วานนี้ (17มี.ค.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมครม. ได้อนุมัติงบฯ 5,490 ล้านบาท เพื่อลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และขยายเวลาชำระ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า เพื่อเป็นมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19
โดยมาตรการด้านไฟฟ้า คือ ลดค่าไฟฟ้า 3% สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท เป็นเวลา 3 เดือน ช่วงเม.ย.–มิ.ย.63 คาดว่าจะต้องใช้งบฯ 5,160 ล้านบาท แบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง คาดว่าจะใช้งบฯ 1,600 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3,560 ล้านบาท
นอกจากนี้ยัง ขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการเฉพาะอย่าง อาทิ โรงแรม และกิจการให้เช่าพักอาศัย โดยไม่คิดดอกเบี้ย ตลอดระยะเวลาการผ่อนผัน โดยไม่มีการงดจ่ายไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว และผ่อนผันได้ไม่เกิน 6 เดือน ของแต่ละรอบบิล สำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้า ประจำเดือน เม.ย.-พ.ค. 63 ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานการไฟฟ้าในพื้นที่
อีกทั้งยังมีมาตรการ คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก รวม 22.17 ล้านราย วงเงิน 32,700 ล้านบาท แบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง 3.87 ล้านราย วงเงิน 13,000 ล้านบาท และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค18.30 ล้านราย วงเงินประมาณ 19,700 ล้านบาท
ส่วนมาตรการด้านน้ำประปา ของการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค มีดังนี้ มาตรการที่ 1 ลดค่าน้ำประปาในอัตรา 3 % ให้กับผู้ใช้น้ำทุกประเภท เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่รอบการใช้น้ำเดือนเม.ย.-มิ.ย. 63 คาดว่าจะใช้งบประมาณ 330 ล้านบาท แบ่งเป็นการประปานครหลวง 130 ล้านบาท การประปาส่วนภูมิภาค 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังขยายระยะเวลาการชำระค่าน้ำประปา สำหรับผู้ใช้น้ำ ที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจโรงแรม และกิจการให้เช่าพักอาศัย โดยไม่คิดดอกเบี้ย สามารถผ่อนชำระได้ไม่เกิน 6 เดือน ของแต่ละรอบใบแจ้งค่าน้ำประปา สำหรับรอบการใช้น้ำเดือนเม.ย–พ.ค.63 รวม 30,900 ราย แบ่งเป็น การประปานครหลวง จำนวน 900 ราย และการประปาส่วนภูมิภาค 30,000 ราย รวมทั้งมีมาตรการทคืนเงินประกันการใช้น้ำให้กับผู้ใช้น้ำประเภทที่ 1 ที่พักอาศัย รวม 5.7 ล้านราย วงเงิน 2,834 ล้านบาท แบ่งเป็น การประปานครหลวง 2 ล้านราย วงเงิน 1,034 ล้านบาท และการประปาส่วนภูมิภาค 3.7 ล้านราย วงเงิน 1,800 ล้านบาท
โดยมาตรการด้านไฟฟ้า คือ ลดค่าไฟฟ้า 3% สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท เป็นเวลา 3 เดือน ช่วงเม.ย.–มิ.ย.63 คาดว่าจะต้องใช้งบฯ 5,160 ล้านบาท แบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง คาดว่าจะใช้งบฯ 1,600 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3,560 ล้านบาท
นอกจากนี้ยัง ขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการเฉพาะอย่าง อาทิ โรงแรม และกิจการให้เช่าพักอาศัย โดยไม่คิดดอกเบี้ย ตลอดระยะเวลาการผ่อนผัน โดยไม่มีการงดจ่ายไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว และผ่อนผันได้ไม่เกิน 6 เดือน ของแต่ละรอบบิล สำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้า ประจำเดือน เม.ย.-พ.ค. 63 ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานการไฟฟ้าในพื้นที่
อีกทั้งยังมีมาตรการ คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก รวม 22.17 ล้านราย วงเงิน 32,700 ล้านบาท แบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง 3.87 ล้านราย วงเงิน 13,000 ล้านบาท และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค18.30 ล้านราย วงเงินประมาณ 19,700 ล้านบาท
ส่วนมาตรการด้านน้ำประปา ของการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค มีดังนี้ มาตรการที่ 1 ลดค่าน้ำประปาในอัตรา 3 % ให้กับผู้ใช้น้ำทุกประเภท เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่รอบการใช้น้ำเดือนเม.ย.-มิ.ย. 63 คาดว่าจะใช้งบประมาณ 330 ล้านบาท แบ่งเป็นการประปานครหลวง 130 ล้านบาท การประปาส่วนภูมิภาค 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังขยายระยะเวลาการชำระค่าน้ำประปา สำหรับผู้ใช้น้ำ ที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจโรงแรม และกิจการให้เช่าพักอาศัย โดยไม่คิดดอกเบี้ย สามารถผ่อนชำระได้ไม่เกิน 6 เดือน ของแต่ละรอบใบแจ้งค่าน้ำประปา สำหรับรอบการใช้น้ำเดือนเม.ย–พ.ค.63 รวม 30,900 ราย แบ่งเป็น การประปานครหลวง จำนวน 900 ราย และการประปาส่วนภูมิภาค 30,000 ราย รวมทั้งมีมาตรการทคืนเงินประกันการใช้น้ำให้กับผู้ใช้น้ำประเภทที่ 1 ที่พักอาศัย รวม 5.7 ล้านราย วงเงิน 2,834 ล้านบาท แบ่งเป็น การประปานครหลวง 2 ล้านราย วงเงิน 1,034 ล้านบาท และการประปาส่วนภูมิภาค 3.7 ล้านราย วงเงิน 1,800 ล้านบาท