เอนก เหล่าธรรมทัศน์
ภาคีสมาชิก ราชบัณฑิตยสภา
วันนี้ เมืองไทยไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เมื่อ นรม พล อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศ พรก ฉุกเฉินฯ เป็นสัญญาณชัดว่า เราเข้าสู่ขั้นระดมสรรพกำลังต่อกรกับโควิด-19 อย่างเด็ดขาด ราวกับทำ”สงคราม” เพื่อความอยู่รอดร่วมกัน
ก่อนนี้ ถ้าถามคนชั้นกลางขึ้นไป ส่วนใหญ่อยากได้ “ยาแรง” จากรัฐบาล ถ้าถามนักธุรกิจ: อยากให้รัฐบาลได้คำนึงถึงผลลบจากยาแรง แต่ถ้าถามผู้ใช้แรงงาน: เกรงว่ายาแรงจะทำให้พวกเรา ตกงาน ไม่มีรายได้ ไม่มีอะไรกิน
วันนี้ รัฐบาล ที่หลายกลุ่มไม่เชื่อฝีมือ ไม่วางใจ ว่าจะนำพาประเทศฝ่าวิกฤตได้ ประกาศใช้”ยาแรง”แล้ว ครับ มุ่งให้คนอยู่ในบ้านให้ได้ ระงับการชุมนุม ประชุมหรือรวมตัว พักธุรกิจทุกอย่างที่นำพาผู้คนมาอยู่ในที่แออัด ลดหรือห้ามการเดินทาง หรือกระทั่งห้ามคนออกนอกบ้าน รัฐบาลนี้ดูจะตัดสินใจแล้วว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำแค่ไหน ก็จะยอม ปัญหาที่หลายฝ่ายเป็นห่วงที่สุดคือ “แล้วคนตกงานจะทำอย่างไร?” วันนี้รัฐบาลฟันธงแล้วว่าคนว่างงานที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม จะจัดให้คนละ 5,000 บาท ต่อเดือน ส่วนผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมนั้น ทางกระทรวงแรงงานพยายามจะให้ได้รับถึง 100 เปอร์เซนต์ของรายได้ที่เสียไป ได้รับ 60-180 วัน นี่ก็ทำให้เราโล่งใจไปบ้าง นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีมาตรการอีกหลายๆ อย่าง เพื่อทุเลาความเสียหายจากการปิด หรือ การชะลอตัวของธุรกิจ
หลายวันที่ผ่านมา มีคนแจ้งผมจากหลายที่ “ที่นั่นที่นี่ เงียบสนิท ร้านรวงปิดเกือบหมด ถนนโล่งไปหมด ที่ไหนก็ไม่มีคน” ถ้าใช้สายตายามปกติ นั่นน่าเป็นห่วง แน่นอน แต่วันนี้ถ้าคิดว่าเราอยู่ในสงครามแล้ว การที่ผู้คนไม่ออกมา ไม่อยู่กันเป็นกลุ่ม เป็นหมู่ ไม่ออกมากินข้าว มาดื่มเหล้า มาเฮฮานอกบ้าน เป็นสิ่งที่จะต้องทำให้เกิดอยู่แล้ว เพราะเราทำ “สงคราม“ กับโควิดแล้ว งานที่ไม่จำเป็นจึงต้องลดหรือหยุดให้หมด นั่นเป็นแผนการรบหลักของเรานั่นเอง !
มติ ครม วันนี้ ทำให้เรามั่นใจได้แล้วว่าจะไม่มีใคร อด ใคร ลำบาก จนเกินไป และถ้าเราทำให้เมืองไทยเงียบลง ช้าลง ไปไหนกันน้อยที่สุด แยกกันอยู่ บ้านใคร บ้านมัน ดูแลคนแก่หรือคนเป็นโรคอื่นๆ อยู่แล้ว ไม่ให้เข้าใกล้เชื้อโควิดเราก็จะฟื้นตัวจากไวรัสระบาด ได้เร็วพอควร และจะมีคนเสียชีวิตไม่มากนัก
ผมดูตัวเลขสองสามวันมานี้ คิดว่าเรายังมีความหวังครับ จะคุมการขยายตัวของผู้ติดเชื้อได้ จำนวนผู้ติดเชื้อจะไม่มากจนระบบสาธารณสุขและการแพทย์พังทลาย ความช่วยเหลือจากจีน มหามิตร ก็น่าจะช่วยได้ไม่น้อย อีกอย่างหนึ่ง ข่าวดี เวลานี้มีสัญญาณชัดว่าทั้งวัคซีนทั้งยารักษาโควิด-19 จวนจะออกมาแล้ว
คนไทยนั้น รักกัน ห่วงกัน และช่วยกันเสมอในยามคับขัน เรามีในหลวง ที่ทรงห่วงใยและติดตามปัญหาจนถึงรายละเอียด พระราชทานเครื่องช่วยหายใจให้ประชาชน เรามีสมเด็จพระสังฆราชที่ทรงประทานธรรมะและให้พรกับเรา ยิ่งกว่านั้น เรามีการแพทย์และสาธารณสุขที่ติดอันดับโลก โดยเฉพาะยังมี อาสาสมัครสาธารณสุข ประจำอยู่ทุกหมู่บ้าน ที่ช่วยในการทำสงครามครั้งนี้ อย่างเต็มที่ ผมเชื่อว่าประเทศเราจะไปรอดครับ !!!!
