คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ว่า หลังจากรัฐบาลประกาศปิดสถานบริการ 28 ประเภท เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ยิ่งทำให้ประชาชนสับสน มาตรการที่ออกมาจากรัฐบาลไม่ได้คิดถึงผลกระทบให้รอบด้าน นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พูดไว้ชัด การปิดถ้าปิดไม่สนิท ยิ่งจะมีปัญหามากขึ้น การที่รัฐบาลปล่อยให้ผู้ว่าฯแต่ละจังหวัด พิจารณาเองว่า ควรจะปิดด่าน ปิดสถานบริการ ปิดจังหวัดหรือไม่ จะยิ่งสร้างปัญหาให้ประชาชนมากขึ้น การปิดสถานบริการ 28 ประเภท ในกทม.เพื่อหวังที่จะลดการเดินทาง แต่จากการคิดไม่รอบด้าน กลายเป็นว่าจากที่เคยบอกจะไม่มีวันหยุดช่วงสงกรานต์ เท่ากับเลื่อนวันหยุดสงกรานต์เร็วขึ้น ทำให้ประชาชนแห่กลับบ้านมากขึ้น
"ผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ต้องหยุดงาน จากการปิดสถานบริการ 28 ประเภท น่าเห็นใจ เพราะเมื่อเขาไม่มีค่าใช้จ่ายก็ต้องกลับบ้าน รัฐควรเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยจ่ายเงินชดเชย เยียวยาช่วงที่ต้องหยุดงานคนละ 3,000 - 5,000 บาท พร้อมกับระบุให้ชัด ห้ามเดินทางออกนอกกทม. และให้พักอยู่ในบ้านพักเท่านั้น พอรัฐไม่ทำอย่างนี้ ทำให้คนร่วมแสนคนเดินทางกลับต่างจังหวัด ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ การที่ไม่มีมาตรการรองรับ ตั้งรับไม่ทัน ทำให้เกิดอันตราย เป็นห่วงคนที่ไปรวมตัวกันที่สถานีขนส่งหมอชิต การที่ต้องนั่งรถคันเดียวกันกลับ และจนไปถึงจังหวัดนั้นแล้ว จะยิ่งสร้างความโกลาหล มันยิ่งน่ากลัว เราได้เห็นตัวอย่างจาก อิตาลี ที่เป็นแบบเดียวกับเรา ปิดเมือง แต่ยังปล่อยให้คนเดินทางออกมา กลายเป็นว่าเกิดการระบาดไปทั่วประเทศ"
มาตรการใดๆ ที่รัฐบาลออกมา นายกรัฐมนตรีต้องแสดงความเป็นผู้นำฟังความให้รอบด้าน ใช้ความรู้แต่ละฝ่ายมากลั่นกรองเพื่อให้เกิดมาตรการที่ดีที่สุดไม่ใช่ไปแก้อย่างที่ 1 แล้วไปเจอปัญหาที่ 2 - 3 - 4 - 5 ตามมา เหมือนลิงแก้แห เราพลาดอย่างมหันต์ให้คนออกจาก กทม.เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก การควบคุมต้องทำให้โรคสยบ คือทำให้การระบาดนิ่งที่สุด เหมือนที่ไต้หวัน และจีน ทำ พรรคเพื่อไทยเคยเสนอมาตรการ 21 วัน ไม่อยากให้รัฐบาลคิดว่า เป็นความคิดจากพรรคฝ่ายค้าน แต่เป็นมาตรการที่ทางแพทย์ต่างๆ ก็เสนอมาเพื่อต้องการที่จะควบคุมการแพร่ระบาด เพราะสิ่งที่เคยเสนอคือ 1 .ป้องกันไม่ให้เชื้อใหม่เข้าประเทศ โดยปิดการเดินทางไม่ให้คนเดินทางมาหรือถ้ายังมีการเดินทาง รัฐก็จัดโรงแรม เพื่อจะกักตัว โดยมีทีมแพทย์ดูอาการของคนเหล่านั้นเป็นเวลา 14 วัน ก่อนให้เดินทางเข้าประเทศไทย 2. เชื้อที่มีการแพร่ระบาดในประเทศ ไม่ต้องเถียงกันว่าวันนี้เป็นระดับสอง หรือระดับสาม แต่เราต้องปูพรม เอ็กซเรย์ในพื้นที่ กทม.หากพบใครมีไข้ ไอ จาม ให้พบแพทย์ โดยการทำสกรีนนิ่งเทส ว่าอยู่ในข่ายหรือไม่ ให้เป็น 21 วัน เพื่อสยบโควิด-19
