เกิดเหตุจลาจลในเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ ทุบทำลายสิ่งของ เผาเรือนนอน โรงเลี้ยง โรงฟอร์นิเจอร์ เสียหาย นักโทษเจ็บ 5 ราย ตาย 1 ราย หนีไป 20 ราย ตามจับได้ 7 ราย จนท.เร่งคัดแยกยายนักโทษที่ไม่ร่วมก่อเหตุกว่า 2,000 ราย ออกไปเรือนจำอื่น "ณรัชต์"รุดบัญชาการ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ควบคุมสถานการณ์ เผยผู้ต้องขังเครียด กังวลกลัวติดเชื้อโควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.45 น. วานนี้ (29มี.ค.) ได้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้นภายในเรือนจำ จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากนักโทษกว่า 100 คน รวมตัวกันก่อเหตุจลาจล พยายามแหกคุก ได้ยินเสียงปืน เสียงทุบสิ่งของ ทุบกำแพงดังออกมาอย่างต่อเนื่องต่อมา มีไฟลุกไหม้ขึ้นภายในเรือนจำ และมีนักโทษ สามารถหลบหนีออกจากเรือนจำไปแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมตัว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจสกัดบนถนนทุกสายรอบ เรือนจำ ไม่ให้รถสัญจรผ่านเพื่อป้องกันอันตราย
ขณะที่ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า นักโทษประมาณ 100 ราย ได้รวมตัวประท้วง เนื่องจากมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงมีภาวะเครียด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ตนกำลังเดินทางไปด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อควบคุมเหตุการณ์ด้วยตนเอง
ทั้งนี้ เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ระหว่างการประกาศงดเยี่ยมญาติ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้รับรายงานในเบื้องต้นแล้ว และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ แล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับรายงานว่าเรือนจำแห่งนี้ มีผู้ต้องขังกว่า 2 พันคน แต่กลุ่มผู้ต้องขังที่ก่อเหตุ มีประมาณ 100 คน ซึ่งได้เริ่มพังห้องเยี่ยมญาติ โดยได้ทุบทำลายประตู และกระจกภายในห้องเยี่ยมญาติ จนได้รับความเสียหาย รวมถึงพื้นห้องที่เป็นกระเบื้อง ก็แตกพังเสียหาย นอกจากนี้ ยังทำลายสิ่งของอื่นๆภายในห้องด้วย
เมื่อเกิดเหตุขึ้นทางเรือนจำ จึงประสานขอกำลังสนับสนุน ทั้งตำรวจ ทหาร พร้อมประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้ช่วยกันระงับเหตุ รวมถึงตั้งด่านสกัดจับบริเวณโดยรอบทั้งหมด ซึ่งจากข้อมูลผู้ต้องขังสามารถหลบหนีออกจากเรือนจำไปได้จำนวนหนึ่ง โดยต้องรอสรุปตัวเลขอย่างเป็นทางการ แต่เวลานี้จับได้แล้วจำนวน 7 คน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักโทษที่ก่อเหตุจลาจล ได้จุดไฟเผาเรือนนอน โรงเลี้ยง โรงเฟอร์นิเจอร์ และจุดต่างๆในเรือนจำได้รับความเสียหายหลายจุด และมีเสียงปืนดังเป็นระยะ แต่ไม่ทราบว่าเป็นเสียงปืนจากฝ่ายไหน ซึ่งเวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ มีรายงานว่าผู้ต้องขังที่ร่วมก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.แล้ว ยังไม่มีรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บหรือไม่
ต่อมาเวลา 15.45 น. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และพ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 เดินทางมาถึงที่เรือนจำเพื่อคควบคุมสถานการณ์ด้วยตนเอง
ขณะเดียวกันได้มีการเผยแพร่ คลิปนักโทษชาย ที่หนีออกจากเรือนจำ จ.บุรีรัมย์ 6 คน ไปขโมยรถจักรยานยนต์ ของชาวบ้านเพื่อหลบหนี แต่ขับออกได้ไม่ไกล ก็ทิ้งรถ แล้วพากันวิ่งหลบหนีต่อ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งไล่ล่า ส่วนผู้ต้องขังหญิง ได้ลำเลียงออกไปไว้ที่เรือนจำนางรองก่อน ขณะที่เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยทั้งในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียงเคลื่อนกำลังเข้าไปในเรือนจำ เพื่อควบคุมสถานการณ์
เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ สามารถควบคุมเพลิงได้บางส่วน เพลิงเริ่มสงบ อยู่ในระหว่างการแยกผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ออกจากพื้นที่ นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผวจ.บุรีรัมย์ ยืนยันไม่มีผู้คุมถูกจับเป็นตัวประกัน เจ้าหนี่ปลอดภัยทุกนาย ขณะที่นักโทษได้จุดไฟเผาสถานที่ในเรือนจำได้รับความเสียหายหลายจุด
เวลา 18.00 น. ผู้ต้องขังเริ่มมีการเผาอาคารโรงนอนหญิง ขณะที่หน่วยอรินทราชเข้ามาเสริมกำลังการปฏิบัติ และปรากฏข่าว ผู้ต้องขังถูกไฟคลอกเสียชีวิต 1 ราย ขณะทางเจ้าหน้าที่ ได้ระดมกำลังตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ร่วมกับทหารจากมณฑลทหารบกที่ 26 เข้าร่วมระงับเหตุ พร้อมกับเร่งคัดแยกกลุ่มนักโทษที่ไม่ร่วมก่อเหตุ ที่เหลืออีกกว่า 2,000 ราย เคลื่อนย้ายออกเรือนจำ ไปอยู่ที่อื่น
ล่าสุดมีรายงานว่า นักโทษที่ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ 5 ราย เสียชีวิต 1 ราย ปีนกำแพงหลบหนีออกจากเรือนจำไปได้ประมาณ 20 ราย เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวกับมาได้แล้ว 7 ราย เหลือ อีก 13 ราย ยังคงหลับหนี ซึ่งกล้องวงจรปิดของเรือนจำสามารถบันทึกภาพนักโทษที่หลบหนีไปได้ชัดเจน หลายราย ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วย
ส่วนสาเหตุการก่อจลาจลครั้งนี้ สอบถามนักโทษที่หลบหนีออกมาและถูกจับตัวได้ อ้างว่า ไม่พอใจมาตรการควบคุมโรค โควิด-19 ของเรือนจำ โดยเฉพะได้แจ้งว่า จะไม่ให้ญาติเข้าเยี่ยมในช่วงประกาศควบคุม ประกอบกับได้ข้อมูลสถานการณ์ระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 จากกลุ่มนักโทษที่เข้ามาใหม่ ทำให้กลุ่มนักโทษประมาณ 100 คน จากทั้งหมดกว่า 2,100 คน ได้รวมตัวประท้วง ต่อต้านผู้คุม จนเป็นเหตุบานปลายในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.45 น. วานนี้ (29มี.ค.) ได้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้นภายในเรือนจำ จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากนักโทษกว่า 100 คน รวมตัวกันก่อเหตุจลาจล พยายามแหกคุก ได้ยินเสียงปืน เสียงทุบสิ่งของ ทุบกำแพงดังออกมาอย่างต่อเนื่องต่อมา มีไฟลุกไหม้ขึ้นภายในเรือนจำ และมีนักโทษ สามารถหลบหนีออกจากเรือนจำไปแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมตัว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจสกัดบนถนนทุกสายรอบ เรือนจำ ไม่ให้รถสัญจรผ่านเพื่อป้องกันอันตราย
ขณะที่ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า นักโทษประมาณ 100 ราย ได้รวมตัวประท้วง เนื่องจากมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงมีภาวะเครียด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ตนกำลังเดินทางไปด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อควบคุมเหตุการณ์ด้วยตนเอง
ทั้งนี้ เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ระหว่างการประกาศงดเยี่ยมญาติ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้รับรายงานในเบื้องต้นแล้ว และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ แล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับรายงานว่าเรือนจำแห่งนี้ มีผู้ต้องขังกว่า 2 พันคน แต่กลุ่มผู้ต้องขังที่ก่อเหตุ มีประมาณ 100 คน ซึ่งได้เริ่มพังห้องเยี่ยมญาติ โดยได้ทุบทำลายประตู และกระจกภายในห้องเยี่ยมญาติ จนได้รับความเสียหาย รวมถึงพื้นห้องที่เป็นกระเบื้อง ก็แตกพังเสียหาย นอกจากนี้ ยังทำลายสิ่งของอื่นๆภายในห้องด้วย
เมื่อเกิดเหตุขึ้นทางเรือนจำ จึงประสานขอกำลังสนับสนุน ทั้งตำรวจ ทหาร พร้อมประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้ช่วยกันระงับเหตุ รวมถึงตั้งด่านสกัดจับบริเวณโดยรอบทั้งหมด ซึ่งจากข้อมูลผู้ต้องขังสามารถหลบหนีออกจากเรือนจำไปได้จำนวนหนึ่ง โดยต้องรอสรุปตัวเลขอย่างเป็นทางการ แต่เวลานี้จับได้แล้วจำนวน 7 คน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักโทษที่ก่อเหตุจลาจล ได้จุดไฟเผาเรือนนอน โรงเลี้ยง โรงเฟอร์นิเจอร์ และจุดต่างๆในเรือนจำได้รับความเสียหายหลายจุด และมีเสียงปืนดังเป็นระยะ แต่ไม่ทราบว่าเป็นเสียงปืนจากฝ่ายไหน ซึ่งเวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ มีรายงานว่าผู้ต้องขังที่ร่วมก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.แล้ว ยังไม่มีรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บหรือไม่
ต่อมาเวลา 15.45 น. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และพ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 เดินทางมาถึงที่เรือนจำเพื่อคควบคุมสถานการณ์ด้วยตนเอง
ขณะเดียวกันได้มีการเผยแพร่ คลิปนักโทษชาย ที่หนีออกจากเรือนจำ จ.บุรีรัมย์ 6 คน ไปขโมยรถจักรยานยนต์ ของชาวบ้านเพื่อหลบหนี แต่ขับออกได้ไม่ไกล ก็ทิ้งรถ แล้วพากันวิ่งหลบหนีต่อ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งไล่ล่า ส่วนผู้ต้องขังหญิง ได้ลำเลียงออกไปไว้ที่เรือนจำนางรองก่อน ขณะที่เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยทั้งในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียงเคลื่อนกำลังเข้าไปในเรือนจำ เพื่อควบคุมสถานการณ์
เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ สามารถควบคุมเพลิงได้บางส่วน เพลิงเริ่มสงบ อยู่ในระหว่างการแยกผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ออกจากพื้นที่ นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผวจ.บุรีรัมย์ ยืนยันไม่มีผู้คุมถูกจับเป็นตัวประกัน เจ้าหนี่ปลอดภัยทุกนาย ขณะที่นักโทษได้จุดไฟเผาสถานที่ในเรือนจำได้รับความเสียหายหลายจุด
เวลา 18.00 น. ผู้ต้องขังเริ่มมีการเผาอาคารโรงนอนหญิง ขณะที่หน่วยอรินทราชเข้ามาเสริมกำลังการปฏิบัติ และปรากฏข่าว ผู้ต้องขังถูกไฟคลอกเสียชีวิต 1 ราย ขณะทางเจ้าหน้าที่ ได้ระดมกำลังตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ร่วมกับทหารจากมณฑลทหารบกที่ 26 เข้าร่วมระงับเหตุ พร้อมกับเร่งคัดแยกกลุ่มนักโทษที่ไม่ร่วมก่อเหตุ ที่เหลืออีกกว่า 2,000 ราย เคลื่อนย้ายออกเรือนจำ ไปอยู่ที่อื่น
ล่าสุดมีรายงานว่า นักโทษที่ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ 5 ราย เสียชีวิต 1 ราย ปีนกำแพงหลบหนีออกจากเรือนจำไปได้ประมาณ 20 ราย เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวกับมาได้แล้ว 7 ราย เหลือ อีก 13 ราย ยังคงหลับหนี ซึ่งกล้องวงจรปิดของเรือนจำสามารถบันทึกภาพนักโทษที่หลบหนีไปได้ชัดเจน หลายราย ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วย
ส่วนสาเหตุการก่อจลาจลครั้งนี้ สอบถามนักโทษที่หลบหนีออกมาและถูกจับตัวได้ อ้างว่า ไม่พอใจมาตรการควบคุมโรค โควิด-19 ของเรือนจำ โดยเฉพะได้แจ้งว่า จะไม่ให้ญาติเข้าเยี่ยมในช่วงประกาศควบคุม ประกอบกับได้ข้อมูลสถานการณ์ระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 จากกลุ่มนักโทษที่เข้ามาใหม่ ทำให้กลุ่มนักโทษประมาณ 100 คน จากทั้งหมดกว่า 2,100 คน ได้รวมตัวประท้วง ต่อต้านผู้คุม จนเป็นเหตุบานปลายในครั้งนี้