วานนี้ (2 มี.ค.) ที่กองทัพอากาศ (ผบ.ทอ.)พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล เพื่อให้แต่ละเหล่าทัพส่งรายชื่อนายทหารชั้นนายพล ที่จะมีการปรับย้ายกลางปี ที่กระทรวงกลาโหม โดยมีพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทสส. และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง คงจะมีการหารือกันในหลายๆเรื่อง ทั้งการปรับย้ายนายทหารกลางปี รวมถึงการเฝ้าระวังและติดตามแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
สำหรับ การจัดทำบัญชีโยกย้ายทหารกลางปีของกองทัพอากาศ เสร็จเรียบร้อยแล้ว และรอนำเรียนให้นายกฯรับทราบ ซึ่งเบื้องต้นเป็นไปตามที่เราพิจารณา โดยยึดความเหมาะสมและสถานการณ์ปัจจุบัน และกลไกยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศ เพื่อจะก้าวไปสู่อนาคต ปี 2580 เพราะเราจะต้องดูบุคลากร และวางทิศทางของกองทัพ และเชื่อว่าจะเป็นการประชุมครั้งเดียวจบ
ผบ.ทอ. ยังถึงการดูแลสถานการณ์การจัดกิจกรรม "แฟลชม็อบ" ของกลุ่มนักศึกษาในสถาบันต่างๆ ว่า เบื้องต้น ยังไม่ได้ทราบรายละเอียดมากนัก เพียงแต่ดูผ่านสื่อต่างๆ เพราะเราให้ความสำคัญในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชาติบ้านเมือง เช่น ไฟป่า ภัยแล้ง การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด- 19 เป็นสิ่งที่เรากลัวมาก
ส่วนการดูแลสถานการณ์กิจกรรม"แฟลชม็อบ" นั้น ขอให้เป็นไปตามกลไกของบ้านเมือง ซึ่งยอมรับว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวอาจจะมีส่วนเกี่ยวพันที่จะทำให้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิช 19 เป็นไปได้รวดเร็วขึ้น แต่กองทัพอากาศ จะรับผิดชอบในเรื่องที่ใกล้ตัวมากกว่า
สำหรับการเตรียมพร้อมรับมือ การแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 ที่จะเข้าสู่ระยะที่ 3 นั้น เบื้องต้นจะต้องดำเนินการตามประกาศของรัฐบาล และสธ. ภายหลังที่มีกฎหมายใหม่ออกมา และประกาศบังคับใช้ หากสถานการณ์เข้าสู่ระยะที่ 3 ให้ทุกกองบินจัดสถานที่เฝ้าระวัง และสังเกตอาการของผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ
นอกจากนี้ในทุกกองบินก็ยังมีโรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่วนกลางเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายและคำสั่งการของรัฐบาล ในส่วนของกำลังพลของกองทัพอากาศเราได้เน้นย้ำมาตั้งแต่การแพร่ระบาดในช่วงเริ่มต้น ขณะนี้ ที่หน้ากากอนามัยอยู่ในสภาวะขาดแคลนได้ให้กำลังพลของกองทัพอากาศใส่เฉพาะบุคคลที่มีความจำเป็นเท่านั้น พร้อมสั่งการให้กำลังพล งดภารกิจไปต่างประเทศทั้งหมด
สำหรับ การจัดทำบัญชีโยกย้ายทหารกลางปีของกองทัพอากาศ เสร็จเรียบร้อยแล้ว และรอนำเรียนให้นายกฯรับทราบ ซึ่งเบื้องต้นเป็นไปตามที่เราพิจารณา โดยยึดความเหมาะสมและสถานการณ์ปัจจุบัน และกลไกยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศ เพื่อจะก้าวไปสู่อนาคต ปี 2580 เพราะเราจะต้องดูบุคลากร และวางทิศทางของกองทัพ และเชื่อว่าจะเป็นการประชุมครั้งเดียวจบ
ผบ.ทอ. ยังถึงการดูแลสถานการณ์การจัดกิจกรรม "แฟลชม็อบ" ของกลุ่มนักศึกษาในสถาบันต่างๆ ว่า เบื้องต้น ยังไม่ได้ทราบรายละเอียดมากนัก เพียงแต่ดูผ่านสื่อต่างๆ เพราะเราให้ความสำคัญในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชาติบ้านเมือง เช่น ไฟป่า ภัยแล้ง การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด- 19 เป็นสิ่งที่เรากลัวมาก
ส่วนการดูแลสถานการณ์กิจกรรม"แฟลชม็อบ" นั้น ขอให้เป็นไปตามกลไกของบ้านเมือง ซึ่งยอมรับว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวอาจจะมีส่วนเกี่ยวพันที่จะทำให้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิช 19 เป็นไปได้รวดเร็วขึ้น แต่กองทัพอากาศ จะรับผิดชอบในเรื่องที่ใกล้ตัวมากกว่า
สำหรับการเตรียมพร้อมรับมือ การแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 ที่จะเข้าสู่ระยะที่ 3 นั้น เบื้องต้นจะต้องดำเนินการตามประกาศของรัฐบาล และสธ. ภายหลังที่มีกฎหมายใหม่ออกมา และประกาศบังคับใช้ หากสถานการณ์เข้าสู่ระยะที่ 3 ให้ทุกกองบินจัดสถานที่เฝ้าระวัง และสังเกตอาการของผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ
นอกจากนี้ในทุกกองบินก็ยังมีโรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่วนกลางเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายและคำสั่งการของรัฐบาล ในส่วนของกำลังพลของกองทัพอากาศเราได้เน้นย้ำมาตั้งแต่การแพร่ระบาดในช่วงเริ่มต้น ขณะนี้ ที่หน้ากากอนามัยอยู่ในสภาวะขาดแคลนได้ให้กำลังพลของกองทัพอากาศใส่เฉพาะบุคคลที่มีความจำเป็นเท่านั้น พร้อมสั่งการให้กำลังพล งดภารกิจไปต่างประเทศทั้งหมด