ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กตู่"ย้ำ ยังไม่ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลั่นกล้าตัดสินใจ ใช้มาตรการเข้มข้นสูงสุด สู้โควิด-19 แต่ยังไม่ถึงเวลา บอกใจเย็นให้รอฟังผลประชุม ครม. วันนี้ สธ.เผยพบผู้ป่วยใหม่ 122 ราย จากผับ ไม่เจอแล้ว สนามมวยเหลือแค่ 4 ราย แต่กระจายต่างจังหวัดมากขึ้น ย้ำใครกลับ ต้องแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ กักตัวเอง 14 วัน "อนุทิน"แจ้งข่าวดี เวชภัณฑ์จากจีนมาแล้ว แถมได้ยาฟาวิพิลาเวียร์อีก 1 แสนเม็ด ผู้ว่าฯ กทม.ย้ำ 7 ข้อต้องปฏิบัติ ครม.นัดประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนท์ป้องกันโควิด-19 กสทช.ชงเพิ่มสปีด ทั้งเน็ตมือถือ เน็ตบ้าน ทส.สั่งปิดอุทยานแห่งชาติ 25 มี.ค.นี้ "ศิริราช"ปิดคลินิกพิเศษนอกเวลา "อุตตม"ฟ้องคนปล่อยข่าวเฟกนิวส์ "ฟอร์ด"สั่งหยุดผลิต 2 โรงงานในไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.00 น. วานนี้ (23มี.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยใช้เวลาประชุมกว่า 3 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อหารือมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ หลังปิดสถานบริการและห้างสรรพสินค้า ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวในที่ประชุมว่า มาตรการต่างๆ ขอให้ฟังผลจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (24มี.ค.) เพราะมาตรการต่างๆ จะต้องเข้า ครม. อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ในส่วนของมาตรการที่เข้มข้นขึ้น นายกฯ ได้ย้ำว่า “ผมกล้าตัดสินใจอยู่แล้ว ในมาตรการเข้มข้นสูงสุด ผมพร้อมสั่ง ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์ก่อน แต่ยังไม่ถึงเวลา”
จากนั้นเวลา 17.00 น. ภายหลังการประชุมนายกฯ ได้เรียกประชุมวงเล็กที่ห้องรับรอง ตึกสันติไมตรี โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมประชุม
ทั้งนี้ นายกฯ ประชุมวงเล็กกว่า 40 นาที โดยก่อนเดินทางกลับนายกฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ขอให้ใจเย็นๆ"
นายกฯสั่งเร่งจัดหาหน้ากากอนามัยเพิ่ม
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการจัดหาหน้ากากอนามัยมาใช้เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงประชาชน เพราะขณะนี้ยังพบว่ายังมีไม่เพียงพอ
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยถึง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือการประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่ เพราะขณะนี้จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายเทวัญ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ยังไม่มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุย แต่มีการพูดคุยเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือประชาชน แรงงาน ที่ได้รับผลกระทบโดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเสนอในที่ประชุม ครม. ในวันนี้ (23 มี.ค)
พบผู้ป่วยใหม่ 122 ราย เจอต่างจังหวัดมากขึ้น
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่า มีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 122 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มสัมผัสผู้ป่วยหรือสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 20 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 4 ราย เป็นพี่เลี่ยงนักมวย ผู้ชมเคยไปค่ายมวย พบที่จ.นนทบุรี นครปฐม อุบลราชธานี กลุ่มสัมผัสผู้ป่วยรายงานมาแล้ว 16 ราย คือ สัมผัสกับผู้ป่วยจากการไปสังสรรค์ ทำงานกับต่างชาติ นั่งรถคันเดียวกัน ร่วมประชุม กินข้าว อาชีพพนักงานส่งของ พนักงานบริษัท นักเรียน พนักงานนวด ญาติผู้ใหญ่ พบที่ กทม. อุบลราชธานี ศรีสะเกษ
2.ผู้ป่วยรายใหม่ 10 ราย คือ เดินทางจากต่างประเทศ 4 ราย เป็นชาวไทย 2 ราย กลับจากปอยเปตและเยอรมนี เป็นชาวต่างชาติ 2 ราย เป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส และกลุ่มทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 6 ราย เป็นพนักงานผับบาร์ พนักงานขับรถรับส่งชาวต่างชาติ ดีเจในผับ พบที่ จ.สุราษฎร์ธานี ร้อยเอ็ด ภูเก็ต กรุงเทพฯ และกระบี่ และ 3.กลุ่มได้รับผลแล็บยืนยันติดเชื้อ อยู่ระหว่างรอประวัติสอบสวนโรค 92 ราย
อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 7 ราย สรุปมีผู้ป่วยสะสม 721 ราย กลับบ้านแล้ว 52 ราย เสียชีวิต 1 ราย ยังรักษาตัวใน รพ. 668 ราย โดยผู้ป่วยอาการหนัก 7 ราย ที่ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและดูแลอย่างใกล้ชิด
สำหรับแนวโน้มผู้ป่วยรายใหม่ พบในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น จากการย้ายถิ่นฐานกลับไปก่อน และหลังประกาศปิดสถานที่บางแห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งนี้ ขอย้ำว่าทุกคนที่กลับไป ขอให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือ รพ.ในจังหวัดและอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่ บ้าน อสม. แสดงตัวได้เลยว่าตัวเองมาจากกรุงเทพฯ และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำสธ. กักตัวเองที่บ้านอย่างเคร่งครัด 14 วัน ไม่ใกล้ชิดคนอื่น เว้น 1-2 เมตร งดเดินทางไม่จำเป็น ไม่ไปพื้นที่แออัด แยกสำรับอาหารทั้งหมด
ส่วนใหญ่เป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้าน
ที่ศูนย์ข้อมูลโควิด–19 ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ กล่าวว่า รัฐบาลไม่สามารถห้ามไม่ให้คนเดินทางกลับต่างจังหวัดได้ แต่มีมาตรการรองรับ คนที่กลับไป ต้องกักตัวสังเกตอาการ 14 วัน หากยังไม่กลับ ก็ขอความร่วมมือให้อยู่ อยากให้ช่วยอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2563 ที่มีการแชร์ภาพสถานีขนส่งหมอชิต มีคนกลับภูมิลำเนาจำนวนมากนั้น พบว่า 90% เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดด่านชายแดน เช่น ชาวเมียนมา ชาวลาว และมี 10% ที่เป็นชาวไทย ซึ่งเดินทางกลับภูมิลำเนา และ 3 วันที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ที่เดินทางกลับมีเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติแค่ 10%
"อนุทิน"เผยเวชภัณฑ์-ยาจากจีนมาแล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ไทยได้รับความร่วมมือจากทางการจีนในการช่วยสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย ชุดป้องกันเชื้อ หลังจากที่ไทยให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยชาวจีน ที่ป่วยในไทยก่อนหน้านี้ และยังจะสนับสนุน ข้อมูลเอกสารทางวิชาการ เพื่อให้แพทย์ไทยใช้ศึกษาหาวิธีป้องกันโรค ตลอดจนไฟเขียวให้ไทยซื้อยาฟาวิพิลาเวียร์ จำนวน 1 แสนเม็ด โดยจะให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้จัดซื้อในนามหน่วยงานรัฐ ซึ่งเป็นเงื่อนไขจากทางการจีน เพื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วย ทำให้ไทยมียาสำรองใช้รักษาผู้ป่วย 1.8 แสนเม็ด แม้จะไม่ใช่ยารักษาโดยตรง แต่ช่วยทำให้การติดเชื้อทุเลาลง และอาการปอดอักเสบดีขึ้น
ผู้ว่าฯกทม.ขอความร่วมมือปฏิบัติ 7ข้อ
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงข่าวผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ผู้ว่าฯ อัศวิน”ว่า แม้จะไม่มีอำนาจสั่งไม่ให้ท่านเดินทางออกนอกกรุงเทพฯ แต่ทุกๆ ท่าน ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และเพื่อความปลอดภัยของเราทุกคน ขอความร่วมมือจากทุกๆ ท่านอีกหลายอย่าง จึงขอออกมาตรการ 7 ข้อ ดังนี้ 1.ขอความร่วมมือทุกๆ ท่านไม่เดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯ 2.ขอให้อยู่แต่ในที่พักอาศัย 3.ขอหน่วยงานรัฐและเอกชน จัดทำมาตรการป้องกันโควิด-19 ตามแนวทางที่สธ.กำหนด 4.ขอผู้ที่เดินทางไปสนามมวย สถานบันเทิง หรือสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อ พักสังเกตอาการในที่พัก 5.ขอหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก และแออัด 6.ขอทุกๆ หน่วยงานงดจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนเป็นจำนวนมาก และ 7.ขอหน่วยงานที่ให้บริการขนส่งมวลชนทุกแห่ง ลดความแออัดของผู้โดยสาร