"การที่รัฐบาลทำขณะนี้ ยิ่งสร้างปัญหา มาตรการคิดออกมาไม่รอบด้าน ดิฉันเคยพูดว่าเมืองไทยหมอเก่ง คนไทยตื่นตัวในการดูแลตัวเอง เมืองไทยอากาศร้อน คนที่ติดเชื้อโควิด-19 มีไม่ถึง 1,000 ราย ที่ได้เคยพูดไว้คงต้องขอถอนคำพูด ซึ่งถ้ายังแก้ปัญหาไม่จบก่อนสงกรานต์ ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้น ที่เราเคยเสนอไป ไม่ได้คิดเรื่องการเมือง แต่เป็นความเห็นจากแพทย์" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
"ผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ต้องหยุดงาน จากการปิดสถานบริการ 28 ประเภท น่าเห็นใจ เพราะเมื่อเขาไม่มีค่าใช้จ่ายก็ต้องกลับบ้าน รัฐควรเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยจ่ายเงินชดเชย เยียวยาช่วงที่ต้องหยุดงานคนละ 3,000 - 5,000 บาท พร้อมกับระบุให้ชัด ห้ามเดินทางออกนอกกทม. และให้พักอยู่ในบ้านพักเท่านั้น พอรัฐไม่ทำอย่างนี้ ทำให้คนร่วมแสนคนเดินทางกลับต่างจังหวัด ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ การที่ไม่มีมาตรการรองรับ ตั้งรับไม่ทัน ทำให้เกิดอันตราย เป็นห่วงคนที่ไปรวมตัวกันที่สถานีขนส่งหมอชิต การที่ต้องนั่งรถคันเดียวกันกลับ และจนไปถึงจังหวัดนั้นแล้ว จะยิ่งสร้างความโกลาหล มันยิ่งน่ากลัว เราได้เห็นตัวอย่างจาก อิตาลี ที่เป็นแบบเดียวกับเรา ปิดเมือง แต่ยังปล่อยให้คนเดินทางออกมา กลายเป็นว่าเกิดการระบาดไปทั่วประเทศ"
มาตรการใดๆ ที่รัฐบาลออกมา นายกรัฐมนตรีต้องแสดงความเป็นผู้นำฟังความให้รอบด้าน ใช้ความรู้แต่ละฝ่ายมากลั่นกรองเพื่อให้เกิดมาตรการที่ดีที่สุดไม่ใช่ไปแก้อย่างที่ 1 แล้วไปเจอปัญหาที่ 2 - 3 - 4 - 5 ตามมา เหมือนลิงแก้แห เราพลาดอย่างมหันต์ให้คนออกจาก กทม.เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก การควบคุมต้องทำให้โรคสยบ คือทำให้การระบาดนิ่งที่สุด เหมือนที่ไต้หวัน และจีน ทำ พรรคเพื่อไทยเคยเสนอมาตรการ 21 วัน ไม่อยากให้รัฐบาลคิดว่า เป็นความคิดจากพรรคฝ่ายค้าน แต่เป็นมาตรการที่ทางแพทย์ต่างๆ ก็เสนอมาเพื่อต้องการที่จะควบคุมการแพร่ระบาด เพราะสิ่งที่เคยเสนอคือ 1 .ป้องกันไม่ให้เชื้อใหม่เข้าประเทศ โดยปิดการเดินทางไม่ให้คนเดินทางมาหรือถ้ายังมีการเดินทาง รัฐก็จัดโรงแรม เพื่อจะกักตัว โดยมีทีมแพทย์ดูอาการของคนเหล่านั้นเป็นเวลา 14 วัน ก่อนให้เดินทางเข้าประเทศไทย 2. เชื้อที่มีการแพร่ระบาดในประเทศ ไม่ต้องเถียงกันว่าวันนี้เป็นระดับสอง หรือระดับสาม แต่เราต้องปูพรม เอ็กซเรย์ในพื้นที่ กทม.หากพบใครมีไข้ ไอ จาม ให้พบแพทย์ โดยการทำสกรีนนิ่งเทส ว่าอยู่ในข่ายหรือไม่ ให้เป็น 21 วัน เพื่อสยบโควิด-19
"การที่รัฐบาลทำขณะนี้ ยิ่งสร้างปัญหา มาตรการคิดออกมาไม่รอบด้าน ดิฉันเคยพูดว่าเมืองไทยหมอเก่ง คนไทยตื่นตัวในการดูแลตัวเอง เมืองไทยอากาศร้อน คนที่ติดเชื้อโควิด-19 มีไม่ถึง 1,000 ราย ที่ได้เคยพูดไว้คงต้องขอถอนคำพูด ซึ่งถ้ายังแก้ปัญหาไม่จบก่อนสงกรานต์ ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้น ที่เราเคยเสนอไป ไม่ได้คิดเรื่องการเมือง แต่เป็นความเห็นจากแพทย์" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว