บุรีรัมย์ - เหตุก่อจลาจลในเรือนจำบุรีรัมย์ยังไม่คลี่คลาย เผาเรือนนอน โรงเลี้ยง โรงเฟอร์นิเจอร์เสียหายอื้อ นักโทษเจ็บ 5 ราย ตาย 1 ราย หนีไป 20 ราย ตามจับได้ 7 ราย จนท.เร่งคัดแยกย้ายนักโทษที่ไม่ร่วมก่อเหตุกว่า 2,000 รายออกไปเรือนจำอื่น เผยคลิปนักโทษ 6 รายหนีออกไปขโมยจยย.ชาวบ้านขี่หนี
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ก่อเหตุจลาจลตั้งแต่เวลา 11.45 น. เป็นต้นมา โดยได้จุดไฟเผาเรือนนอน โรงเลี้ยง โรงเฟอร์นิเจอร์ และจุดต่างๆ ภายในเรือนจำได้รับความเสียหายหลายจุด และมีเสียงปืนดังเป็นระยะ แต่ไม่ทราบว่าเป็นเสียงปืนจากฝ่ายไหน ซึ่งเวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมงสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะนี้ยังคงมีเปลวไฟและกลุ่มควันพวยพุ่งภายในเรือนจำหลายจุด แต่ไม่ปรากฏว่ามีเสียงปืนดังขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้ต้องขังที่ร่วมก่อเหตุจลาจลได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย ขณะนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ยังไม่มีรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บหรือไม่ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ร่วมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมในการเจรจากับนักโทษที่ก่อเหตุจลาจล ในเบื้องต้นได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 26 และกำลังตำรวจจาก สภ.เมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ เข้าไปควบคุมสถานการณ์ภายในเรือนจำ ทั้งนี้คาดว่าน่าจะรอคำสั่งจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ที่เดินทางมาติดตามสถานการณ์ และบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตัวเอง
ขณะบรรยากาศที่บริเวณด้านหน้า และถนนสายต่างๆ รอบเรือนจำ เจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นเส้นทางไม่ให้ผ่านเด็ดขาด ขณะเดียวกันก็มีญาติของผู้ต้องขังที่ทราบข่าว ต่างมาเฝ้าติดตามสถานการณ์ด้วย พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ลำเลียงผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวข้องออกมายังจุดที่ปลอดภัยก่อนเพราะเป็นห่วงลูกหลานเกรงจะได้รับอันตราย
เมื่อเวลา 15.45 น. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 ได้เดินทางมาถึงที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อบริหารสถานการณ์ด้วยตนเอง พร้อมประชุมอยู่ในห้องประชุมเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์โดยห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้า
ขณะเดียวกันได้มีการเผยแพร่คลิปนักโทษชายที่หนีออกจากเรือนจำ จ.บุรีรัมย์ 6 คน ไปขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เรือนจำเพื่อขี่หลบหนี แต่ขี่ออกได้นิดเดียวก็ทิ้งรถจักรยานยนต์แล้วพากันวิ่งหลบหนีต่อ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งไล่ล่า ส่วนผู้ต้องขังหญิงขณะนี้ได้ลำเลียงออกไปไว้ที่เรือนจำนางรองก่อนเบื้องต้น ขณะที่เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยทั้งในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียงเคลื่อนกำลังเข้าไปในเรือนจำเพื่อควบคุมสถานการณ์
เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้บางส่วน เพลิงเริ่มสงบ อยู่ในระหว่างการแยกผู้ต้องขังที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ออกจากพื้นที่ นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ยืนยันไม่มีผู้คุมถูกจับเป็นตัวประกัน เจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์นักโทษก่อเหตุจลาจลในเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ได้ และยังไม่สามารถเข้าในเรือนจำได้ เนื่องจากมีการยิงปืนต่อสู้ออกมาตลอดเวลา และนักโทษได้จุดไฟเผาสถานที่ในเรือนจำได้รับความเสียหายหลายจุด ทั้งโรงนอน โรงเฟอร์นิเจอร์ ห้องบัญชี และทุบทำลายประตู กระจก ห้องเยี่ยมญาติ เพื่อหนีออกนอกเรือนจำ
เวลา 18.00 น. ผู้ต้องขังเริ่มมีการเผาอาคารโรงนอนหญิง มีการขว้างสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ด้านนอก เจ้าหน้าที่สามารถเข้าคัดแยกผู้ต้องขังบางส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ออกนอกพื้นที่ได้ หน่วยอรินทราชเข้ามาเสริมกำลังการปฏิบัติ และปรากฏข่าวผู้ต้องขังถูกไฟคลอกเสียชีวิต 1 ราย
ขณะเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 26 เข้าร่วมกันระงับเหตุ พร้อมกับเร่งคัดแยกกลุ่มนักโทษที่ไม่ร่วมก่อเหตุที่เหลืออีกกว่า 2,000 ราย เคลื่อนย้ายออกเรือนจำไปอยู่ที่อื่น
จนถึงขณะนี้มีรายงานว่านักโทษกลุ่มที่ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ 5 ราย เสียชีวิต 1 ราย ปีนกำแพงหลบหนีออกจากเรือนจำไปได้ประมาณ 20 ราย เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวกลับมาได้แล้ว 7 ราย เหลืออีก 13 รายยังคงหลบหนี ซึ่งกล้องวงจรปิดของเรือนจำสามารถบันทึกภาพนักโทษที่หลบหนีไปได้ชัดเจน หลายรายได้เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วย
ส่วนสาเหตุการก่อจลาจลครั้งนี้ สอบถามนักโทษที่หลบหนีออกมาและถูกจับตัวได้อ้างว่าชนวนเหตุมาจากไม่พอใจมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของเรือนจำ โดยเฉพะได้แจ้งว่าจะไม่ให้ญาติเข้าเยี่ยมในช่วงประกาศควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19 ประกอบกับได้ข้อมูลสถานการณ์ระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 จากกลุ่มนักโทษที่เข้ามาใหม่ ทำให้กลุ่มนักโทษประมาณ 100 คน จากทั้งหมดกว่า 2,100 คน ได้รวมตัวประท้วงต่อต้านผู้คุม จนเป็นเหตุบานปลายในครั้งนี้