ประชุมครม.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเร้นท์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุมครม.วันนี้ (24 มี.ค.) จะมีการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ เป็นครั้งแรก เพื่อป้องกันแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ในเวลา 09.00 น.ตามปกติ โดยเปลี่ยนมาที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล จากปกติใช้ห้องประชุม 501 ชั้น 5 ประชุมครม. โดยจะมีเพียง นายกฯ รองนายกฯ ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายวิษณุ เครืองาม นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขาธิการ ครม. เลขาธิการกฤษฎีกา ผอ.สำนักงบประมาณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐมนตรีที่เหลือจะอยู่ที่กระทรวง ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ อยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข อยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข
สำหรับ 3 รัฐมนตรี ได้แก่ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ยังอยู่ในช่วงกักตัวเฝ้าดูอาการ 14 วัน จะมีการเชื่อมสัญญาณไป
นอกจากนี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดจุดสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี ครม. และผู้บริหาร 3 จุด คือ 1.บริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 2.ตึกนารีสโมสร และ 3.ตึกสันติไมตรี โดยห้ามสื่อมวลชน เดินตาม วิ่งตาม หรือรุมล้อม นายกฯ และ ครม. เพื่อขอสัมภาษณ์ ห้ามเข้าตึกบัญชาการ ตึกสันตีไมตรี ยกเว้นกรณีที่มีการเชิญเข้าไปทำข่าวเป็นครั้งคราว และขอความร่วมมืออยู่ในสถานที่ทำงานของสื่อมวลชนที่จัดไว้ให้ทั้ง 3 แห่งเป็นหลัก
ศิริราชปิดคลินิกพิเศษนอกเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลศิริราช ได้แจ้งปิดทำการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการทุกคลินิก ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลง สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2419 9801
"อุตตม"แจ้งความเอาผิดคนปล่อยเฟกนิวส์
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า กรณีมีบุคคลผู้ไม่หวังดี นำข้อมูลเท็จไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียว่านายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งที่ผลตรวจของนายอุตตม ยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายกับนายอุตตม จึงได้ให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงฯ ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ ปอท. เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ไม่หวังดีทุกคนแล้ว
กสทช.ชงครม.เพิ่มสปีดเน็ต
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุม กสทช. ได้นัดประชุมวาระพิเศษ โดยจะเสนอ ครม. เพื่อพิจารณา เพิ่มการใช้งานอินเทอร์เน็ตโทรศัพท์เคลื่อนที่ 10 กิกกะไบต์ต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 3 เดือน ถึง 30 มิ.ย.2563 และปรับเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตบ้านเท่าที่ผู้ให้บริการจะสามารถดำเนินการได้ หรือให้ได้ความเร็ว 100 Mbps
สั่งปิดอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า กระทรวงฯ จะปิดอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ภายใน 48 ชม. หรืออีก 2 วันข้างหน้า โดยให้โอกาสแก่เจ้าหน้าที่ได้เตรียมตัว รวมถึงพ่อค้าแม่ค้า และประชาชน ที่มีการจองที่พักของอุทยานแห่งชาติไว้ล่วงหน้าแล้ว ได้เตรียมตัวกัน อีกทั้งยังเป็นการถือโอกาสให้อุทยานแห่งชาติทุกแห่งได้ซ่อมแซมปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งจะปิดจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะดีขึ้น
