว จนประชาชนกลับมาทำมาหากินกันได้ทั้ง จีน, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์
ปัญหาที่รัฐบาลต้องแก้ คือ เรื่องชุดตรวจที่มีข่าวทุจริต และต้องทะลวงคอขวดของระบบราชการ ให้นำเข้าชุดตรวจให้ได้เร็วที่สุด รวมทั้งมีมหาวิทยาลัย และ รพ.ในประเทศ ที่มีการพัฒนาชุดตรวจได้ ก็ให้รีบสนับสนุนงบฯ โดยด่วน
ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดโทษประชาชนเพียงฝ่ายเดียว แล้วหันมาเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลอย่างเร่งด่วน เพราะ ยิ่งช้า คนป่วยยิ่งมากขึ้น จนเกินกว่าที่ระบบสาธารณสุขของไทย และแพทย์จะรับมือไหว ยิ่งช้า เศรษฐกิจปากท้องจะพังพินาศ
"ดิฉันเชื่อมั่นในความสามารถของระบบสาธารณสุขของไทย และความสามารถของ คณะแพทย์ พยาบาล จึงมั่นใจว่า ถ้าฝ่ายนโยบายได้กำหนดนโยบายได้ถูกต้อง และสนับสนุนการทำงานของแพทย์อย่างเต็มที่ เราจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ภายในเร็ววัน และจะสามารถลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ของเราลงได้"
ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ทิ้งท้ายว่า อย่าคิดว่าเป็นข้อเสนอของฝ่ายค้าน แล้วนายกฯฟังไม่ได้ ถ้ารัฐบาลนำไปทำแล้วสำเร็จประชาชนจะสรรเสริญชื่นชมรัฐบาล ไม่ใช่ฝ่ายค้าน
ช่วงที่ผ่านมา มีการสั่งปิดกิจการห้างร้านต่างๆในกรุงเทพฯ โดยไม่มีมาตรการใดๆ รองรับ ทำให้คนแตกตื่น กลับไปต่างจังหวัดกว่าแสนคน ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปิดหลายจังหวัด ตั้งด่าน สั่งเคอร์ฟิว แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งทั้ง กทม.และต่างจังหวัด ไปกว่า 2,000 รายแล้ว และยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว แต่ก็ยังควบคุมการระบาดไม่ได้ และยังไม่รู้ว่าจะควบคุมได้เมื่อไร อุปกรณ์การแพทย์ ยังคงขาดแคลนอย่างหนัก จน รพ.ต่างๆ ต้องมาขอรับบริจาค และยังตอบไม่ได้ว่า จะปิดเมือง ปิดการทำมาหากินของประชาชน ไปอีกนานแค่ไหน
ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เสนอว่า หลักการของการควบคุมการระบาดของโรค มีอยู่ 2 ประการ คือ
1. ป้องกันผู้ติดเชื้อใหม่ ไม่ให้เข้าประเทศ โดยห้ามการเดินทางเข้าประเทศ หรือกักตัว 14 วัน โดยเช่าโรงแรมให้อยู่ ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่สธ. อย่างเคร่งครัด อย่าให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่เกิดขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันก่อน
2. ค้นหาผู้ติดเชื้อในประเทศให้ได้มากที่สุด และเร็วที่สุด โดยใช้กลไกสาธารณสุข และมหาดไทย ปูพรมตรวจหาผู้ติดเชื้อทุกหมู่บ้าน ผู้ติดเชื้อที่ป่วยรีบส่งตัวเข้ารพ. ส่วนผู้ติดเชื้อที่มีอาการป่วยน้อย ใช้โรงแรมเป็นที่กักตัว เฝ้าดูอาการจนหายดี ตรวจไม่พบเชื้อแล้ว จึงให้กลับบ้าน
หัวใจหลัก คือ ต้องให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจโควิด-19 ฟรี ให้ได้มากที่สุด
วิธีนี้หลายประเทศทำสำเร็จมาแล้ว จนประชาชนกลับมาทำมาหากินกันได้ทั้ง จีน, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์
ปัญหาที่รัฐบาลต้องแก้ คือ เรื่องชุดตรวจที่มีข่าวทุจริต และต้องทะลวงคอขวดของระบบราชการ ให้นำเข้าชุดตรวจให้ได้เร็วที่สุด รวมทั้งมีมหาวิทยาลัย และ รพ.ในประเทศ ที่มีการพัฒนาชุดตรวจได้ ก็ให้รีบสนับสนุนงบฯ โดยด่วน
ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดโทษประชาชนเพียงฝ่ายเดียว แล้วหันมาเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลอย่างเร่งด่วน เพราะ ยิ่งช้า คนป่วยยิ่งมากขึ้น จนเกินกว่าที่ระบบสาธารณสุขของไทย และแพทย์จะรับมือไหว ยิ่งช้า เศรษฐกิจปากท้องจะพังพินาศ
"ดิฉันเชื่อมั่นในความสามารถของระบบสาธารณสุขของไทย และความสามารถของ คณะแพทย์ พยาบาล จึงมั่นใจว่า ถ้าฝ่ายนโยบายได้กำหนดนโยบายได้ถูกต้อง และสนับสนุนการทำงานของแพทย์อย่างเต็มที่ เราจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ภายในเร็ววัน และจะสามารถลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ของเราลงได้"
ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ทิ้งท้ายว่า อย่าคิดว่าเป็นข้อเสนอของฝ่ายค้าน แล้วนายกฯฟังไม่ได้ ถ้ารัฐบาลนำไปทำแล้วสำเร็จประชาชนจะสรรเสริญชื่นชมรัฐบาล ไม่ใช่ฝ่ายค้าน