ฟอร์ดหยุดผลิต 2 โรงงานในไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี จะหยุดสายการผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์เป็นการชั่วคราวที่โรงงานผลิตในอินเดีย เวียดนาม แอฟริกาใต้ และไทย รวมถึงโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง หรือ เอฟทีเอ็ม โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง หรือ เอฟทีเอ็ม จะหยุดการผลิตรถยนต์ชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.2563 จนกว่าจะมีประกาศอีกครั้ง เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการยับยั้งการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ คาดว่าจะกระทบต่อพนักงงานกว่า 2,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.00 น. วานนี้ (23มี.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยใช้เวลาประชุมกว่า 3 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อหารือมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ หลังปิดสถานบริการและห้างสรรพสินค้า ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวในที่ประชุมว่า มาตรการต่างๆ ขอให้ฟังผลจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (24มี.ค.) เพราะมาตรการต่างๆ จะต้องเข้า ครม. อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ในส่วนของมาตรการที่เข้มข้นขึ้น นายกฯ ได้ย้ำว่า “ผมกล้าตัดสินใจอยู่แล้ว ในมาตรการเข้มข้นสูงสุด ผมพร้อมสั่ง ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์ก่อน แต่ยังไม่ถึงเวลา”
จากนั้นเวลา 17.00 น. ภายหลังการประชุมนายกฯ ได้เรียกประชุมวงเล็กที่ห้องรับรอง ตึกสันติไมตรี โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมประชุม
ทั้งนี้ นายกฯ ประชุมวงเล็กกว่า 40 นาที โดยก่อนเดินทางกลับนายกฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ขอให้ใจเย็นๆ"
นายกฯสั่งเร่งจัดหาหน้ากากอนามัยเพิ่ม
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการจัดหาหน้ากากอนามัยมาใช้เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงประชาชน เพราะขณะนี้ยังพบว่ายังมีไม่เพียงพอ
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยถึง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือการประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่ เพราะขณะนี้จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายเทวัญ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ยังไม่มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุย แต่มีการพูดคุยเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือประชาชน แรงงาน ที่ได้รับผลกระทบโดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเสนอในที่ประชุม ครม. ในวันนี้ (23 มี.ค)
พบผู้ป่วยใหม่ 122 ราย เจอต่างจังหวัดมากขึ้น
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่า มีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 122 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มสัมผัสผู้ป่วยหรือสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 20 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 4 ราย เป็นพี่เลี่ยงนักมวย ผู้ชมเคยไปค่ายมวย พบที่จ.นนทบุรี นครปฐม อุบลราชธานี กลุ่มสัมผัสผู้ป่วยรายงานมาแล้ว 16 ราย คือ สัมผัสกับผู้ป่วยจากการไปสังสรรค์ ทำงานกับต่างชาติ นั่งรถคันเดียวกัน ร่วมประชุม กินข้าว อาชีพพนักงานส่งของ พนักงานบริษัท นักเรียน พนักงานนวด ญาติผู้ใหญ่ พบที่ กทม. อุบลราชธานี ศรีสะเกษ
2.ผู้ป่วยรายใหม่ 10 ราย คือ เดินทางจากต่างประเทศ 4 ราย เป็นชาวไทย 2 ราย กลับจากปอยเปตและเยอรมนี เป็นชาวต่างชาติ 2 ราย เป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส และกลุ่มทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 6 ราย เป็นพนักงานผับบาร์ พนักงานขับรถรับส่งชาวต่างชาติ ดีเจในผับ พบที่ จ.สุราษฎร์ธานี ร้อยเอ็ด ภูเก็ต กรุงเทพฯ และกระบี่ และ 3.กลุ่มได้รับผลแล็บยืนยันติดเชื้อ อยู่ระหว่างรอประวัติสอบสวนโรค 92 ราย
อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 7 ราย สรุปมีผู้ป่วยสะสม 721 ราย กลับบ้านแล้ว 52 ราย เสียชีวิต 1 ราย ยังรักษาตัวใน รพ. 668 ราย โดยผู้ป่วยอาการหนัก 7 ราย ที่ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและดูแลอย่างใกล้ชิด
สำหรับแนวโน้มผู้ป่วยรายใหม่ พบในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น จากการย้ายถิ่นฐานกลับไปก่อน และหลังประกาศปิดสถานที่บางแห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งนี้ ขอย้ำว่าทุกคนที่กลับไป ขอให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือ รพ.ในจังหวัดและอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่ บ้าน อสม. แสดงตัวได้เลยว่าตัวเองมาจากกรุงเทพฯ และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำสธ. กักตัวเองที่บ้านอย่างเคร่งครัด 14 วัน ไม่ใกล้ชิดคนอื่น เว้น 1-2 เมตร งดเดินทางไม่จำเป็น ไม่ไปพื้นที่แออัด แยกสำรับอาหารทั้งหมด
ส่วนใหญ่เป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้าน
ที่ศูนย์ข้อมูลโควิด–19 ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ กล่าวว่า รัฐบาลไม่สามารถห้ามไม่ให้คนเดินทางกลับต่างจังหวัดได้ แต่มีมาตรการรองรับ คนที่กลับไป ต้องกักตัวสังเกตอาการ 14 วัน หากยังไม่กลับ ก็ขอความร่วมมือให้อยู่ อยากให้ช่วยอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2563 ที่มีการแชร์ภาพสถานีขนส่งหมอชิต มีคนกลับภูมิลำเนาจำนวนมากนั้น พบว่า 90% เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดด่านชายแดน เช่น ชาวเมียนมา ชาวลาว และมี 10% ที่เป็นชาวไทย ซึ่งเดินทางกลับภูมิลำเนา และ 3 วันที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ที่เดินทางกลับมีเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติแค่ 10%
"อนุทิน"เผยเวชภัณฑ์-ยาจากจีนมาแล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ไทยได้รับความร่วมมือจากทางการจีนในการช่วยสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย ชุดป้องกันเชื้อ หลังจากที่ไทยให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยชาวจีน ที่ป่วยในไทยก่อนหน้านี้ และยังจะสนับสนุน ข้อมูลเอกสารทางวิชาการ เพื่อให้แพทย์ไทยใช้ศึกษาหาวิธีป้องกันโรค ตลอดจนไฟเขียวให้ไทยซื้อยาฟาวิพิลาเวียร์ จำนวน 1 แสนเม็ด โดยจะให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้จัดซื้อในนามหน่วยงานรัฐ ซึ่งเป็นเงื่อนไขจากทางการจีน เพื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วย ทำให้ไทยมียาสำรองใช้รักษาผู้ป่วย 1.8 แสนเม็ด แม้จะไม่ใช่ยารักษาโดยตรง แต่ช่วยทำให้การติดเชื้อทุเลาลง และอาการปอดอักเสบดีขึ้น
ผู้ว่าฯกทม.ขอความร่วมมือปฏิบัติ 7ข้อ
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงข่าวผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ผู้ว่าฯ อัศวิน”ว่า แม้จะไม่มีอำนาจสั่งไม่ให้ท่านเดินทางออกนอกกรุงเทพฯ แต่ทุกๆ ท่าน ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และเพื่อความปลอดภัยของเราทุกคน ขอความร่วมมือจากทุกๆ ท่านอีกหลายอย่าง จึงขอออกมาตรการ 7 ข้อ ดังนี้ 1.ขอความร่วมมือทุกๆ ท่านไม่เดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯ 2.ขอให้อยู่แต่ในที่พักอาศัย 3.ขอหน่วยงานรัฐและเอกชน จัดทำมาตรการป้องกันโควิด-19 ตามแนวทางที่สธ.กำหนด 4.ขอผู้ที่เดินทางไปสนามมวย สถานบันเทิง หรือสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อ พักสังเกตอาการในที่พัก 5.ขอหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก และแออัด 6.ขอทุกๆ หน่วยงานงดจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนเป็นจำนวนมาก และ 7.ขอหน่วยงานที่ให้บริการขนส่งมวลชนทุกแห่ง ลดความแออัดของผู้โดยสาร
ประชุมครม.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเร้นท์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุมครม.วันนี้ (24 มี.ค.) จะมีการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ เป็นครั้งแรก เพื่อป้องกันแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ในเวลา 09.00 น.ตามปกติ โดยเปลี่ยนมาที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล จากปกติใช้ห้องประชุม 501 ชั้น 5 ประชุมครม. โดยจะมีเพียง นายกฯ รองนายกฯ ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายวิษณุ เครืองาม นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขาธิการ ครม. เลขาธิการกฤษฎีกา ผอ.สำนักงบประมาณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐมนตรีที่เหลือจะอยู่ที่กระทรวง ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ อยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข อยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข
สำหรับ 3 รัฐมนตรี ได้แก่ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ยังอยู่ในช่วงกักตัวเฝ้าดูอาการ 14 วัน จะมีการเชื่อมสัญญาณไป
นอกจากนี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดจุดสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี ครม. และผู้บริหาร 3 จุด คือ 1.บริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 2.ตึกนารีสโมสร และ 3.ตึกสันติไมตรี โดยห้ามสื่อมวลชน เดินตาม วิ่งตาม หรือรุมล้อม นายกฯ และ ครม. เพื่อขอสัมภาษณ์ ห้ามเข้าตึกบัญชาการ ตึกสันตีไมตรี ยกเว้นกรณีที่มีการเชิญเข้าไปทำข่าวเป็นครั้งคราว และขอความร่วมมืออยู่ในสถานที่ทำงานของสื่อมวลชนที่จัดไว้ให้ทั้ง 3 แห่งเป็นหลัก
ศิริราชปิดคลินิกพิเศษนอกเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลศิริราช ได้แจ้งปิดทำการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการทุกคลินิก ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลง สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2419 9801
"อุตตม"แจ้งความเอาผิดคนปล่อยเฟกนิวส์
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า กรณีมีบุคคลผู้ไม่หวังดี นำข้อมูลเท็จไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียว่านายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งที่ผลตรวจของนายอุตตม ยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายกับนายอุตตม จึงได้ให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงฯ ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ ปอท. เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ไม่หวังดีทุกคนแล้ว
กสทช.ชงครม.เพิ่มสปีดเน็ต
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุม กสทช. ได้นัดประชุมวาระพิเศษ โดยจะเสนอ ครม. เพื่อพิจารณา เพิ่มการใช้งานอินเทอร์เน็ตโทรศัพท์เคลื่อนที่ 10 กิกกะไบต์ต่อคนต่อเดือน ระยะเวลา 3 เดือน ถึง 30 มิ.ย.2563 และปรับเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตบ้านเท่าที่ผู้ให้บริการจะสามารถดำเนินการได้ หรือให้ได้ความเร็ว 100 Mbps
สั่งปิดอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า กระทรวงฯ จะปิดอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ภายใน 48 ชม. หรืออีก 2 วันข้างหน้า โดยให้โอกาสแก่เจ้าหน้าที่ได้เตรียมตัว รวมถึงพ่อค้าแม่ค้า และประชาชน ที่มีการจองที่พักของอุทยานแห่งชาติไว้ล่วงหน้าแล้ว ได้เตรียมตัวกัน อีกทั้งยังเป็นการถือโอกาสให้อุทยานแห่งชาติทุกแห่งได้ซ่อมแซมปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งจะปิดจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะดีขึ้น
ฟอร์ดหยุดผลิต 2 โรงงานในไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี จะหยุดสายการผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์เป็นการชั่วคราวที่โรงงานผลิตในอินเดีย เวียดนาม แอฟริกาใต้ และไทย รวมถึงโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง หรือ เอฟทีเอ็ม โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง หรือ เอฟทีเอ็ม จะหยุดการผลิตรถยนต์ชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.2563 จนกว่าจะมีประกาศอีกครั้ง เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการยับยั้งการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ คาดว่าจะกระทบต่อพนักงงานกว่า 2,000 คน
